กกต.หน้าแหกพผ.ปัดไม่รับกาวใจชาญชัยลั่นเรื่องในครอบครัว

คมชัดลึก : กกต.หน้าแหก ขอเป็นกาวใจ เชิญพรรคแผ่นเดินเคลียร์ปัญหา แต่ ชาญชัย ไม่เล่นด้วย อ้างเป็นเรื่องในครอบครัว แนะเลื่อนประชุมใหญ่ หวั่นปัญหาซ้ำซ้อน นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวภายหลังการเข้าพบของ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรักษาการณ์ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ น.พ.วัลลภ ไทยเหนือ มรว.กิตติวัฒนา ไชยันต์ (ปกมนตรี) ส.ส. สัดส่วนพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งอยู่ในฝั่งของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ว่า เดิมนายชาญชัย มาขอพบ เพราะต้องการทราบความคืบหน้า การสอบสวนกรณีการประชุมใหญ่เลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่ ที่ได้เลือก พล.ต.อ.ประชา เป็นหัวหน้าพรรค รวมทั้งต้องการหารือ เกี่ยวกับกรณีที่พรรคจะจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 21 มี.ค. ทั้งนี้ เธอได้แจ้งให้ทราบว่า นายสมเกียรติ น.พ.วัลลภ และ ม.ร.วกิตติวัฒนา มารอพบอยู่ เพราะต้องการเจรจาปัญหาดังกล่าว ซึ่งนายชาญชัย แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะคุยด้วย เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่ควรคุยต่อหน้า กกต. ก่อนที่จะขอตัวกลับไป อย่างไรก็ตาม เธอได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายทราบ ถึงความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนว่า ทางคณะกรรมการสอบสวน ได้สอบพยานไปแล้ว 46 ปาก และขอขยายเวลาการสอบสวนอีกเจ็ดวัน ส่วนที่จะมีการประชุมในวันที่ 21 มี.ค. ก็บอกไปว่า เมื่อยังมีข้อพิพาทอยู่ โดยที่ กกต. ไม่ได้ชี้ว่า การประชุมครั้งแรกถูกต้องหรือไม่ อาจจะทำให้มีปัญหาได้ ดังนั้น ควรรอการชี้ขาดของ กกต. ก่อน น่าจะเป็นผลดีกว่า นายชาญชัย ก็รับไปหารือกับสมาชิกว่า จะเลื่อนการประชุมออกไปหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อแผ่นดินจะต้องจัดประชุมใหญ่ เพื่อรับรองการดำเนินกิจกรรมของพรรคให้แล้วเสร็จในเดือน มี.ค. นางสดศรี กล่าวว่า เธอได้ชี้แจงเกี่ยวกับการะงับการจ่ายเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ที่พรรคได้รับอนุมัติจากกรรมการกองทุนฯจำนวน 15 ล้านบาทว่า ในเมื่อยังไม่มีความชัดเจนว่า ใครเป็นหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหาร หากมีการอนุมัติให้เบิกจ่ายเงินที่ได้รับจัดสรร และต่อมาเกิดปัญหา จะทำให้เกิดความเสียหายได้ กกต. จึงขอระงับการเบิกจ่ายไว้ จนกว่าจะมีความชัดเจน ที่สองฝ่ายมาพบกัน ไม่ใช่ กกต. เป็นคนกลาง แต่เราเห็นว่า เมื่อพบกันแล้วไกล่เกลี่ยกันได้ น่าจะเป็นเรื่องดี แต่นายชาญชัย แจ้งว่า ไม่ประสงค์จะเจรจา โดยเราก็ได้บอกนายชาญชัย ไป ถึงการจัดประชุมในวันเสาร์นี้ว่า หากไปประชุมแล้ว ต่อมา กกต. ชี้ว่า ผลการประชุมครั้งแรกถูกต้อง นายทะเบียนก็ต้องรับรอง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาขัดกัน ระหว่างการประชุมทั้งสองครั้ง หรือถ้าผลการสอบสวนออกมาว่า ครั้งแรกไม่ถูกต้อง นายทะเบียนก็ต้องมาพิจารณาอยู่ว่า การประชุมครั้งที่สอง ชอบหรือไม่ ทางท่าดีจึงควรเลื่อนออกไปก่อน ขณะที่ ม.ร.ว.กิติวัฒนา กล่าวภายหลังเข้าพบ กกต. ว่า พล.ต.อ.ประชา ได้รับการติดต่อจาก กกต. ว่า นายชาญชัย จะมาหารือกับ กกต. ถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนการประชุมใหญ่ ของพรรคเพื่อแผ่นดิน และเงินกองทุนสนับสนุนของพรรคเพื่อแผ่นดิน จึงอยากให้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เธอพร้อมด้วย น.พ.วัลลภ จึงเป็นตัวแทนมาเจรจา แต่เมื่อได้พบหน้ากัน ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพราะนายชาญชัยไม่ยอมเจรจาด้วย โดยอ้างว่า การเจรจาต่อหน้า กกต. อาจจะมีการทะเลาะกัน ซึ่งไม่สมเหตุสมผล ส่วนเรื่องการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ถ้านายชาญชัย ยังยืนยันจะจัดประชุม พวกเธอก็จะไม่เข้าร่วม เพราะถือว่า ไม่ถูกต้อง ซึ่งนางสดศรี เอง ก็บอกว่า ไม่เหมาะสม น่าจะรอผลสรุปของอนุกรรมการฯ สอบสวนก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง สดศรีแย้มดีเอสไอระบุ ปชป.ทำนิติกรรมอำพราง เปิดโผ5พรรคตั้งใหม่หลังพท.แฉปชป.เตรียมย้ายรังผวาถูกยุบพรรค อภิสิทธิ์แจงกรณีการไม่เกณฑ์ทหาร นายก อบจ.พิษณุโลกยื่น กกต.ถูกร้องเท็จ ! เรียงข่าวร้อยคน (พฤหัสบดีที่ 19 มี.ค. 52)