เด็กหัวโจกทำร้ายเพื่อนวัย 17 ดับคาห้องควบคุมศูนย์ฝึกเยาวชนฯ

เด็กหัวโจกทำร้ายเพื่อนวัย 17 ดับคาห้องควบคุมศูนย์ฝึกเยาวชนฯ

เด็กหัวโจกทำร้ายเพื่อนวัย 17 ดับคาห้องควบคุมศูนย์ฝึกเยาวชนฯ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เยาวชนของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 ถูกเพื่อนเยาวชนด้วยกันรุมทำร้ายภายในบ้านแสงตะวันใหม่ จุดพักแยกเพื่อลดความขัดแย้งของเยาวชน เจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนและดำเนินคดี

(6 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ฯ พร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐาน 8 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แพทย์ และมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ฯ ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ เยาวชน 1 ราย ภายในห้องคุมบ้านแสงตะวันใหม่ ของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 แต่มีบริเวณแยกกับศูนย์ฝึกฯ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 ก.พ. 61 หลังรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ภายในว่าเกิดเหตุเยาวชนถูกรุมทำร้าย จากเพื่อนเยาวชนด้วยกันรวม 2 คน จนเสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุเป็นเรือนนอนชั้นล่างพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายเต้ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี สภาพนอนหงายบนเบาะนอนสีเขียว สวมเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นสีดำ เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ในที่เกิดเหตุพบผ้าขนหนูสีเขียว 1 ผืน และหมอน 2 ใบ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุมี 2 คน เป็นเยาวชนจากจังหวัดนครศรีธรรมราชของศูนย์ฝึกฯ เช่นกันอายุ 17 ปีทั้ง 2 ราย ได้ร่วมกันรุมทำร้ายจน นายเต้ เสียชีวิตคาที่นอน เจ้าหน้าที่ได้แยกตัวควบคุมไว้อีกห้องเพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ทางด้าน นายวงศ์ศักดิ์ ประเทียบอินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกฯ ที่ร่วมตรวจสอบบอกว่า บ้านแสงตะวันใหม่ คือบ้านที่คัดแยกเยาวชนกลุ่มหัวโจกของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 8 มาพักเพื่อปรับทัศนคติ ซึ่งในวันนี้ได้มีการนำเยาวชนจำนวน 7 คนที่มาอยู่ที่บ้านแสงตะวันใหม่กลับเข้าศูนย์ฝึกฯ พร้อมนายเต้ออกมายังบ้านแสงตะวันใหม่ เพราะถ้าไม่แยกออกมาจะต้องมีปัญหากับเด็กที่ย้ายกลับทั้ง 7 คน เพื่อลดการกระทบกระทั่ง ซึ่งเมื่อนายเต้มาถึงก็ได้นำมาพูดคุยกับเยาวชนที่เหลือและแบ่งแยกจัดให้อยู่ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ขัดแย้งในห้วงระยะเวลาอันใกล้ และเป็นเยาวชนจากจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยกัน เนื่องจากห้องมีในจำนวนจำกัด ซึ่งก็ได้พูดคุยตกลงและทำความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว ก่อนให้อยู่ห้องเดียวกันด้วยความสมัครใจ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดในที่สุด

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสอบสวนผู้ก่อเหตุทั้งสองรายอีกครั้ง เพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook