ลูกสุดช็อกเห็นคาตา พ่อยิงแม่สาหัสก่อนฆ่าตัวตายหน้าโรงเรียน

ลูกสุดช็อกเห็นคาตา พ่อยิงแม่สาหัสก่อนฆ่าตัวตายหน้าโรงเรียน

ลูกสุดช็อกเห็นคาตา พ่อยิงแม่สาหัสก่อนฆ่าตัวตายหน้าโรงเรียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตามง้อไม่สำเร็จ สามีตัดสินใจยิงภรรยาสาหัส ก่อนยิงตัวตายตาม หน้าโรงเรียนย่านนนทบุรี ต่อหน้าลูกทั้ง 2 คน

(25 ธ.ค.) พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลา 07.15 น. ได้เกิดเหตุ นายพิษณุ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ใช้อาวุธปืนยิง นางสุกัญญา (สงวนนามสกุล) ภรรยาวัย 32 ปี ขณะเดินทางมาส่งลูกที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอเมืองนนทบุรี ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตาม ต่อหน้าลูกทั้ง 2 คน 

บริเวณที่เกิดเหตุท้ายวัดซึ่งอยู่หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน พบศพนายพิษณุ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจยย. มีบาดแผลที่ขมับขวาทะลุซ้าย ข้างศพพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ถูกยิงไป 3 นัด ยังเหลืออยู่ในรังเพลิงอีก 3 นัด  ในกระเป๋ากางเกงยังพบกระสุนอีก 12 นัด  ส่วนคนเจ็บอีกรายคือ นางสุกัญญา ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 2 นัด ส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ อาการสาหัส แพทย์นำเข้าห้องฉุกเฉินอยู่ระหว่างช่วยชีวิต

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าลูกทั้ง 2 คน ของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีอาการช็อก ขณะที่ครูได้นำตัวเด็กไปดูแลต่อแล้ว

สอบสวนพี่สาวผู้ตายทราบว่าน้องชายอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 14 ปี จนมีลูกชายด้วยกัน 2 คน คนโต อายุ 9 ขวบ คนเล็ก อายุ 6 ขวบ แต่มาระยะหลังทั้งคู่มักมีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งกันจนภรรยาแยกตัวไปอยู่ที่อื่นได้เพียง 3 อาทิตย์ แต่น้องชายก็พยายามงอนง้อ ขอคืนดีด้วยมาตลอด แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ยอม ทำให้น้องชายเครียดจัดคิดมากกินเหล้าย้อมใจทุกวัน

ก่อนเกิดเหตุทราบว่าน้องชายมาตามงอนง้อขอคืนดีอดีตภรรยา ที่ขี่จยย.มาส่งลูกชายที่โรงเรียน โดยน้องชายขี่รถออกจากบ้านไปแต่เช้าไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำครูโรงเรียนทราบว่าคนเจ็บหลังจากส่งลูกเข้าเรียนแล้ว ผู้ตายได้มาดักรอและขอคืนดีแต่อดีตภรรยาไม่เล่นด้วย เลยบันดาลโทสะเกิดความหึงหวงเกรงว่าอดีตภรรยาจะนอกใจไปมีใหม่ เลยชักอาวุธปืนที่เตรียมมายิงใส่ภรรยา 2 นัด  ก่อนใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันลั่นไกจ่อขมับตัวเองจนเสียชีวิต เบื้องต้นมอบศพให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อมอบให้ญาติรับไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook