ตำรวจนครบาลพาสาวแบงก์ต่อกรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งความไว้

ตำรวจนครบาลพาสาวแบงก์ต่อกรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งความไว้

ตำรวจนครบาลพาสาวแบงก์ต่อกรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แจ้งความไว้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวแบงก์คนดัง คลิปต่อกรกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังว่อนเน็ต เข้าแจ้งความตำรวจราชบุรี เพื่อความปลอดภัย ยืนยันไม่ได้ถูกไล่ออก

ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ร่วมแถลงผลการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ โดยที่ผ่านมา สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ 113 หมายจับ ตามจับได้แล้ว 80 หมายจับ แต่ยังมีผู้หลบหนีไปต่างประเทศอีก 7 ราย รวมทั้งยังสามารถยึดเงินได้กว่า 120 ล้านบาท เบื้องต้นสามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ 4 ราย และจะทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ตำรวจสามารถจับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้อีก 8 ราย ซึ่งรายล่าสุด คือ นายทอมมี่ วู สัญชาติอินโดนีเซีย ที่ร่วมกับชาวไทย ใช้ประเทศฟิลิปปินส์เป็นฐานที่มั่นในการกระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบความเชื่อมโยงทางคอมพิวเตอร์ พร้อมกันนี้กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ ประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีจะถูกดำเนินคดีทุกราย ดังนั้น หากผู้ใดเข้าข่ายการกระทำดังกล่าว ขอให้ไปปิดบัญชีทันที ทางด้าน ปปง. ได้จัดตั้งสายด่วน 1710 สำหรับผู้เสียหายจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โดยตรง พร้อมตรวจสอบบัญชีความเสี่ยงสูงที่รับจ้างเปิดบัญชีต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวว่า โดยพฤติการณ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่มักแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือของหน่วยงานรัฐ โทร.เข้าไปหลอกลูกค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องป้องกันลำบาก เพราะแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีช่องทางในการหลอกลวง

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า มีขบวนการลักษณะนี้เกิดขึ้น ถ้ามีบุคคลแอบอ้างขอบัญชีธนาคารหรือให้ทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ อย่าหลงเชื่อ ส่วนประชาชนที่มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีจะทราบหรือไม่ทราบก็ตาม ขอให้หยุดการกระทำ เพราะหลังจากนี้จะให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งตรวจสอบและดำเนินคดีกับทุกรายที่ตรวจสอบเจอ

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเย็นวานนี้ เวลา 17.30 น. (4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปราบปรามและกระทำความผิดทางคอเซนเตอร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายงานป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ได้พา นางสาวมารีนา วัย 29 ปี พนักงานสาวแบงค์ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ "หลอกโอนเงิน" แต่กลับถูกเปิดโปงพฤติกรรมผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ กระทั่งสามารถตามจับได้ ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ธีระศักดิ์ ยิ้มนัย พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี

โดยได้นำหลักฐานคลิปการสนทนาผ่านถ่ายทอดสดบนเฟซบุ๊ก ระหว่าง น.ส.มารีนา กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ และ ภาพจากหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์ของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาเป็นพยานและหลักฐาน พร้อมทั้งให้ปากคำเพื่อลงบันทึกการแจ้งความ โดยที่พนักงานสอบสอนได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันพยายามฉ้อโกง” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจึงได้ทำการอายัดผู้ต้องหาทั้งหมดไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะทำการขยายผลผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดต่อไป

น.ส.มารีนา พนักงานสาวธนาคาร ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากข่าวที่ระบุว่าตนเองได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ไปอยู่สาขาใหม่ ซึ่งทางผู้บริหารอ้างถึงความปลอดภัย และมีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่า ตนถูกไล่ออกนั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้ถูกไล่ออกแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าวและกระแสดังในโซเชียลมีประชาชนทั่วไปต่างโพสต์ให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก และต้องขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงใย

ในส่วนที่วันนี้มีการแถลงข่าวสามารถติดตามจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ได้ถึง 80 คน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็มีการดำเนินคดีตามขั้นตอน และตนก็รู้สึกดีใจและไม่คิดว่าจะสามารถจับคนร้ายและขยายผลได้เร็วขนาดนี้ ก็ขอบคุณทุกหน่วยงานเลยที่ช่วยกันติดตามในเรื่อง

น.ส.มารีนา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนที่ทนายดังท่านหนึ่งได้มีการออกมาแสดงความคิดในเรื่องที่ตนทำนั้นเป็นความผิด ซึ่งตนนี้ตนก็คิดว่าไม่เป็นอะไร ต่างคนก็ต่างมีความคิด แต่ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คำแนะนำทุกความเห็น คือเป็นการที่ออกมาแชร์ข้อมูลแบบนี้ก็เป็นการดี จะได้มีหลายมุมมอง

พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้เปิดเผยว่าในคดีดังกล่าว ทาง พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้ให้ความสนใจและมอบหมายให้ทาง สภ.เมืองราชบุรี ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ทราบว่า น.ส.มารีนา เดินทางเข้ามาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมให้ความดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ถ้ามีข่าวอะไรหรือถูกข่มขู่ให้รีบแจ้งหรือจะให้ตำรวจไปพบก็สามารถแจ้งได้ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook