แม้ว เศร้าสูญเสียพี่สาวคนโต แต่มาไม่ได้ รพ.พระราม9 แถลงเสียชีวิตด้วยโรคไต-หัวใจล้มเหลว พลิกเส้นทาง

แม้ว เศร้าสูญเสียพี่สาวคนโต แต่มาไม่ได้ รพ.พระราม9 แถลงเสียชีวิตด้วยโรคไต-หัวใจล้มเหลว พลิกเส้นทาง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แพทย์แถลงเยาวลักษณ์พี่สาวคนโตชินวัตรป่วยโรคไต หัวใจล้มเหลว ตั้งศพวัดเทพศิรินทร์ แม้วรู้ข่าวเสียใจบอกพี่น้องมาร่วมงานไม่ได้ นักการเมืองแห่วางหรีด

เยาวลักษณ์พี่สาวแม้วเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เวลา 11.10 น. ที่โรงพระยาบาลพระรามเก้า ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กทม. นพ.วิรุฬห์ มาวิจักขณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ในฐานะอายุรแพทย์ โรคไต แถลงข่าว การเสียชีวิตของ นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร หรือ คล่องคำนวณการ อายุ 62 ปี พี่สาวคนโตของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า นางเยาวลักษณ์ ป่วยเป็นโรคอัมพาตมา 20 ปี และไม่รู้สึกตัวมา 2 ปี มีโรคเบาหวานแทรกซ้อน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ต่อมาป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรัง และได้มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระราม 9 ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน ปี 2551 จนกระทั่งถึงแก่กรรมดัวยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อเวลา 22.40 น. คืนวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา

นพ.วิรุฬห์ กล่าวว่า ระหว่างที่นางเยาวลักษณ์รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมีญาติและลูกสาวมาเยี่ยมและดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาที่เข้ารับการรักษา รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อตอนที่ยังอยู่ประเทศไทย กระทั่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิตผู้ตายมีอาการทรุดหนัก ความดันลดต่ำลงเรื่อยๆ หัวใจเต้นเร็ว และเสียชีวิตในที่สุด

แม้วรู้ข่าวเสียใจมาร่วมไม่ได้

ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่านางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปิดเผยว่า ญาติพี่น้องได้โทรศัพท์ไปบอก พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า รู้สึกเสียใจ แต่คงไม่สามารถเดินทางกลับมาร่วมงานศพได้ ขณะที่ส่วนตัวรู้สึกช็อกหลังได้ทราบข่าว เพราะทางแพทย์ได้แจ้งก่อนหน้านี้ว่า พี่สาวยังคงมีชีวิตได้อีกนานจึงไม่คาดฝันว่า จะด่วนจากไปเร็วเช่นนี้ ขณะนี้อยู่ต่างประเทศจะรีบเดินทางกลับทันที

ขณะที่ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ ส.ส.พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับเข้าประเทศเพื่อร่วมงานศพพี่สาวอย่างแน่นอน แต่จะส่งใจและให้พี่น้อง พร้อมกับลูกๆของพ.ต.ท.ทักษิณ จัดการธุระทางนี้แทน

นำศพบำเพ็ญกุศลวัดเทพศิรินฯ

เวลา 14.00 น. ที่โรงพยาบาลพระราม 9 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พนิตพิชา และน.ส.นัทธฤทัย บุตรสาวนางเยาวลักษณ์ ไปรับศพมารดา นำมาประกอบพิธีกุศล และสวดอภิธรรมศพ ที่ศาลาใหม่ วัดสระเกศ ถนนหลานหลวง กทม. แต่สถานท่คับแคบ จึงย้ายไปที่ศาลา 11(ศรีอรทัยกุล สินทราพรรณทร) วัดเทพศิรินทราวาส มีญาติสนิทในตระกูลชินวัตร อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยลูกสาว ญาติใกล้ชิดมาร่วมไว้อาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่รถตู้ของโรงพยาบาลพระรามเก้า ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น คอมมูเตอร์ เลขทะเบียน ฮข 4853 ถอยรถเข้าสู่ศาลา 11 ได้เกิดอุบัติเหตุถอยชนเสาก่อนทางขึ้นศาลาอย่างแรง เป็นเหตุไฟท้ายรถด้านซ้ายแตกร้าว แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ทักษิณ-นักการเมืองส่งพวงหรีด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องกล่าวว่า กำหนดการฌาปนกิจศพในวันที่ 29 มีนาคม โดยเถ้ากระดูกส่วนหนึ่งจะนำไปลอยอังคาร และส่วนหนึ่งจะนำไปเก็บไว้ที่สุสานของตระกูล ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

สำหรับนักการเมืองและบุคคลสำคัญส่งพวงหรีดแสดงความอาลัยนางเยาวลักษณ์ และครอบครัว คล่องคำนวณการ อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตผู้อำนวยการการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายสุรนันท์-นุชนารถ เวชชาชีวะ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล, พล.อ.ชัยสิทธิ์-วีณา ชินวัตร เป็นต้น นอกจากนี้นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นายวราเทพ รัตนากร อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเดินทางร่วมสวดอภิธรรมศพ ในเวลา 19.00 น.ด้วย

ปชป.ชี้ตร.จ้องรวบหากแม้วมา

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณคงไม่มาร่วมงานศพนางเยาวลักษณ์ตามที่นางเยาวเรศให้สัมภาษณ์ ส่วนหนึ่งคงกลัวการจับกุม หากที่สุดแล้วพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาร่วมงานศพ คงหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ได้ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน

**************************************

นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร หรือคล่องคำนวณการ อายุ 62 ปี ผู้เสียชีวิต เกิด พ.ศ.2488 เป็นบุตรคนที่ 1 ของนายเลิศและนางยินดี ชินวัตร ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 9 คน คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร, นางเยาวเรศ (ชินวัตร) วงศ์นภาจันทร์, นางปิยนุช (ชินวัตร) ลิ้มพัฒนาชาติ, นายอุดร ชินวัตร(เสียชีวิต), นางเยาวภา (ชินวัตร) วงศ์สวัสดิ์, นายพายัพ ชินวัตร, นางมณฑาทิพย์ (ชินวัตร) โกวิทเจริญกุล, นางทัศนีย์ (เสียชีวิต) และนางยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) อมรฉัตร

เติบโตที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ด้วยวัยเด็กไปเรียนในเมือง คือ โรงเรียนดาราวิทยาลัย คนเลยไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าเป็นคนวัย 60 ปีขึ้นไป จะรู้จักดี ในฐานะลูกคนโตของนายเลิศและนางยินดี ชินวัตร บิดา-มารดา พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นลูกคนที่ 2

ปี 2517 ย้ายจาก อ.สันกำแพงมาอยู่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ช่วยกิจการครอบครัวขายผ้าไหม ดูแลกิจการโรงภาพยนต์ชินทัศนีย์ ศรีวิศาล นครเชียงใหม่ และมหานคร

ต่อมาเป็นเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ดูแลสำนักการศึกษา ฝ่ายธุรการและงานคลังเทศบาลนครเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังเคยเป็นผู้พิพากษาสมทบ และนายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ประจำเชียงใหม่ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรประกันภัย

กระทั่งสมรสกับ พ.อ.(พิเศษ)ศุภฤกษ์ คล่องคำนวณการ จึงย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯกับครอบครัว มีบุตร 2 คน คือ น.ส.ปณิตา คล่องคำนวณการ และ น.ส.นัทชฤทัย คล่องคำนวณการ

ต่อมาป่วยเป็นอัมพาต จึงรักษาตัวที่กรุงเทพฯกว่า 10 ปี เนื่องจากไม่มีธุรกิจหรือบ้านที่สันกำแพง และไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกือบ 20 ปีแล้ว

แม้ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณมากราบไหว้กู่บรรพบรุษที่วัดโรงธรรมสามัคคี ก็มีเพียงลูกหลานเท่านั้นที่มาร่วมงาน ซึ่งนางเยาวลักษณ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้ร่วมกิจกรรมการเมืองแต่อย่างใด กระทั่งเสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook