ตะลึงทั้งหมู่บ้าน เผาศพหนุ่มศรีสะเกษแล้ว ตัวจริงโผล่ร้องขอชีวิตคืน

ตะลึงทั้งหมู่บ้าน เผาศพหนุ่มศรีสะเกษแล้ว ตัวจริงโผล่ร้องขอชีวิตคืน

ตะลึงทั้งหมู่บ้าน เผาศพหนุ่มศรีสะเกษแล้ว ตัวจริงโผล่ร้องขอชีวิตคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติรับศพหนุ่มศรีสะเกษไปทำพิธีเผาแล้ว จู่ๆ ตัวจริงโผล่กลับบ้านมาบอกยังไม่ตาย

(19 ธ.ค.) นายสว่าง ไกรษี ครูชำนาญการพิเศษ ร.ร.บ้านเหล่าฝ้าย นำตัว นายสาคร อายุ 44 ปี พร้อมญาติพี่น้อง เข้าร้องทุกข์กับสื่อมวลชนว่า นายสาคร ถูกทางราชการระบุว่าเสียชีวิตแล้ว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่

โดยนายเจริญ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพี่เขยของนายสาคร กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากภรรยาว่า ตำรวจ สน.นางเลิ้ง โทรศัพท์มาแจ้งว่า ให้ไปรับศพของนายสาคร ที่ คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เนื่องจากว่า นายสาคร เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร โดยเสียชีวิตที่ห้องเลขที่ 20 ปรินายก 6 ราชดำเนิน แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา ตน และญาติพี่น้อง จึงได้ว่าจ้างรถยนต์รับจ้าง จำนวน 10,000 บาท ไปรับศพของนายสาคร โดยมีหนังสือรับรองการตายของคณะแพทย์ศาสตร์ ที่ ว.414/2560 ลงวันที่ 21 พ.ค. 60 และมีใบมรณบัตร สำนักทะเบียนท้องถิ่น เขตพระนคร เลขที่ 01-10014331 ตามคำร้องที่ 5203/2560

นายนครชัย พิมพ์กลาง อายุ 33 ปี ญาติอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ขณะที่ไปรับศพนายสาครนั้น ตนได้ขอดูศพ แต่เจ้าหน้าที่เปิดให้ดูแค่หน้าอกพบว่า ศพเริ่มบวมขึ้นอืดแล้ว แต่ที่ผิดสังเกตคือ ฟันของศพจะยื่นออกมา ซึ่งผิดจากข้อเท็จจริงที่นายสาครฟันด้านหน้านั้นหลอ ตนจึงแจ้งความผิดสังเกตนี้ให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ศพแล้วเริ่มบวมขึ้นอืดให้รับออกไป ตนกับญาติพี่น้องจึงได้รับศพของนายสาครกลับมาทำบุญที่บ้าน เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 60 และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน จากนั้น ได้ฌาปนกิจศพที่วัดบ้านเหล่าฝ้ายพร้อมนำอัฐิเข้าบรรจุในเจดีย์เรียบร้อยแล้ว

จนกระทั่งช่วงค่ำของวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า นายสาคร ได้เดินทางกลับมาที่บ้านเหล่าฝ้าย  สร้างความตื่นตกใจให้กับญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก  และเมื่อเข้าไปจับตัวของนายสาครดูแล้ว จึงรู้ว่าเป็นคนจริง ๆ ไม่ใช่ผี  จึงได้แจ้งให้ นายวีระศักดิ์ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้ายทราบ และได้มาพบกับนายสาคร  ซึ่งนายวีระศักดิ์ที่รู้จักนายสาครเป็นอย่างดีได้ยืนยันว่า เป็นนายสาครตัวจริง

ทางด้าน นายสาคร  กล่าวว่า  ตนได้ออกจากบ้านไปทำงานบนเรือประมงที่ จ.นครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 59 ระหว่างที่ทำงานอยู่ในเรือประมงนั้นมีชายชาวพม่าคนหนึ่งที่ทำงานบนเรือประมงด้วยกันมาแย่งเอาบัตรประชาชนของตนไป  ซึ่งตนได้พยายามแย่งเอาบัตรประชาชนคืนแล้วแต่ไม่สามารถเอาคืนได้  และชายชาวพม่าได้ขึ้นจากเรือประมงหนีไป จากนั้น ตนจึงเข้าแจ้งความและขอทำบัตรประชาชนใหม่ที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช  ก่อนกลับขึ้นไปทำงานบนเรือประมงต่อนานกว่า 1 ปี จึงได้เดินทางกลับมาบ้านและพบว่า มีการเผาศพของชายไม่ทราบชื่อซึ่งเข้าใจว่าเป็นศพของตนไปแล้ว  ตนจึงขอร้องทุกข์ขอชีวิตคืนให้ตนด้วย เพราะว่า ตนยังไม่ได้ตายจริง  แต่ตามหลักฐานทะเบียนราษฎร์ได้ระบุว่า ตนได้เสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 60 ที่ผ่านมา

ทางด้าน นายวีระศักดิ์ แม่นทอง  ผู้ใหญ่บ้านเหล่าฝ้าย  กล่าวว่า  ตนได้ตรวจสอบดูแล้ว เห็นว่า เป็นนายสาครที่เป็นลูกบ้านของตนจริง  โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายสาครไปพบกับนายอำเภอโนนคูณ เพื่อรายงานเรื่องนี้ให้ทราบ  เพื่อขอให้พิจารณาให้การช่วยเหลือ นายสาคร เพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook