ศาลสั่งคุก 8 ปี หนุ่มฆ่าข้าราชการสาวนครพนม คดีดังปี 60

ศาลสั่งคุก 8 ปี หนุ่มฆ่าข้าราชการสาวนครพนม คดีดังปี 60

ศาลสั่งคุก 8 ปี หนุ่มฆ่าข้าราชการสาวนครพนม คดีดังปี 60
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลจังหวัดตัดสิน จำคุก 8 ปี หนุ่มฆ่าสาวแรงงาน พร้อมสั่งชดใช้อีกนับล้านบาท จำเลยให้การสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตำรวจชี้พยานหลักฐานแน่น ไม่มีการจับแพะ

เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยความคืบหน้ากรณี คดีฆาตกรรมสาวข้าราชการแรงงานจังหวัดนครพนม น.ส.นันธิดา อายุ 32 ปี เจ้าพนักงานแรงงานปฏิบัติงาน (ฝ่ายต่างด้าว) สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560

ภายหลังเกิดเหตุตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ นายประจักษ์ อายุ 32 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานขับรถในที่ทำงานเดียวกันกับผู้เสียชีวิต และได้มีการจับกุมรับทราบข้อหากระทำความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตาย หรือเหตุแห่งการตาย โดยมีอายุความเป็นเวลา 15 ปี

แต่ในเบื้องต้นนั้น ผู้ต้องหาจะให้การภาคเสธ ทางตำรวจไม่หนักใจยืนยันว่ามีพยานหลักฐาน น้ำหนักเพียงพอที่จะเอาผิดคนร้ายได้อย่างแน่นอน จนกระทั่งมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เกี่ยวข้อง สรุปสำนวนส่งอัยการ เข้าสู่กระบวนการฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม

ล่าสุดผลการพิจารณาคดีดังกล่าว ทางศาลจังหวัดนครพนมได้มีการพิจารณาตัดสิน ตามเอกสารคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 290 วรรคแรก การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา 91 ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย จำคุก 8 ปี

ฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย จำคุก 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย คงจำคุก 4 ปี ฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย คงจำคุก 2 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 2 เดือน ให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทย์ ร่วมที่ 1 คือ บิดาผู้เสียชีวิต เป็นเงิน 534,702 บาท และชดเชยแก่โจทก์ร่วมที่ 2 คือ สามีผู้เสียชีวิต เป็นเงิน 948,000 บาท

ทั้งนี้ในการดำเนินคดีตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนทางตำรวจมีหลักฐานชัดเจน ทั้งพยานหลักฐานต่างๆ ที่สำคัญ มีผลตรวจของกองพิสูจน์หลักฐาน ที่มีการเก็บหลักฐาน ในที่เกิดเหตุภายในห้องผู้ตาย ทั้งผ้าพันคอที่ใช้ผูกแขวนคอผู้ตาย ราวเหล็กที่ผู้ผ้าแขวนคอ ที่มีการเก็บพิมพ์ลายนิ้วมือ รวมถึงดีเอ็นเอ ทำให้ผลตรวจออกมายืนยันตรงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องหาชัดเจน เป็นหลักฐานสำคัญในการมัดตัวผู้ต้องหา

เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าในการดำเนินคดีได้ทำตามขั้นตอนที่รัดกุม ไม่ได้เชื่อเพียงหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด แต่มีทั้งพยานหลักฐาน ที่ชัดเจนครบกระบวนการ ที่สำคัญผลตรวจทางวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญในการยืนยัน มัดตัวผู้ต้องหา โดยสาเหตุการเสียชีวิต มีการทำให้ผู้ตายขาดอากาศหายใจ ก่อนนำไปแขวนคออำพรางคดี

ส่วนประเด็นสาเหตุที่มาเป็นเรื่องปัญหาส่วนตัวและความหึงหวง จึงฝากพี่น้องประชาชนเข้าใจในการทำงานตำรวจไม่ได้ตัดสินใจด้วยตัวบุคคลหนึ่งคนใด มีระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีการร้องทุกข์ว่าตกเป็นแพะ แต่ตำรวจยืนยันว่า มีหลักฐานที่ชัดเจนในทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่มีการจับแพะอย่างแน่นอน จนกระทั่งมีคำพิพากษาของศาล เป็นที่สิ้นสุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook