แม็กกี้ อาภา กับคำครหา...มีวันนี้ได้เพราะชื่อเสียงของพ่อ

แม็กกี้ อาภา กับคำครหา...มีวันนี้ได้เพราะชื่อเสียงของพ่อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เปิดใจให้สัมภาษณ์แบบไม่มีกั๊กเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงสาว “แม็กกี้ อาภา” ที่หลายคนต่างรู้จักในฐานะลูกสาวคนสวยของนักแสดงอาวุโสคุณพ่อ “อรุณ ภาวิไล” หรือ “ซูโม่ตุ๋ย” ซึ่งเจ้าตัวได้ยอมรับว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องฝ่าฝันและฝึกฝนความสามารถต่างๆ ให้หลุดพ้นคำครหาว่าที่กว่ามาเป็นนักแสดงในวันนี้ได้นั้นเพราะชื่อเสียงของคุณพ่อ

ช่วงนี้เห็นว่าทำงานค่อนข้างหนัก มีเวลาได้เจอคุณพ่อบ้างไหม ?
“ได้เจอบ้างค่ะ ได้พูดคุย ปรึกษากัน พ่อก็เป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ที่ผ่านมา ก็จะมาเล่าสู่กันฟังว่าต้องระวัง ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ท่านก็มีเป็นห่วงกันอยู่เสมอ คอยให้กำลังใจกันค่ะ”

“โดยส่วนตัวหนูจะสนิทกับคุณแม่มากกว่าค่ะ แต่กับคุณพ่อก็จะให้คำแนะนำในเรื่องการทำงาน มันจะคนสไตล์กัน ผู้หญิงกับผู้หญิงจะคุยกันรู้เรื่อง ส่วนผู้ชายจะเป็นห่วง ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยแสดงออก จะให้คุณแม่ดูแลเต็มที่ค่ะ”

มีคำสอนไหนของคุณพ่อที่เราจำมาใช้ตลอดบ้าง ?
“พ่อจะบอกอาชีพนักแสดงตรงนี้ไม่ใช่อาชีพที่มั่นคงนะ เขาจะเป็นห่วงเรื่องงาน แต่พ่อก็ภูมิใจในหน้าที่ของเราที่เราสามารถรับผิดชอบได้ในอายุเท่านี้ แต่จะคอยบอกว่าเราต้องมีงานที่มั่นคง รักษาคุณภาพของนักแสดงเอาไว้ มันจะต้องเปลี่ยนไปตามยุคตามวัย เราต้องปรับตัวให้อยู่ได้ในสังคม”

ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู้อาชีพนักแสดงอย่างเต็มตัว คุณพ่อสนับสนุนด้านนี้หรือเปล่า ?
“ตอนแรกไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่ค่ะ คนที่ผลักดันน่าจะเป็นคุณแม่ จนเราได้มาพิสูจน์ตัวเอง ได้เล่นละคร มีคนพูดถึง จนคำชื่นชมตรงไปถึงคุณพ่อและญาติพี่น้อง เขาก็ภูมิใจค่ะ ยิ้ม และคงคิดคิดว่าเราทำได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่เราสามารถพิสูจน์ทำให้เขาเห็นว่าเราทำได้ ซึ่งเราก็ภูมิใจในระดับหนึ่ง แต่เขาก็ยังมีความเป็นห่วงในเรื่องหน้าที่การงานด้วย”

“ที่เขาไม่ค่อยสนับสนุนให้เป็นนักแสดงในช่วงแรกๆ คงเพราะคิดว่าอาชีพนักแสดงไม่ได้ง่าย ค่อนข้างที่จะเหนื่อย และเขาก็ผ่านอะไรมาเยอะในสมัยก่อน ด้วยความเป็นห่วงอาจจะไม่อยากให้ลูกถูกเนื้อต้องตัวกับใคร อาจจะยังมีความหวงอยู่ อย่างฉากที่มีเลิฟซีนก็ต้องโทรปรึกษาคุณพ่อก่อน โชคดีที่พ่อเป็นคนหัวสมัยใหม่ เขาเลยบอกว่าถ้าลูกไม่โดนจูบวันนี้ วันข้างหน้าก็ต้องโดนจูบอยู่ดี ก็เล่นให้มันเต็มที่เลย”

ทำไมเราถึงอยากจะเป็นนักแสดง ?
“มันเป็นสถานการณ์บังคับที่เริ่มจากการที่แม่พาไปประกวดก่อน แต่ตอนนั้นเราหนีเวทีเลยนะ กลัวมาก ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย แต่พอหลังจากนั้นก็ค่อยๆ ฝึกค่ะ เรื่องแรกที่ได้เล่นคือน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ตอนนั้นท้อมาก เพราะเราไม่เคยเรียนการแสดงมาก่อน พอได้ไปเจอประสบการณ์จริงก็เริ่มเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นท้อนะ แต่พอเราเริ่มปรับตัว เริ่มซึมซับ ก็เริ่มสนุกกับมัน หลังจากนั้นก็เล่นละครไปเรื่อยๆ จนทำให้มีงานหนัง งานละครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเล่นได้หลายบทบาท มันก็เป็นอีกสิ่งที่เราภูมิใจในตัวเองว่าคนจ้างงานเราต่อจากความสามารถของเราจริงๆ”

03

เคยท้อจนถึงขั้นไม่อยากเป็นนักแสดงเลยไหม ?
“มีอยู่แล้วค่ะ คนที่ให้กำลังใจก็มีแต่พ่อและแม่ เขาก็สงสารเรานะที่เราโดนดุโดนด่าแต่เราต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ค่ะ ถึงทำให้เราแข็งแรงและโต เคยมีคนถามเหมือนกันว่าเข้ามาในวงการบันเทิงได้เพราะใช้เส้นหรือเปล่า อันนี้อยากบอกเลยว่าการเป็นลูกของพ่อตุ๋ยนั้นมีส่วนที่ทำให้คนรู้จักเรา แต่การที่เราจะมีงานต่อหรืออยู่ในวงการบันเทิงนี้ได้หรือไม่ มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองเลย ขึ้นอยู่กับความสามารถหรือผลงานของเราทั้งนั้นเลย ถ้าเรางานไม่ดี ความรับผิดชอบไม่ดี ก็ไม่มีนายจ้างคนไหนอยากจ้างเรา มันก็จะทำให้เราเงียบหายไป แต่อันนี้เรามีงานต่อเนื่องตลอด ทำให้เรารู้ว่าเราก็ลบคำครหาตรงนี้ได้นะ อีกอย่างจริงๆ แล้วคนที่ผลักดันเข้าวงการก็เป็นตัวหนูเองกับแม่ ไม่ใช่พ่อเลย เราเดินด้วยตัวเอง ยื่นงาน ไปแคสงานด้วยตัวเอง”

เราเครียดไหมที่บางคนมองว่า แม็กกี้ อาภา มีวันนี้ได้ก็เพราะชื่อเสียงของคุณพ่อ ?
“ไม่เลยค่ะ เรามั่นใจว่าเราอยู่ตรงนี้ได้ด้วยความสามารถของเรา”

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ แม็กกี้ อาภา กับคำครหา...มีวันนี้ได้เพราะชื่อเสียงของพ่อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook