ฝ่าห่ากระสุน-ระเบิด 18 ชม...วิสามัญฯ บังเรศ

ฝ่าห่ากระสุน-ระเบิด 18 ชม...วิสามัญฯ บังเรศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : ปฏิบัติการจับตาย บังเรศ กินเวลานานถึง 18 ชั่วโมง การต่อสู้ระหว่างพ่อค้ายาเสพติดคนสำคัญ ลูกสมุนบังรอน สุรชัย เงินทองฟู กับตำรวจเป็นเหมือนฉากสงครามย่อมๆ ก่อนจะปิดฉากลงด้วยจุดจบของมหาโจร !?! นานนับเดือนที่ พ.ต.ต.ไชยา ภูละมูล สว.สป.สภ.คลองสิบสอง จ.ปทุมธานี สืบทราบและระแคะระคายว่าเครือข่ายยาเสพติดจาก อ.องครักษ์ จ.นครนายก มักจะนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านเลขที่ 33/1 ซอยมัสยิดแดง หมู่ 1 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กระทั่งจับกุมผู้ค้ายาเสพติดฉายา มีนใหญ่ ให้การสารภาพและซัดทอดถึงแหล่งพักยาบ้าแห่งนี้เป็นของ บังเรศ บังเรศ หรือ บาเรศ หรือ จูเรศ มีนศรี มีหมายจับคดียาเสพติดอยู่ที่ สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เคยถูกตำรวจ สภ.คลองสิบสอง จับกุมในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย แต่หนีประกันในชั้นศาล กระทั่งไปก่อคดีล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2551 จึงถูกออกหมายจับในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่ สน.มีนบุรี ประวัติที่โชกโชนเป็นเหมือนใบการันตีว่า คนร้ายรายนี้จะไม่ยอมให้จับเป็นอย่างแน่นอน กำลังชุดสืบสวนปราบปราม สภ.คลองสิบสอง 8 นาย จึงเบิกอาวุธครบมือเดินทางไปที่บ้านหลังที่ใช้พักยาเสพติด บ้านปูนชั้นเดียวยกพื้นสูงปรากฏเด่นอยู่ตรงหน้า ชุดสืบสวนปราบปรามค่อยๆ คืบคลานเข้าไปอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคงในสติ ประตูถูกล็อกจากด้านนอกเหมือนจะบ่งบอกว่า ปราศจากคนอยู่อาศัย แต่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดนิ่งสนิทอยู่ในบ้านทำให้ชุดสืบสวนปราบปรามคิดเห็นเป็นตรงกันข้าม นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีใครอยู่ในบ้านให้ออกมาด้านนอก ตำรวจล้อมไว้หมดแล้ว พ.ต.ต.ไชยา ประกาศผ่านโทรโข่งเหมือนเป็นแบบแผนของตำรวจในภาพยนตร์ไม่มีผิด ต่างกันเพียงเหตุการณ์นี้เป็นของจริงล้วนๆ ปืนจริงหากพลาดท่าเสียทีก็ตายจริง นานเท่านานในความรู้สึกของผู้รอคอยไม่มีการตอบรับ ยกเว้นเสียงเคลื่อนย้ายของหนักลากครูดไปกับพื้นปูน พ.ต.ต.ไชยา จึงสั่งลูกน้องคลานเข้าไปแกะบานเกล็ดห้องน้ำ หวังว่าจะสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวภายในได้ ทันทีที่บานเกล็ดถูกถอดลูกกระสุนจากปืนพกก็หวีดแหวกอากาศผ่านศีรษะของตำรวจที่ต้องก้มตัวหมอบลงกับพื้น ไม่นานลำกล้องอาวุธสงครามก็โผล่พ้นออกมานอกบานเกล็ดสาดกระสุนเข้าใส่จนนับไม่ถ้วน เสียงตะโกนสั่งการโหวกเหวกของ พ.ต.ต.ไชยา ดังแทรกเสียงปืนอยู่เป็นระยะ จับใจความไม่ค่อยได้ ใครยิง ใครยิง ยังไม่ทันไรแนวกระสุนก็ตรงมาที่ตัวเขา โชคดีที่กดต่ำลงกับพื้นจึงถูกแค่สะเก็ด จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียง ด.ต.บรรจบ พ่วงพี ตะโกนสวนกลับมา นายครับ ผมถูกยิง ท่ามกลางความสับสนอลหม่านและม่านกระสุนและควันปืน พ.ต.ต.ไชยา สั่งลูกน้องที่เหลือให้ระวังตัว อีกใจก็เป็นห่วงลูกน้องที่อยู่ใกล้หน้าต่าง ระหว่างที่เคลื่อนไปยัง ด.ต.บรรจบ ที่ตะโกนบอกว่าถูกยิง เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดจึงหายใจโล่งอก เนื่องจากกระสุนปืนอาก้าบี้แบนติดอยู่กับซองกระสุนปืน บางนัดถากหัวไปเท่านั้น พ.ต.ต.ไชยา : ดาบไหวหรือเปล่า เดี๋ยวผมพาไป รพ.ลำลูกกา

ด.ต.บรรจบ : ไหวครับ คิดว่าโดนไม่มาก

พ.ต.ต.ไชยา : ดาบเอาอย่างนี้นะ วิ่งไปครึ่งทางเดี๋ยวเรายิงไปที่บานเกล็ด หากได้ยินเสียงปืนดาบก็วิ่งไป แล้วเจอกันครึ่งทาง

ด.ต.บรรจบ : ครับนาย

พ.ต.ต.ไชยา : ที่เหลือระวังหลังให้ด้วย แล้วยิงเลย รายงานเหตุปะทะส่งตรงถึง พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 จึงเข้าบัญชาการเหตุการณ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี โดยระดมกำลัง กก.สส.ภ.1 หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 1 ชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ปทุมธานี สภ.องครักษ์ รวมกว่า 100 นาย มุ่งหน้ามายังจุดปะทะ ระหว่างรอกำลังสนับสนุน พ.ต.ต.ไชยา เห็นผู้หญิงคนหนึ่งกระโดดออกมาจากหน้าต่างแล้ววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ตามติดมาด้วยเสียงอาวุธสงครามที่ดังตามหลัง ชุดสืบสวนปราบปรามจึงหาที่กำบัง หลังสิ้นเสียงปืนจึงนำตัวมาสอบถามได้ความว่าเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทของ บังเรศ วัยแค่ 18 ปีเท่านั้นเอง เขามีอาวุธสงคราม ระเบิด และกระสุนจำนวนมาก ตอนนี้อยู่ในบ้านแค่คนเดียว เธอให้การด้วยความอกสั่นขวัญหาย เมื่อกำลังสนับสนุนมาถึงปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุแล้ว จึงใช้วิธียิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในบ้านหลายลูก แต่ก่อนที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษจะจู่โจมเข้าไปก็ถูกยิงสกัดและระเบิดสังหารที่ขว้างออกมาเป็นระยะ จน ด.ต.สาคร ตาคำมา ผบ.งานสืบสวน ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งความมืดโรยตัวเป็นผลเสียต่อฝ่ายตำรวจ จึงประสานดับเพลิง และ อบต.นำอุปกรณ์ส่องสว่างมาสนับสนุน เฝ้ารอจนรุ่งเช้าจึงเปิดฉากจู่โจมอีกระลอก แต่ก็ยังถูกตอบโต้จาก บังเรศ อยู่อย่างหนักแน่น ร.ต.ต.สุรศักดิ์ เพ็งอิ่ม รอง สว.นปพ.ภ.1 ถึงกับได้รับบาดเจ็บตามไปอีกราย ฉากการต่อสู้ดำเนินไปจนถึงบทสุดท้าย เมื่อเสียงปืนในบ้านเงียบลง ตำรวจจึงเข้าเคลียร์พื้นที่ นอกจากศพของ บังเรศ ที่อยู่ในสภาพพรุนไปทั้งร่าง บ้านพรุนไปทั้งหลัง กระสุนปืนตกเกลื่อนพื้นยิ่งกว่าข้าวตอกเดือนสิบ ยังพบสายยางปลายข้างหนึ่งอยู่กับจมูกอีกด้านแหย่ออกนอกหน้าต่าง ไว้สูดอากาศบริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้จึงได้ข้อสรุปที่ว่า เหตุใด บังเรศ ถึงทนแก๊สน้ำตาอยู่ได้ตลอดทั้งคืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook