"พระองค์เป็นพลัง เป็นแบบอย่างที่ดี " ความปีติของปวงชนในช่วงเวลาสำคัญแห่งชีวิต

เข้าสู่ช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นวันแรก ประชาชนที่เดินทางมาจากทั่วประเทศต่างเดินทางมุ่งหน้าสู่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเพื่อจับจองพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวาน (24 ตุลาคม
2560) แม้จะรู้ว่าจะต้องมีการเคลียร์พื้นที่เพื่อจัดระเบียบการเข้าสู่บริเวณพระราชพิธีฯ อีกครั้งในเช้ามืดวันนี้ แต่ทุกคนก็ไม่ท้อ ไม่บ่น เช่นเดียวพวกเขาเหล่านี้ที่ต้องการมาที่แห่งนี้เพื่อเก็บเรื่องราวครั้งสำคัญนี้บันทึกลงในชีวิตของพวกเขา

ด.ช. ธนภัทร กำลังเจริญ อายุ 6 ขวบ มาตั้งแต่ 11.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. 60 โดนฝนตก หนาว แต่ก็ทนได้ มากับคุณป้า น.ส. มนัสสวี กำลังเจริญ อายุ 50 ปี  "ทำงานโรงงาน ลางานมาเลย พาหลานมาส่งพ่อ พามาเพื่อให้หลานรู้จักพ่อของแผ่นดิน เจอฝนตกหลายรอบ แต่ก็ไม่ท้อ ทุกคนสู้เราก็สู้ มาจากลาดกระบัง มาแท็กซี่ ตอนนี้กินเจ ก็เตรียมอาหารมาเอง ไม่ได้อาบน้ำก็ทนได้ ไม่ได้รู้จักกับคนรอบๆ แต่มานี่ก็รู้จักกัน มาเจอกันก็รู้จักกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน"

นายประดิษฐ เอมพันธ์ อายุ 50 ปี จิตอาสาพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ทำงานรับจ้างทั่วไป ขี่จักรยานจากนครสวรรค์มาพักที่ตลาดไท แล้วขี่จากตลาดไท มาเป็นจิตอาสาที่สนามหลวงมาตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
"แรกเริมเรามาช่วยเก็บขยะ ดูแลประชาชน จนตอนนี้มาดูแลการจราจร ดูความเรียบร้อย ฝนตก แดดร้อนก็อยู่ เรารักพ่อ เราเสียสละได้ ชีวิตคนเราเกิดมาครั้งหนึ่ง ถ้าท้อจะยาก ดังนั้นอย่าท้อการทำความดีทำได้ยาก ทำความชั่วง่ายนิดเดียว
ทุกอย่างอยู่ที่ใจ"

นางจุรีวัลย์ ลิมะวรารัตน์ และนายมิกะ มากุส โจเคลา สามีชาวฟินแลนด์ พาลูกชาย 2 คน อายุ 14 ปี และ 11 ปี เดินทางมาตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา ถึงจะอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ตั้งใจรีบมาจับจองพื้นที่ ทั้งสองคนทำอาชีพอิสระ ในสัปดาห์นี้จึงจัดเวลาเพื่อมางานพระราชพิธีฯ "อยากให้ครอบครัวมาอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ มาอยู่กับพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ เป็นพลัง เป็นแบบอย่างที่ดีโดยที่ไม่ต้องบังคับ รู้สึกซาบซึ้ง และปีติมากที่ได้มาตรงนี้"