เปิดเส้นทาง! อุบัติเหตุรักปันใจใบสั่งตายหมอปอ

ความรักคือเรื่องระหว่างคนสองคน หากมีคนที่สามผ่านเข้ามาแสดงว่ามีหนึ่งคนที่ปันใจไปเป็นอื่น และความรักที่สมบูรณ์มีพื้นที่เพียงแค่สองคนเท่านั้น แล้วใครล่ะจะกลายเป็นคนที่ต้องเดินจากไป

นิยามความรักที่ลงเลยด้วยน้ำตาและความสูญเสียจากคดีสะเทือนขวัญฆ่าโหดยิงกลางอกว่าที่เจ้าสาวดับคาที่นอนกลายเป็นอุทาหรณ์รักปันใจสองหญิงหนึ่งชายที่จบปัญหาด้วยความตาย ทั้งๆ ที่จะแต่งงานกันเพียงไม่กี่วัน

ย้อนดูเส้นทางรักปันใจ นายเก่งว่าที่เจ้าบ่าว สังหารโหด ว่าที่เจ้าสาวหมอปอ

19 ธ.ค. 60 พบศพ นางสาวนนทิญา หรือหมอปอ อายุ 25 ปี พนักงานทันตกรรมสาธารณสุข รพ.สต.สลุย จ.ชุมพร สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ เสื้อยืดคอกลมสีเทา ถูกจ่อยิงกลางหน้าอกด้วยปืนลูกซองเป็นรูพรุนนอนเสียชีวิตจมกองเลือด

แต่ภายในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ทันควัน เป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิตและเป็นว่าที่เจ้าบ่าวที่จะแต่งงานกันในเร็ววันนั่นคือ นายรณชัย หรือ เก่ง อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า โดยยอมจำนนพร้อมหลักฐาน

ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่า ไม่ต้องการที่จะเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ตาย เนื่องจากว่ามีหญิงสาวคนอื่น ซึ่งเป็นบุคคลที่สามในชีวิตเข้ามาแทนที่ ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจก่อเหตุ

ทั้งนี้จากการสืบหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ก่อนเกิดเหตุหมอปอจับได้ว่านายเก่งแอบคบซ้อนกับกิ๊กสาวอีกคนหนึ่งวัยเพียง 23 ปี ซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน จึงตามมาอาละวาดทั้งที่บ้านและที่ทำงานของนายเก่งและกิ๊กสาวอยู่หลายครั้งเพื่อให้ทั้งคู่เลิกราต่อกัน

นอกจากนี้หมอปอยังยืนยันว่าจะแต่งงานในวันและเวลาเดิม แต่ตัวนายเก่งไม่ยอม เพราะรักและผูกพันกับกิ๊กสาวไปแล้ว

ซึ่งสาเหตุที่นายเก่งเลือกกิ๊กสาว เนื่องจากว่ากิ๊กสาวถือเป็นผู้มีฐานะดี เข้าขั้นเป็นคนมีเงิน แถมอายุยังน้อย สามารถเลี้ยงดูนายเก่งที่มีฐานะขัดสนกว่าได้แน่นอน จึงยอมทรยศหมอปอและไม่อยากแต่งงาน แต่ก็ไม่สามารถจบปัญหาได้จึงบุกเข้าไปก่อเหตุสะเทือนขวัญเพื่อจบปัญหาทั้งหมด โดยมีกิ๊กสาวเป็นคนขับรถเก๋งมารับส่งดังกล่าว

แต่คำถามที่สังคมคาใจนั่นคือ กิ๊กสาวคนดังกล่าวมีส่วนรู้เห็นในการวางแผนหรือไม่ ?

ย้อนดูนาทีมรณะ 18 ธันวาคม 60 หนึ่งวันก่อนการสังหารโหด 

17.00 น. กิ๊กสาว ขับรถเก๋งซูซูกิ สวิฟท์สีขาว พานายเก่ง ลัดเลาะมาตามถนนเอเชีย ก่อนที่นายเก่งจะเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดสังหาร ใส่ถุงมือดำลายม่วง ถุงแขนดำ หมวกโม่งดำ รองเท้าดำ

20.00 น. นายเก่งและกิ๊กสาวมาถึงที่หมาย โดยกิ๊กสาวจอดรถติดเครื่องรอ ส่วนนายเก่ง เดินฝ่าความมืดไปยังหลังสถานีอนามัยอันเป็นที่พักของหมอปอ และนั่งคิด ยับยั้งชั่งใจเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเดินกลับมาที่รถ

21.00 น. กิ๊กสาวพร้อมกับนายเก่ง พากันขับรถออกมาจากที่เกิดเหตุ เมื่อผ่านเซเว่นอ่างทอง กิ๊กสาวลงจากรถไปซื้อน้ำดื่มกับไส้กรอก ส่วนนายเก่ง ได้ถอดเครื่องแบบสังหารออก

22.00 น. ขับรถจากหน้าเซเว่นอ่างทอง ไปถึงยังเขื่อนคุลิง

24.00 น. ขับรถมาถึงบ้านพักหมอปอ

นาทีมรณะ! ขณะที่กิ๊กสาวจอดรถ นายเก่งได้เปลี่ยนเครื่องแบบสังหารอีกครั้ง แต่เที่ยวนี้ได้นำอาวุธปืนลูกซองติดตัวไปด้วย และหลังยิงหมอปอ ได้วิ่งหนีลงมาที่รถพร้อมบอกกับกิ๊กสาวว่า “พี่ยิงเขาไปแล้ว”

กิ๊กสาวจึงขับรถออกมาจากที่เกิดเหตุโดยใช้เส้นทางเดิมที่มา แต่ระหว่างทางตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเส้นทางคันธทรัพย์ และมีการทำลายหลักฐาน ทิ้งอาวุธปืน เครื่องแบบสังหาร และจอดแวะล้างหน้าที่ปั๊มแอลพีจี ชุมพรเมืองใหม่

จากนั้น กิ๊กสาวได้ขับรถมาส่งที่หลังสถานีรถไฟ เพื่อนายเก่งจะได้ขับรถเก๋งของตนเองกลับบ้านพักก่อนแยกย้ายกัน ซึ่งนายเก่งมาถึงบ้านเวลา 03.00 น. และใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนมาถูกจับในที่สุด

ด้านอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน วันเกิดเหตุบรรจุกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัดและเก็บไว้ในกระเป๋าอีก 1 นัด โดยนายเก่งให้การว่า กิ๊กสาวได้เป็นผู้จัดหาอาวุธปืนมาให้ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์และรถยนต์ที่ใช้ก็เป็นของกิ๊กสาวดังกล่าวด้วย

และอีกหนึ่งประเด็นที่อาจจะเป็นชนวนเหตุในการสังหารโหดครั้งนี้ คาดว่าอาจเป็นการฆ่าล้างหนี้ก็เป็นได้ เพราะก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วัน นายเก่งได้โอนเงินค่าสินสอดแต่งงานจากธนาคารทั้งหมด 3 บัญชี รวมเป็นเงิน 7 แสนบาท ไปเข้าบัญชีอื่น จากนั้นจึงเบิกเงินไปอีก 3 แสนบาท โดยอ้างว่านำไปซื้อทองคำหนัก 10 บาท เพื่อใช้ในงานหมั้นกับหมอปอ

คดีนี้ถึงแม้ว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้แล้วก็ตาม แต่ชนวนเหตุในการสังหารโหดครั้งนี้ ก็ยังคงเป็นปริศนาของสังคม และที่สำคัญผู้ร้ายที่ก่อเหตุมีเพียงแค่คนเดียวจริงหรือ นั่นคือคำถามจากสังคมที่ต้องหาคำตอบกันต่อไป