หนุ่มมุดหลบแดดใต้รากไม้ใหญ่ เด้งดีดกลับทับร่างตายไม่ทันตั้งตัว

หนุ่มมุดหลบแดดใต้รากไม้ใหญ่ เด้งดีดกลับทับร่างตายไม่ทันตั้งตัว

หนุ่มมุดหลบแดดใต้รากไม้ใหญ่ เด้งดีดกลับทับร่างตายไม่ทันตั้งตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อุบัติเหตุสุดประหลาด อุทาหรณ์หนุ่มมุดรากไม้ใหญ่เข้าไปหลบแดดร้อน เพียงพริบตาเดียวรากดีดกลับ ทับร่างทั้งเป็นเสียชีวิตแบบไม่รู้ตัว

เมื่อวานนี้ (21 ม.ค.) พ.ต.ท.ประเวศน์ พลอยพันธ์ สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรปราสาท ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตถูกรากไม้ลักษณะรากโคนลำต้นอุ้มดินทับร่างเสียชีวิต บริเวณหมู่บ้านตาลอก หมู่ 7 ต.ปรือ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังรับแจ้งได้ประสาน หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลปราสาท, กู้ชีพ อบต.ตานี, อบต.ปรือ, เทศบาลตำบลกังแอน ร่วมกันเข้าตรวจสอบและเตรียมความช่วยเหลือ

โดยในที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนาทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างมามุงดูที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก พบร่างผู้เสียชีวิตถูกรากโคนต้นมะค่า หรือ ต้นแต้ ลักษณะโคนต้นไม้ขนาดใหญ่โคนทับร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ไม่สามารถเคลื่อนย้ายร่างออกมาได้ และยังพบไม้ท่อนที่ถูกตัดทอนไว้แล้วรอการเคลื่อนย้ายอีก 2 ท่อนวางทอดยาวอยู่ ต้องใช้รถไถนาขนาดใหญ่ช่วยดึงรากไม้เพื่อเปิดอ้าและดึงร่างผู้เสียชีวิตออกมา

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายศุภชัย อายุ 35 ปี และในที่เกิดเหตุยังมี นายบุญเกิด อายุ 49 ปี ที่มาด้วยกัน ยืนถือสายไฟที่ต่อมาเพื่อใช้ในการตัดไม้ต้นดังกล่าวรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายบุญเกิด เปิดเผยว่า ตนกับผู้เสียชีวิตได้รับจ้างมาตัดต้นไม้ในที่นาของนายเดือง เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน เนื่องจากต้นไม้ต้นดังกล่าวถูกพายุลมพัดล้มเมื่อปีก่อน รากไม้อุ้มดินตั้งหงายขึ้น จึงจ้างให้มาตัดออกเพื่อทำนาได้สะดวก ตนกับผู้เสียชีวิต พร้อมกับเพื่อนอีกคน รวมเป็น 3 คน ได้รับปากรับงานนี้

ช่วงก่อนเกิดเหตุได้ตัดทอนลำต้นเสร็จ อยู่ระหว่างรอรถมาเคลื่อนย้ายลำต้นไม้ออกไป ขณะที่ตนและเพื่อนกำลังเก็บเศษกิ่งไม้อยู่ ผู้เสียชีวิตมองเห็นว่ามีร่มพอที่จะหลบแดดได้ บริเวณรากของโคนต้นไม้ที่ตัดออก จึงเดินเข้าไปหลบร้อนใต้รากนั้น

แต่ด้วยน้ำหนักของโคนรากไม้ที่อุ้มดิน น้ำหนักกว่า 2 ตัน อยู่ในลักษณะตั้งเอียงมาทางผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ ประกอบกับขาดการยึดลำต้นเอาไว้ เพียงแค่พริบตาเดียวรากไม้ก็ล้มหรือดีดกลับลงทับร่างของนายศุภชัยทันที โดยที่ตนและเพื่อนอีกคนไม่สามารถช่วยเหลืองัดโคนไม้ขึ้นมาได้ จึงรีบวิ่งไปบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยแต่ก็ไม่ทันดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook