กองทัพชี้แจง ดราม่าเบี้ยเลี้ยงทหารใต้ หักแล้วเหลือวันละ 47 บาท

กองทัพชี้แจง ดราม่าเบี้ยเลี้ยงทหารใต้ หักแล้วเหลือวันละ 47 บาท

กองทัพชี้แจง ดราม่าเบี้ยเลี้ยงทหารใต้ หักแล้วเหลือวันละ 47 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากมีการโพสต์ภาพทหารนายหนึ่ง พร้อมภาพบัญชีจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงนายทหาร เป็นเงินค่าเบี้ยเลี้ยงวันละ 104 บาท โดยมีการคำนวณยอดหักค่าใช้จ่าย อาทิ ค่ารถ, ค่าอาหาร กำกับอยู่ด้านหลัง โดยในเพจเขียนข้อความบรรยายว่า

“เสียงครวญจากทหารชายแดน ได้รับรู้แล้วก็เศร้าใจ เบี้ยเลี้ยงวันละ 104 บาท หักโน่นนี่ เหลือวันละ 47 บาท อ่านไม่ผิดหรอก 47 บาท ถ้วนๆ ที่ชอกช้ำไปกว่านั้น เงินออกไม่เคยตรงเวลา!!! ที่สงสัยคือ งบทหารเยอะมาก ซื้ออาวุธมาก็เพียบ แต่ทหารชั้นผู้น้อยที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ได้เบี้ยเลี้ยงตอบแทนน้อยมาก และล่าช้าตลอด เขาไม่ได้ต้องการปูนบำเหน็จ 9 ขั้น 6 ยศ ตอนสละชีพ แต่ตอนยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ช่วยดูแลพวกเขาดีกว่านี้ได้ไหม เงินเดือนหรือค่าตอบแทนข้าราชการมันไปล่าช้าอยู่แถวไหน ภาระครอบครัวเขาก็มีนะ”

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) พันเอกหญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งข้อมูลที่ถูกนำไปเผยแพร่ทางโลกออนไลน์ เป็นเงินเบี้ยเลี้ยงสนาม ซึ่งเป็นคนละส่วนกับเงินเดือน ซึ่งทหารกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ ที่ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้รับทั้งเงินเดือน และค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเดือนละ 2,500 บาท รวมได้รับประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ซึ่งจะได้รับเงินเต็มจำนวนจากทางราชการ นอกจากนี้ยังได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงสนามเพิ่มเป็นพิเศษ

ค่าเบี้ยเลี้ยงสนามนี้ ทหารชั้นประทวนจะได้รับคนละ 240 บาทต่อวัน ส่วนทหารกองประจำการได้รับคนละ 104 บาท ต่อวัน ส่วนการหักค่าใช้จ่ายเบี้ยเลี้ยง เป็นค่าใช้จ่ายของแต่ละบุคคล จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่า ทหารแต่ละนายใช้จ่ายเงินในส่วนนี้ไปเท่าใดบ้าง

ด้าน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า ที่ผ่านมา กรณีทหารเหลือเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงน้อยมากเมื่อถึงเวลาสิ้นเดือน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย แต่ก็มีหลักฐานพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า เกิดจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของเจ้าตัว ขณะอยู่ภายในหน่วย แต่กรณีที่ถูกนำภาพไปแชร์ในโลกออนไลน์ ดูจากบัญชีจ่ายเบี้ยเลี้ยงในภาพแล้ว ยังไม่พบความผิดปกติ ตัวเลขรายรับ และการหักค่าใช้จ่าย ก็เป็นไปตามมาตรฐานเกณฑ์กติกาที่ยอมรับกัน

พันเอกวินธัยบอกอีกว่า ขอให้มั่นใจได้ว่า หน่วยต้นสังกัด ต้องดูแลทหารอย่างดีที่สุดตามนโยบายของกองทัพ ซึ่งกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ขณะนี้ หน่วยงานต้นสังกัดเองก็จะต้องไปตรวจสอบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร หากพบว่าไม่เป็นธรรมกับกำลังพลระดับพลทหารจริง ทางผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook