“พ่อหลวง ร.9” แรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิตของลุงวีเข่า

“พ่อหลวง ร.9” แรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิตของลุงวีเข่า

“พ่อหลวง ร.9” แรงบันดาลใจเปลี่ยนชีวิตของลุงวีเข่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“คนไทยทั้งประเทศรักพ่อรวมผมอีกหนึ่งคนที่รักพระองค์ท่านเท่าชีวิต พระองค์มีแต่ให้ รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เกิดมาในแผ่นดินในหลวงรัชกาลที่ 9 วันที่พ่อหลวงสิ้น ผมแทบหมดเรี่ยวแรงไม่มีอันทำงานน้ำตาไหลพราก หลังจากนั้นจึงคิดกับตัวเองว่าอยากจะทำความดีเพื่อพ่อบ้าง โดยตั้งใจเลิกเหล้าเลิกบุหรี่และจะทำความดีเพื่อสังคมต่อไป”

นั่นคือความรู้สึกที่กลั่นออกมาจากใจของชายวัย 55 ปี รปภ.จากคลองเตย ผู้ซึ่งมีพ่อหลวง ร.9 เป็นแรงบันดาลใจเพื่อให้เขาต่อสู้ชีวิตและพระองค์ท่านคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตของลุงวีเข่าเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

1g

ลุงวีเข่า วัย 55 ปี ได้เปิดใจกับทีมข่าว Sanook News! หลังจากที่ได้เข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 ก่อนที่จะปิดไม่ให้ประชาชนได้เข้าไปกราบเพียงแค่วันเดียว โดยคุณลุงได้มีโอกาสเข้ามากราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 ครั้งแรกในชีวิต เพราะว่าตัวเองทำงานเป็น รปภ. จึงไม่ค่อยมีเวลานัก

“ผมปั่นจักรยานมาจากคลองเตย 70 ไร่ มาถึงสนามหลวงประมาณ 9 โมงกว่าๆ แล้วก็มาเข้าคิวจนได้กราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 สมใจและได้ออกมาตอนประมาณ 5 โมงเย็นใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งแม้จะใช้เวลานานแต่ก็คุ้มค่ามาก

ที่สำคัญผมไม่รู้สึกเหนื่อยเลยเพราะมีความสุขที่คนไทยทั้งประเทศรักพ่อและมีผมเป็นหนึ่งในนั้นที่รักพ่อเท่าชีวิต พระองค์มีแต่ให้สร้างความสุขดูแลราษฎรทุกคนในแผ่นดินของพระองค์ ผมภูมิใจมากที่ได้เกิดในรัชกาลที่ 9”

เมื่อได้เข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 รู้สึกอย่างไรบ้าง..?

“ตอนที่ผมได้เข้าไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง ร.9 ในจังหวะที่เห็นพระโกศผมน้ำตาแทบไหล ผมไม่อยากเชื่อว่าพ่อหลวง ร.9 จากเราไปสู่สรรค์คาลัยแล้ว วันแรกที่ผมรู้ข่าวจากแท็กซี่คนนึงที่บอกกับผมว่าพ่อหลวง ร.9 เสด็จสวรรคตแล้ว ผมรู้สึกหมดเรี่ยวแรงทำงาน น้ำตาหลั่งรินแทบเป็นสายเลือด ไม่มีแม้สติแทบหยุดลมหายใจไปนะเดี๋ยวนั้น

เมื่อตั้งสติได้ก็คิดว่าพระองค์ไปดีแล้วขอให้พ่อหลวง ร.9 เสด็จสู่สรรค์เพราะพระองค์ท่านคือเทวดามาโปรดช่วยให้คนไทยอยู่ดีกินดี พระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อราษฎรทำเพื่อประชาชนของพระองค์ให้อยู่ดีกินดี แม้ว่าพระองค์จะทรงเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน พระองค์ท่านก็ไม่เคยย่อท้อและไม่เคยเห็นพระองค์ทรงปริบ่นว่าลำบากเลย พระองค์ช่างประเสริฐเลิศล้ำยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง”

2g2

ลุงยึดพระองค์ท่านเป็นแบบอย่าง แล้วทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง..?

“ผมตั้งปณิธานว่าจะทำความดีเพื่อพ่อหลวง ร.9 คือ จะเลิกสูบบุหรี่ เลิกกินเหล้า ซึ่งผมพยายามเลิกมาตั้งแต่วันที่พ่อหลวง ร.9 เสด็จสวรรคต หลังจากผมตั้งปณิธานว่าจะเลิกก็ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น สุขภาพก็ดีขึ้นมาก วันนี้ผมปั่นจักรยานมาไหว้พระบรมศพพ่อหลวง ร.9

เพราะว่าผมอยากออกกำลังกายเนื่องจากว่าผมเป็นโรคความดันไขมันเส้นเลือด เวลาทำงานเป็น รปภ.ก็แค่เดินไปเดินมาไม่ค่อยได้ออกกำลังเท่าไหร่เดี๋ยวเรี่ยวแรงจะทรุด คุณหมอแนะนำให้ออกกำลังกายผมจึงปั่นจักรยานเรื่อยมาเพื่อให้เลือดลมสูบฉีด”

uncle-p2

ความทรงจำที่ได้รู้จักพ่อหลวง ร.9 เริ่มขึ้นตอนไหน ทำไมถึงรักพระองค์ท่าน..?

“ตอนนั้นผมอายุประมาณ 15-16 เรียนหนังสืออยู่แถวคลองตัน เคยมีโอกาสได้เข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์พระโขนง ซึ่งก่อนที่หนังจะฉายก็จะมีการยืนเพื่อทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ผมจึงได้เห็นภาพพ่อหลวง ร.9 ครั้งแรกตอนนั้น

ซึ่งขณะที่ผมเห็นพระองค์ท่านผมก็ปลื้มใจเหมือนมีพ่อหลวง ร.9อยู่ในใจเป็นกำลังใจให้เราอยู่เสมอ ทำให้มีชีวิตชีวาและรู้สึกสดชื่นทุกครั้งที่ได้เห็นพ่อหลวง ร.9 และเป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีแรงที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไป แม้จะหนักจะเหนื่อยแค่ไหนก็อดทน เพราะผมมีพ่อหลวง ร.9 เป็นแบบอย่าง

พระองค์ท่านทรงงานหนักอยู่ตลอดเวลา แม้หนทางจะทุรกันดารหรือลำบากแค่ไหนพระองค์ท่านก็ไม่เคยย่อท้อพร้อมเดินทางเพื่อไปเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุกดิบกับราษฎรของพระองค์ทั่วทุกหนทุกแห่งในแผ่นดินไทย พระองค์เป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแต่ยังทรงงานหนัก ผมจึงมีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างและเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตตลอดไป”

uncle-p3

นี่คือความรู้สึกของชายวัย 55 ปี ที่รักพ่อหลวง ร.9 เท่าชีวิตและภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยในแผ่นดินของพ่อหลวง ร.9 พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนเพื่อให้ราษฎรของพระองค์ได้อยู่ดีกินดี

พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยทุกคนที่เกิดในผืนแผ่นดินนี้ ทั้งหมดคือเหตุผลที่ทำให้ไทยกว่า 70 ล้าน รักพ่อหลวง ร.9 เท่าชีวิต และหากอยากทำให้พ่อภูมิใจจงทำความดีเพื่อแผ่นดินเฉกเช่นพ่อของเราทุกคนในหลวงรัชกาลที่ 9

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook