เครียดหมาเพื่อนบ้าน เห่าไม่หยุด ฝรั่งวิ่งโร่ให้รถชน
ฝรั่งเฒ่าหลบมาใช้ชีวิตสงบบั้นปลายในเมืองไทยที่สัตหีบ กลับเจอเสียงหมาเพื่อน บ้านเห่ารบกวนความสงบสุขไม่หยุดหย่อน นานต่อเนื่อง 4 เดือนเต็ม พยายามแจ้งเทศบาล-ตร.ให้ช่วยแก้ไขก็ไม่เกิดมรรคผลอะไรออกมา สุดท้ายสะสมเป็นความเครียดสุดขีด ถึงกับวิ่งออกไปยืนกลางถนนจะให้รถชนตาย โชคดีเหตุเกิดกลางดึกรถน้อยเลยรอดมาได้ ขณะที่เมียไทยแจ้นเกลี้ยกล่อมจนเปลี่ยนใจ ทางด้านเพื่อนบ้านเจ้าของหมาขอโทษที่เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เผยต้นเหตุเพราะกำลังจะขายบ้าน เลยให้ลูกสาวจากกทม.มาอยู่เฝ้าบ้านที่สัตหีบ แล้วก็หาหมาพุดเดิ้ลมาเลี้ยงเป็นเพื่อน รีบส่งลูกสาวกับหมา กลับกทม.ไปแล้ว
เมื่อเวลา 01.20 น. วันที่ 19 มี.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี มีชาวต่างประเทศพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการวิ่งออกมากลางถนนจะให้รถชน เหตุเกิดบนถนนสุขุมวิท ช่วงพัทยา-สัตหีบ ระหว่างหลักกิโลเมตร 166-167 หน้าปากซอย เทศบาล 12 (โรงไฟฟ้าย่อย สถานีไฟฟ้าแรงสูง) หมู่ที่ 6 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โชคดีเป็นช่วงที่มีรถแล่นน้อย จึงรอดชีวิตจากการถูกรถชนมาได้
ต่อมาด.ต.อนุภาพ ใจศักดิ์ หัวหน้าป้อมยามตำรวจบางเสร่ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยจุดช่วยเหลือบางเสร่จำนวนหนึ่ง รุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนายเรมอนด์ เอฟ. ไบสต์ อายุ 78 ปี วิศวกรไฟฟ้าชาวเบลเยียม ยืนอยู่กลางถนน จึงให้นางบุญมี คนเยี่ยม อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222/28 หมู่บ้านสิริศา ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ ภรรยานายเรมอนด์ ช่วยพูดเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ล้มเลิกความคิดฆ่าตัวตาย จนสามารถช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เชือกมัด เพื่อป้องกันไม่ให้วิ่งออกไปให้รถชนอีก
นางบุญมีเปิดเผยว่า นายเรมอนด์มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 2 ปี ซื้อบ้านจัดสรรในหมู่บ้านสิริศา 1 หลัง ระยะแรกก็มีความสงบดี อยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนหน้านี้ประมาณ 4 เดือน เพื่อนบ้านได้ซื้อสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลมาเลี้ยง 1 ตัว ปรากฏว่าส่งเสียงเห่าทั้งกลางวันและกลางคืน นานติดต่อกัน 4 เดือนเต็ม ทำให้สามีเกิดความเครียด เคยนำปัญหานี้ไปแจ้งทางเทศบาลตำบลบางเสร่และตำรวจ ได้แต่ส่งคนมาดูเท่านั้น ไม่ได้ดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องเป็นราว เจ้าสุนัขก็ยังเห่าเหมือนเดิม เป็นเหตุให้นายเรมอนด์น้อยใจ และรู้สึกรำคาญเสียงสุนัขมากสะสมขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความเครียด ก่อนเกิดเหตุ ตนออกจากบ้านพักมานั่งอยู่ในที่พักผู้โดยสารหน้าปากทางเข้าโรงไฟฟ้าย่อย ระหว่างนั้นมีคนวิ่งมาตามแล้วบอกว่าสามีต้องการฆ่าตัวตาย ด้วยการวิ่งออกไปขวางถนน จึงตามมาเกลี้ยกล่อมไว้ได้
เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนางบุญมีถึงบ้านพัก ในหมู่บ้านสิริศา เปิดเผยว่า บ้านต้นเหตุที่เลี้ยงสุนัขและเห่าเสียงดังอยู่ตลอดเวลาคือ บ้านเลขที่ 222/24 อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านพักของตน มีเพียงถนนคอนกรีตกั้นกลาง และติดประกาศขายไว้ เจ้าของบ้านชื่อเรือโทบุญเษม กีระศรี หลังจากเกิดเหตุสามีตนพยายามจะวิ่งให้รถชน เนื่องจากเครียดเสียงสุนัขเห่า เจ้าของสุนัขได้เข้ามาขอโทษ พร้อมกับส่งลูกสาวและสุนัขพุดเดิ้ลตัวที่เห่าส่งเสียงดังกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว โดยเจ้าของบ้านนั้นบอกว่า เนื่องจากรอขายบ้านอยู่ จึงให้ลูกสาวมาเฝ้าบ้าน โดยมีสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลมาเป็นเพื่อน พร้อมกับแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะไม่นำสุนัขกลับมาเลี้ยงที่บ้านนี้อีกต่อไป
ด้านนายสมจิตร นิ่มสุวรรณ รองนายกเทศบาลตำบลบางเสร่ ที่รับผิดชอบกองสาธารณสุขเทศบาลตำบลบางเสร่ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องทุกข์แล้วได้ให้เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขฯ เข้าตรวจสอบ พบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีสุนัขร้องส่งเสียงสร้างความรำคาญให้กับสองสามีภรรยาจริง จึงแนะนำและแจ้งให้ดำเนินการแก้ไข โดยเจ้าของบ้านได้ยืนยันพร้อมที่จะแก้ไข แต่มาเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้เป็นช่วงหน้าร้อนเกรงว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะระบาด ทางเทศบาลตำบลบางเสร่ได้มีโครงการกำจัดสุนัขจรจัด ด้วยการจับและนำไปปล่อยที่ศูนย์เลี้ยงสุนัข ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ โดยมอบค่าอาหารและค่าเลี้ยงดูให้อีกด้วย ในเรื่องนี้เทศบาลตำบลบางเสร่ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
