ตำรวจชี้แจงสั่ง ว.5 ปิดข่าว คดีฆ่าทุบหัวสาวตายคาบ้านแฟน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/983/4917455/news02.jpgตำรวจชี้แจงสั่ง ว.5 ปิดข่าว คดีฆ่าทุบหัวสาวตายคาบ้านแฟน

    ตำรวจชี้แจงสั่ง ว.5 ปิดข่าว คดีฆ่าทุบหัวสาวตายคาบ้านแฟน

    2018-01-10T07:10:58+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ผกก.สภ.หนองปรือ ตั้งโต๊ะชี้แจงคดีฆาตกรรมสาววัย 17 ค้อนทุบหน้าเสียชีวิตสยอง ญาติตำหนิสั่ง ว.5 ปิดข่าว ระบุเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะไม่รู้กฎหมายบ้านเมือง

    เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก. สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี ได้กล่าวชี้แจงในที่ประชุม กกตร. สำหรับเหตุอาชญากรรมรุนแรงในพื้นที่ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากยาเสพติด อย่างเช่นคดีสะเถือนขวัญรายล่าสุด เกิดเหตุคนร้ายใช้ค้อนปอนด์ฆ่าทุบหัว พร้อมใช้เชือกจับมัดข้อเท้า น้องฟรอยด์ อายุ 17 ปี เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ภายในบ้านพักหนุ่มแฟน ย่านอุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้

    หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจับกุม นายณัฐพล อายุ 18 ปี พี่ชายแฟนหนุ่ม ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าแฟนสาวน้องชายเองกับมือ โดยใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวเสียชีวิต โดยอ้างว่าขณะนั้นเห็น น้องฟรอยด์ สวมใส่เสื้อคลุมบุกเข้ามายามวิกาล ด้วยความมืดจึงคิดว่าโจรเข้ามาขโมยของ และได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว

    พร้อมกับยืนยันว่า นายฮาร์ท อายุ 16 ปี น้องชายแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต และ น.ส.เอ อายุ 15 ปี แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ แต่จากการคุมตัวไปตรวจสารเสพติด พบว่ามีสารเสพติดทั้ง 3 คน เบื้องต้นจึงส่งตัว นายณัฐพล ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนเยาวชนที่เหลืออีก 2 คน เบื้องต้นยังคงได้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งการดำเนินคดีกับเยาวชนนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อนพอสมควร

    ต่อมาจึงทำให้ฝ่ายญาติผู้ตายข้องใจและกลัวกับคดีความไม่คืบหน้า ก่อนจะนำข้อมูลไปร้องเรียนสื่อมวลชน และบอกว่าตำรวจ ว.5 กลัวว่าตำรวจจะเข้าข้างฝ่ายผู้กระทำผิด จนทำให้ประชาชนสงสัยในลักษณะปล่อยตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุ

    เบื้องต้นได้ชี้แจงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจนต้องชี้แจงผู้บังคับบัญชาและสื่อมวลชนกันยกใหญ่ เป็นการเพียงไม่เข้าใจของญาติผู้เสียชีวิตกับข้อกฏหมายบ้านเมืองมากกว่า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองขอย้ำว่าเราจะทำงานเต็มที่พร้อมยินดีให้ความเป็นแก่ทั้งสองฝ่ายให้มากที่สุด หากมีการสอบสวนรวมถึงหลักฐานสามารถจะเอาผิดได้ทางตำรวจเองก็ไม่ละเว้นอย่างแน่นอน