นายกฯยันไม่ปลดทวีรับข้องใจฝ่ายค้านใช้สำนวน258ล.ดีเอสไอ สั่งหาต้นตอทำสำนวนรั่วถึงมือเฉลิม

นายกฯยันไม่ปลดทวีรับข้องใจฝ่ายค้านใช้สำนวน258ล.ดีเอสไอ สั่งหาต้นตอทำสำนวนรั่วถึงมือเฉลิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ทวีสั่งหาต้นตอทำสำนวนทีพีไอรั่วถึงมือฝ่ายค้านใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯยันไม่ปลดอธิบดีดีเอสไอ รับข้องใจฝ่ายค้านใช้สำนวน 258 ล.มาซักฟอกยันรัฐบาลไม่เข้าแทรกแซงเรื่องการตรวจสอบ ทวีสั่งหาต้นตอทำสำนวนทีพีไอรั่วถึงมือฝ่ายค้าน

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมอบให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ตรวจสอบข้อมูลคดีพิเศษ ที่อาจรั่วไหลไปยังฝ่ายค้านเพื่อใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พ.ต.อ.ทวี จะนำข้อมูลจากการอภิปรายมาตรวจสอบและวิเคราะห์ว่า มีเนื้อหาตรงกับสำนวนการสอบสวนหรือไม่ โดยมีคณะทำงานรวบรวมข้อมูลและเอกสารในการอภิปราย แล้วนำมาเปรียบเทียบว่าตรงกันหรือไม่

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่า ซึ่งการทำคดีของดีเอสไอจะทำงานเป็นรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งประกอบด้วยบุคลากรที่มีความรู้ ลักษณะความเชี่ยวชาญ เป็นสหวิชาชีพที่โอนย้ายมาจากหลายองค์กร หากเป็นคดีสำคัญจะใช้พนักงานสอบสวนประมาณ 15-20 คน และประการสำคัญ คือ มีพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมการสอบสวนในทุกขั้นตอน

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบข้อมูลในเรื่องดังกล่าวจะไม่มอบหมายให้บุคคลภายนอกเข้ามาตรวจสอบเนื้อหาในสำนวนการสอบสวน เพราะเห็นว่าอาจจะเกิดความเสียหายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีราุคคลถูกกล่าวอ้างปรากฏในสำนวนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีเนื้อหาข้อเท็จจริงที่เป็นความลับ อยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐานซึ่งยังไม่ปรากฏเป็นที่แน่ชัดว่า จะเป็นจริงหรือเท็จ นอกจากนี้ คณะพนักงานสอบสวนยังไม่ได้วินิจฉัยและสรุปว่า ใครถูกหรือผิด ทั้งนี้อธิบดีดีเอสไอจะเร่งตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวในเบื้องต้นก่อน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะยังคงรักษาความเป็นมาตรฐาน คือ ความเป็นกลางทางการเมือง และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว

นายกฯยันไม่ปลดทวีรับข้องใจฝ่ายค้านใช้สำนวน 258 ล.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ถึงกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังฝ่ายค้านนำข้อมูลเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 258 ล้านบาท มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลกลางสภาผู้แทนราษฎร ว่า เห็นว่ามีข่าว หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสำนวนที่หลุดออกมา โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว. ยุติธรรม เป็นผู้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ เพราะเห็นจากการที่ส.ส. ฝ่ายค้านอ่านเอกสารในสภา โดยใช้คำว่า "ข้า ซึ่งไม่ค่อยปกติ ถ้าไม่ใช่สำนวน อย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เข้าแทรกแซงเรื่องการตรวจสอบดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ดีเอสไอได้ส่งเรื่องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบประเด็นเงินบริจาค 258 ล้านบาท และอาจนำมาสู่การยุบพคประชาธิปัตย์นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าทำผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เป็นหน้าที่ของกกต. ที่ต้องสอบสวน แต่เข้าใจว่าคดีที่ดีเอสไอทำเป็นการสอบสวนบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตามหากพบว่ามีการทำผิดพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ก็ต้องส่งเรื่องให้กกต. ตรวจสอบ ซึ่งกกต. ก็ต้องทำเหมือนคดีอื่นๆ คือแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ก่อนสรุปสำนวนให้อัยการแล้วส่งฟ้องศาลต่อไป ส่วนเรื่องข้อมูลรั่วหรือไม่ คงต้องสอบถามต่อไป เพราะปกติการทำงานของดีเอสไอไม่ควรมีเรื่องข้อมูลรั่ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตรวจพบว่าข้อมูลของดีเอสไอรั่วจริง พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ ต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ผมยังไม่คิดว่าถึงขนาดนั้น เมื่อถามต่อว่า แต่ดูเหมือนรัฐบาลจะตั้งท่าจะปลดพ.ต.อ. ทวีตั้งแต่แรก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ไม่หรอกครับ รัฐมนตรี (นายพีระพันธุ์) ก็ยืนยันไปตั้งหลายครั้งแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook