เปิดใจ 'ชาคริต' หลังวิวาห์รอบ 2 บอกเป็นรักครั้งสุดท้าย

เปิดใจ 'ชาคริต' หลังวิวาห์รอบ 2 บอกเป็นรักครั้งสุดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ชาคริต" เปิดใจ ครั้งแรก หลังแต่งงานฟ้าแลบ! แอน ภัททิรา บอกเป็นรักครั้งสุดท้าย

สิ้นลายพระเอกไม้เลื้อยอย่างเป็นทางการ สำหรับหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม ที่ตอนนี้กำลังจะได้เป็นคุณพ่อป้ายแดงแล้ว หลังออกมาประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแล่บกับสาวนอกวงการ แอน ภัททิรา รุ่งโรจน์ และเข้าพิธีแต่งงานกันไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่นมาก มีแขกมาร่วมงานเป็นบุคคลที่ทั้งสองสนิทและใกล้ชิด ล่าสุดว่าที่คุณพ่อได้มานั่งเปิดใจหลังแต่งงาน ในรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง one 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และเป๊กกี้ ศรี ธัญญาเป็นพิธีกร

ความรู้สึกหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้าง?

“จุดตื่นเต้นจุดพีคมันเลยไปตั้งแต่ที่เรารู้ว่าเรากำลังจะมีน้องแล้ว อันนี้มันเป็นเรื่องของการที่เราตั้งใจคุยไว้ว่า เราจะไปกราบผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการ ทำพิธีแบบเรียบง่าย พอมีน้องขึ้นมามันก็เป็นข่าวดีกลายเป็นอีกเรื่อง ไม่ใช่ว่าพอทำพิธีเสร็จแล้ว มามีน้อง แต่นี่มาเป็นพร้อมกันไปเลย กลายเป็นสองเด้ง ก็ดีใจที่กลายเป็นว่าเราได้ทำทุกอย่างตามขนบธรรมเนียมของพิธีที่บ้านคุณแอนเค้า เป็นแบบพิธีโบราณเซ่นผีบรรพบุรุษ แล้วที่สำคัญที่สุดคือผูกข้อมือ หน้าที่ของเราคือทำตามประเพณีเค้าให้เรียบร้อย แล้วฝากเนื้อฝากตัว ขอขมาขอพร แล้วเหมือนเราได้ทำสเตปแรกของการเริ่มของชีวิตคู่ของเราอย่างถูกต้อง วันนั้นต้องบอกว่า นอกจากจะมีครอบครัวแล้ว ก็มีเพื่อนๆ ที่สนิทไป ทุกคนแฮปปี้มากๆ ก็ขอบคุณทุกคน แล้วพี่ๆ สื่อน่ารักมาก พวกเราตั้งใจอยากให้เงียบๆ อยู่กันอย่างสบายๆ”

จะจัดงานอีกรอบในกรุงเทพมั้ย?

“ไม่เลย จริงๆ เราคิดว่าไม่ต้องใหญ่โต อยากให้เรียบง่าย สบายๆ ของคนในครอบครัว เราอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง ไม่ใช่คนของสื่อที่ต้องป่าวประกาศ อยากเป็นแบบพอมีคนมาถาม เราก็บอกว่าเราแต่งงานไปก่อนหน้าแล้ว ทำไมเราต้องบอกคนทั้งโลก แต่โอเค เราเข้าใจว่าเราเป็นนักแสดง แต่บางครั้งตัวเราเรารู้สึกว่าเราเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แล้วเราก็เป็นคนที่เรียบง่ายมาก เราก็ไม่คิดว่ามันจะต้องใหญ่โตอะไร เอาจริงๆ เราเคยผ่านตรงนั้นมาแล้วด้วย เลยอยากจัดแบบเรียบง่าย”

งานปาร์ตี้สละโสดมีกี่คน?

“วันนั้นคือกินข้าวกับเพื่อนๆ เฉยๆ เลย ภรรยาก็ไปด้วย”

“เมื่อก่อนเราคุยกันเล่นตลอดเวลาว่า ถ้ามีหลาน อยากมีหลานให้แม่เราจัง แม่จะได้หายจากการป่วย จะได้มีกำลังใจรอเลี้ยงหลานนะ และแม่เค้าอยากมีหลานมานานแล้ว เค้าถามจนเลิกถามแล้ว จนเค้าป่วยขึ้นมา มันเป็นสัจธรรมจริงๆ อ่ะ หลายคนที่พ่อแม่ป่วย ที่ย่าป่วย พอมีหลานขึ้นมา เค้าก็มีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ ซึ่งก็ต้องบอกว่า มันมีพลังบางอย่างที่เหลือเชื่อ เราก็ยังคุยเล่นกันอยู่ บอกว่าระวังจะได้แฝดนะ เพราะพ่อผมแฝดก็เป็นแฝดเหมือนกัน แต่ว่าอีกคนหลุดเหมือนกัน ตอนนี้ซ้ำรอยเลย เหมือนของผมเลย พอเรารู้ว่าหลุดไปคนนึง เสียสติเลย ใจหายไปเหมือนกัน เพิ่งรู้ว่าใจหล่นไปตาตุ่มเป็นยังไง แต่คนที่ทรมานกว่าคือคุณแอน แต่ด้วยอายุที่มันไม่ใช่น้อยๆ กันแล้ว หมอเค้าก็เตือนมาแล้วว่าให้ระวังนะ คือหมอไม่การันตีว่าสุขภาพเด็กจะเป็นยังไง จะครบมั้ย คือเด็กจะมาเกิดมันไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ผมเชื่อว่าฟ้าเค้าให้มาแล้ว มันเลยเป็นสิ่งที่เราต้องรักษาให้ดีที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด”

ไปเจอกันที่ไหน?

“การเจอกันมันเริ่มจากการเป็นเพื่อน คุยกัน ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ไปกินข้าวกัน จากนั้นเริ่มรู้สึก มันคุยกันแล้วก็แหย่กันโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วก็กวนบาทากันมาก ด้วยความที่เราเป็นคนตลกทั้งคู่ บ้าๆ บอๆ ทั้งคู่ ทัศนคติมันตรงกัน พอเริ่มรู้สึกดุ่ยๆ แล้ว ก็บอกให้ห่างกันก่อน เริ่มถอยตัวออกห่างก่อน มันไม่ใช่แล้ว คิดไปเองแล้ว จนสุดท้ายพอห่างหายไป 2-3 อาทิตย์ก็เริ่มคิดถึงกัน เค้าเองก็มาเหมือนกัน ก็เริ่มดึงดูดเข้ามาเรื่อยๆ”

ตอนที่ตกลงเป็นแฟนกันมันโมเม้นท์ไหน?

“ก็ยังมานั่งถามกันอยู่ว่า ตกลงเราเป็นอะไรกัน นี่เราจีบกันใช่มั้ย ก็เลยลองดู พอเริ่มเปิดใจคบกันก็ศึกษากันเต็มที่ จนมันเริ่มกลายเป็นความรู้สึกที่ดีต่อกัน”

บางคนพูดกันว่า ถ้าพี่ไม่ได้มีน้อง พี่จะไม่แต่ง?

“อ๋อ ไม่ อันนี้เราบอกไว้แล้ว เรื่องที่เราบอกว่าเราจะไปกราบผู้ใหญ่ อย่างที่เราคุยกันไว้ เราตกลงกันแล้วว่า เราก็อยู่ของเราเงียบๆ อย่างนี้แหล่ะ อยู่กันสบายๆ เรารู้สึกว่าพอเป็นเราเสร็จปุ๊บ เดี๋ยวถ้าเราออกไปกินข้าว คนก็ต้องสงสัย เดี๋ยวก็มาถามแล้ว สื่อก็ต้องมาถามด้วยความที่เราเป็นนักแสดง และเป็นหน้าที่ของสื่อเค้า เพราะฉะนั้นผมก็เลยตั้งข้อไว้เลยว่า มันเรียบง่ายได้ แต่มันจะมีเรื่องช็อกนิดนึง ถ้าข่าวออกไป คนเริ่มสงสัยอยากรู้ คนที่น่าตกใจที่สุดคือบ้านคุณนะ

เพราะเค้าไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เลยบอกเค้าว่า เราทำให้ถูกต้องเถอะ ไปกราบเค้าให้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะผมเองก็เคยผ่านชีวิตตรงนี้มา เพราะฉะนั้นความตั้งใจที่จะอยู่ด้วยกัน มันมีมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่โชคดีที่เรามีน้ำยา(หัวเราะ)”

คนมองว่า แอนไม่สวยพอ?

“สวยแล้วมันกินไม่ได้ ความสวยมันเหมือนเป็นโบนัสที่มาพร้อมกันกับคนที่มีจิตใจงดงามที่ทำให้เรายิ้ม ทำให้เราหัวเราะทั้งวัน เราแคร์เค้า อยู่ดีๆ ก็ทำให้แม่เราแข็งแรงขึ้นมา ที่สิ่งสำคัญที่สุดคือองค์ประกอบทุกอย่างมันลงตัว”

แม่เป็นยังไงบ้าง?

“จากที่เมื่อตอนต้นปีท้อหลายๆ อย่าง จะปลงให้เหมือนหลับไป ตั้งแต่พอเริ่มมีคุณแอนเข้ามาดูแล และรู้ว่าเราจะมีน้อง แม่ดีใจมากตอนที่เราบอก จากที่อยู่แบบเบลอๆ ไม่รับรู้อะไร ก็เริ่มแข็งแรงขึ้น เวลาเจอคุณแอนก็เข้าไปลูบท้อง ผมว่ามันเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง”

เมื่อวานที่คริตโพสต์ไอจี คุณแอนเข้าไปกราบคุณแม่?

“เค้าแทบจะกระโดดข้ามเวทีลงมา เลยบอกให้ใจเย็นอ้อมมากราบ มันทุกโมเม้นท์ครับ ทุกอิริยาบถ ทุกอย่างมันมีความซาบซึ้ง มีแต่ความขอบคุณที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ตอนแรกผมก็กังวลว่าเค้าจะมางานแต่งได้มั้ย เพราะมันต้องนั่งรถไกล เย็นก่อนหน้าวันงาน ผมก็เข้าไปกราบเค้า เสร็จปุ๊บเค้าก็ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แล้วก็นั่งมาให้ได้ โดยที่ไม่อาละวาดโวยวาย ไม่ใจร้อน ไม่อะไรเลย มันเป็นสิ่งที่หาคำพูดอะไรมาเปรียบเปรยไม่ได้”

อยากได้เพศอะไร มีชื่อลูกในหัวยัง?

“ตอนเด็กๆ เลยอยากได้ลูกแฝด แต่ก็ห่วงผู้หญิงว่าต้องมาท้อง 9 เดือน แต่คิดอีกทีมีครั้งเดียวไปเลยก็ดี อยากได้ผู้ชายคน ผู้หญิงคน อยากได้ 2 คนครับ ตอนนี้มี 1 คนแล้ว อนาคตก็อยากมีอีกคน แต่ไม่รู้ว่าครั้งต่อไปจะต้องพึ่งหมอรึเปล่า(หัวเราะ) แต่ขอลองแบบธรรมชาติก่อน ชื่อลูกในหัว เราคิดไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยว่า ถ้าผู้ชายให้ชื่อ โพธิ ส่วนผู้หญิงเราอยากได้ชื่อว่า สกาย แต่คุณแอนเค้าอยากให้ชื่อ จันทร์เจ้า ครับ”

การแต่งงานครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายรึเปล่า?

“ผมคงจะต้องตอบอย่างใจจริง ว่าเป็นครั้งสุดท้ายครับผม(หัวเราะหน้าแดง)”

ติดตามรายการ "คุยแซ่บShow" ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow และรับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ

อัลบั้มภาพ 30 ภาพ ของ เปิดใจ 'ชาคริต' หลังวิวาห์รอบ 2 บอกเป็นรักครั้งสุดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook