ผงะคนเก็บของเก่าผัดกระเพราเนื้อคน

ผงะคนเก็บของเก่าผัดกระเพราเนื้อคน

ผงะคนเก็บของเก่าผัดกระเพราเนื้อคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผงะคนเก็บของเก่าปทุมธานี นำเนื้อเด็กทารกที่พบในถังขยะและถูกสับละเอียด มาเตรียมผัดกระเพราเนื้อคน เจ้าหน้าที่กู้ชีพพบแจ้งตำรวจตรวจสอบ

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2552 พ.ต.ท.สมาน ล้อมเศรษฐี สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพบัวเพชรจังหวัดปทุมธานี ว่า มีคนพบศพเด็กทารกถูกสับจนเละ อยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถถนนพหลโยธิน หมู่ 2 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงเดินทางตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ , พ.ต.ท.วรพจน์ ชูเชิด รองผกก.ป.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่พักชั่วคราวอยู่ใต้สะพานกลับรถ มีวัสดุของเก่าหลายชนิดกองอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ขวดพลาสติก สายไฟ เหล็ก และชิ้นส่วนรถยนต์เป็นต้น โดยมีการจัดวางเป็นสัดส่วนแยกกัน ระหว่างที่เก็บของเก่า และบริเวณที่หลับนอน ซึ่งมีที่นอนเก่า มีมุ้ง และนำไม้แผ่นขนาดต่างๆ มาทำเป็นรั้วป้องกันคนภายนอก เข้ามาในบริเวณใกล้เคียงกัน บริเวณริมฟุตบาทถูกจัดให้เป็นที่ประกอบอาหาร โดยมีเตาถ่าน หม้อหุงข้าว กระทะ วางไว้เป็นสัดส่วน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องผงะ เมื่อพบชิ้นส่วนของเด็กทารก ถูกสับอย่างละเอียด เหมือนข้อไก่ รวมอยู่ในชามสีขาวลายน้ำเงิน โดยด้านข้างๆพบใบกระเพรา พริกขี้หนู ใกล้กับเตาทำอาหาร ตรวจสอบพบเป็นชิ้นเนื้อ นิ้ว 4 นิ้ว พร้อมข้อมือ เนื้อบริเวณหน้าอก ท่อนแขน และท่อนขา ส่วนอื่นๆถูกสับปนรวมอยู่กับเครื่องใน โดยไม่พบศรีษะของเด็กทารกแต่อย่างใด

ด้านนาย ปิยะพงษ์ งามสนอง เจ้าหน้าที่กู้ชีพบัวเพชร กล่าวว่า ตนเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำจุด สภ.ธัญบุรี ขณะที่ตนมาจอดรถหลบร้อนอยู่บริเวณใต้สะพาน พบเห็นครอบครัวของนางชนี กำลังเตรียมทำอาหาร จึงได้ไปยืนดูเป็นการฆ่าเวลา ขณะที่นางชนี กำลังล้างเนื้อเพื่อเตรียมผัดกระเพราอยู่นั้น ตนสังเกตุเห็นนิ้วมือเด็กโผล่ออกมา ดังนั้น จึงได้ทักท้วงพร้อมทั้งขอตรวจสอบ และพบว่าเป็นชิ้นส่วนของเด็กทารก ไม่ทราบเพศ ถูกสับแทบละเอียด จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

สอบปากคำนางชนี กระจ่างจิตร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 หมู่ 5 ต.ตะโก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ให้การว่า ตนเองมีอาชีพเก็บของเก่าขาย และพักอาศัยอยู่ใต้สะพานกลับรถ ร่วมกับสามีและลูกอีก 3 คน เวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนที่ผ่านมา ไปพบชิ้นส่วนเนื้อต่างๆ อยู่ภายในถุงในถังขยะ บริเวณป้ายรถเมล์ ตนคิดว่าเป็นเนื้อไก่ หนังไก่ และไส้ไก่ ที่คนนำมาทิ้ง จึงนำกลับมาเพื่อจะทำอาหาร พร้อมทั้งนำมาล้างเพื่อเตรียมจะผัดเผ็ดใบกระเพราให้คนในครอบครัวกิน

จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้มาพบเห็น แล้วมีการทักว่า ทำไมเหมือนเนื้อมนุษย์จัง จึงได้เข้ามาดู แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบในเวลาต่อมา ตนเองไม่ทราบมาก่อนจริงๆ ว่าเป็นเนื้อมนุษย์ ไม่งั้นหากผัดไปแล้วคงต้องกินเนื้อมนุษย์เป็นแน่ ดีที่มื้อเช้า ตนและครอบครัว ได้ซื้อข้าวกล่องมากิน แล้วออกไปตระเวนเก็บของเก่า จนกระทั่งรู้สึกหิว และเป็นเวลาเที่ยงตรง จึงกลับมาและนำเนื้อดังกล่าวมาทำอาหารกลางวัน แต่ถ้านำไปทำอาหารมื้อค่ำ บริเวณที่ตนอยู่จะไม่มีไฟฟ้าให้แสงสว่าง และตนอาจจะต้องกินเนื้อเด็กกันทั้งครอบครัว

ด้าน พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จาการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และบริเวณรอบๆ ไม่พบชิ้นส่วนของเด็กทารกที่เหลือ ทั้งศรีษะและชิ้นส่วนแขน ขา ลำตัวที่หายไป จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และสายตรวจ กระจายกำลังออกค้นหาให้ทั่วบริเวณ รวมไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ตามที่นางชนี ให้การว่า มีชิ้นส่วนหลงเหลืออยู่บริเวณถังขยะหรือไม่ ในเบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนางชนี จึงได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพราะผิดปกติที่คนธรรมดามักจะมองออก เมื่อพบเห็นชิ้นส่วนของมนุษย์ เพราะชิ้นส่วนของมนุษย์กับไก่นั้น แตกต่างกันมาก

"การล้างทำความสะอาดเนื้อนั้น ก็น่าจะรู้แล้วว่า เป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ และอาจจะเป็นไปได้ที่มีคนทำแท้ง หรือคลอดบุตรออกมา จนทำให้ทารกเสียชีวิต แล้วกลัวความผิด จึงใช้มีดสับจนละเอียด เพื่อเป็นการทำลายหลักฐาน จากนั้นจึงแยกชิ้นส่วนไปทิ้งตามถังขยะ จนนางชนี ผ่านมามาพบแล้วนำกลับมาเพื่อทำเป็นอาหาร" พ.ต.อ.วัฒนา กล่าว

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook