เพื่อนบ้านชวนหาเรื่อง สั่งลูกกินนมนอน แต่โดนดักฟัน 2 รอบ

หนุ่มโร่แจ้งความเอาเรื่อง เพื่อนบ้านอารมณ์คลั่งดักใช้มีดฟันหัวถึง 2 รอบอย่างไม่ทราบสาเหตุ คาดน่าจะคิดไปเองว่าพูดกระทบ หลังตะโกนสั่งลูกๆ ให้ไปกินนมนอน

เมื่อเย็นวานนี้ (5 ธ.ค) นายธีระศักดิ์ อายุ 24 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี หลังถูกเพื่อนบ้านทำร้ายเป็นครั้งที่ 2 โดยได้เข้าแจ้งความว่าถูก นายธงชัย อายุ 32 ปี เข้าทำร้ายที่หน้าบ้านอีกครั้ง โดยใช้มีดขนาดยาวไล่ฟัน แต่โชคดีที่ครั้งนี้วิ่งหลบหนีได้ทัน

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ถูกนายธงชัยก่อเหตุใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บมาแล้ว และเข้าแจ้งความที่ สภ.คูคต แต่ผู้ต้องหายังไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแต่อย่างใด กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำกับผู้เสียหายอีกครั้ง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธฟันที่ศีรษะผู้เสียหาย

โดยภาพหลักฐานเผยให้เห็นช่วงขณะที่ผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับลูก 2 คน ผู้ต้องหาดักรอใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะ จากนั้นผู้เสียหายได้พยายามอุ้มลูกเล็กหลบหนี โดยทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ ส่วนลูกอีกคนนั่งร้องไห้อยู่บนรถ โดยที่ผู้ต้องหาก็ยังเดินตามมาหาอีก พร้อมทั้งพูดจาด่าว่าเสียงดัง

จากนั้นผู้ต้องหาได้เดินถือมีดกลับไปที่รถ และได้อุ้มลูกของผู้เสียหายลงมาจากรถจักรยานยนต์ แล้วปล่อยให้วิ่งตามพ่อไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิดไว้เป็นหลักฐานไว้ประกอบสำนวนคดี

ในเวลาต่อมา เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.ต. สุรชา โคตรวงษ์ทอง สวป.สภ.คูคต ร.ต.อ.ประวิทย์ หมื่นสุนทร รอง.สวป.สภ.คูคต ร.ต.อ.ธีระ หมื่นสุนทร พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ที่บ้านพักภายในชุมชนร่วมใจสามัคคี ตามหมายจับของศาล ธัญบุรีที่ 816/2560 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

นายธีระศักดิ์ ผู้เสียหายให้การว่า บ้านของตนกับบ้านผู้ต้องหาอยู่ติดกัน ก่อนเกิดเหตุครั้งแรกนั้น ตนได้พูดกับลูกชายภายในบ้านว่า “เอานมไปกินแล้วนอนซะ" ซึ่งตนไม่คิดว่าเพื่อนบ้านจะไม่พอใจในสิ่งที่ตนพูดออกไป กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ผู้ต้องหาได้ดักรออยู่ที่หน้าบ้าน ขณะที่ตนเองขับรถจักรยานยนต์มากับลูกอีก 2 คน แล้วใช้อาวุธมีดเข้าทำร้ายตนเองที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บ และทำให้ลูกชายหวาดกลัว

จากนั้นตนได้เข้าแจ้งความและหอบลูกย้ายบ้านหนีไปอาศัยบ้านญาติ เนื่องจากผู้ต้องหายังอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งล่าสุดได้กลับไปที่บ้านอีกครั้ง เพื่อจะเข้าไปเก็บเอาของใช้ แล้วพบว่าผู้ต้องหายังไม่ได้ถูกจับกุมแต่อย่างใด และเมื่อผู้ต้องหาเห็นว่าตนกลับมาที่บ้าน จึงได้พยายามใช้มีดไล่ฟันอีกครั้ง ตนจึงได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นครั้งที่ 2

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและสอบสวนพยาน เบื้องต้นเป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทราบข้อมูลว่า ผู้ต้องหามักพูดจาอาละวาดส่งเสียงดังภายในชุมชน และทำร้ายข้าวของภายในชุมชนเป็นประจำ ถึงขั้นทำให้พ่อต้องย้ายหนีออกไป เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย

กระทั่งมาเกิดปัญหากับเพื่อนบ้านรายดังกล่าว ในขณะที่ผู้เสียหายพูดสั่งให้ลูกไปกินนมนอน แต่คาดว่าผู้ต้องหาคิดว่าพูดกระทบกระทั่งจึงเกิดความไม่พอใจ ดักรอใช้อาวุธมีดทำร้ายดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป