มูลนิธิสืบฯ ขอกรมอุทยานฯ ทำคดีล่าสัตว์เป็นบรรทัดฐาน

มูลนิธิสืบฯ ขอกรมอุทยานฯ ทำคดีล่าสัตว์เป็นบรรทัดฐาน

มูลนิธิสืบฯ ขอกรมอุทยานฯ ทำคดีล่าสัตว์เป็นบรรทัดฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร” ออกแถลงการณ์ขอกรมอุทยานฯ ทำคดีบิ๊ก บ.ก่อสร้าง ล่าสัตว์ให้เป็นบรรทัดฐาน

เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยระบุข้อความ 5 ข้อ คือ

  1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันด้านตกเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเสมอมา สาธารณะชนรู้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปกป้องและอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่าให้คงไว้ ดังนั้นการที่ผู้ต้องหาเข้าไปในพื้นที่โดยอ้างว่าไม่ทราบจึงเป็นไปไม่ได้
  2.  30 ปีที่ผ่าน ประชาชนชาวไทย เจ้าหน้าที่ และองค์กรต่างๆ ให้ความร่วมมือช่วยกันอนุรักษ์เรื่อยมาจนสัตว์ป่าเพิ่มมากขึ้น แต่การที่คนที่มีสถานภาพทางสังคมเข้าไปล่าสัตว์ป่าในพื้นที่อนุรักษ์จึงแสดงให้เห็นถึงการไม่เคารพต่อกฎหมายและผลงานการอนุรักษ์ของสังคมไทย
  3. จากการติดตามข่าว นายเปรมชัย กรรณสูต อายุ 63 ปี ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) อ้างรู้จักต่อข้าราชการในระดับบริหารขอเข้าไปยังพื้นที่โดยให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวพักผ่อน แต่กลับเข้าไปล่าสัตว์ป่าซึ่งเจ้าหน้าที่พบสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ ถูกชำแหละและถลกหนัง รวมถึงพบอาวุธปืน 3 กระบอก นับเป็นการกระทำที่ปราศจากความละอายใจและย่ามใจว่าเจ้าหน้าที่คงไม่กล้าดำเนินการตรวจสอบ
  4.  ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้
  5. ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล อย่างได้เกรงกลัวต่ออิทธิพลและสถานะทางธุรกิจอันใหญ่โตของผู้ต้องหา ขอให้สืบสวนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดเพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ดีต่อไป    

ศศิน เฉลิมลาภ
ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร
6 กุมภาพันธ์ 2561

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook