อิ่มบุญรับปีจอกับกิจกรรม “แลคตาซอย แชริตี้ 2018” ปีนี้เดินทางเยือนถิ่นอีสานสกลนคร-นครพนม

อิ่มบุญรับปีจอกับกิจกรรม “แลคตาซอย แชริตี้ 2018” ปีนี้เดินทางเยือนถิ่นอีสานสกลนคร-นครพนม

อิ่มบุญรับปีจอกับกิจกรรม “แลคตาซอย แชริตี้ 2018” ปีนี้เดินทางเยือนถิ่นอีสานสกลนคร-นครพนม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     อิ่มบุญรับปีจอกับกิจกรรม “แลคตาซอย แชริตี้ 2018” ปีนี้เดินทางเยือนถิ่นอีสานสกลนคร-นครพนม ได้สร้างความสุข อิ่มบุญ อิ่มใจไปกับผู้มีจิตศรัทธาและผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน 

    เปิดศักราชรับปีจอด้วยกิจกรรมสร้างกุศลประจำปี “แลคตาซอย แชริตี้ 2018 (LACTASOY CHARITY 2018)” โดย แลคตาซอย จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 เพื่อเป็นสะพานบุญให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย และสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม

     ในปีนี้แลคตาซอยได้พาคณะบุญกว่า 150 คน เดินทางไป “อิ่มบุญ...ดนโดน ณ สกลนคร-นครพนม” โดย นายสามารถ จิรพัฒนกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท แลคตาซอย จำกัด ผู้สร้างสรรค์ทริปอิ่มบุญได้เล่าถึงกิจกรรมครั้งนี้ ว่า ตั้งใจพาสายบุญมาไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กราบสักการะพระธาตุประจำวันเกิด เพื่อเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิต โดยต้องขอบคุณผู้สนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ที่ร่วมกันสมทบทุนรวมกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งแลคตาซอยเตรียมนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปช่วยเหลือเด็กกำพร้า วัดดอนจั่น จ.เชียงใหม่

 

     สำหรับการมาเยือนถิ่นอีสานครั้งนี้ แลคตาซอยได้เชิญไกด์ท้องถิ่น พิมพ์นารา ศุภจรัสพัฒน์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เล่าถึงพิธีกรรมไหว้พระธาตุตามคติความเชื่อของชาวอีสาน ว่า การบูชาพระธาตุถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ เพราะพระธาตุเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การไหว้พระธาตุจึงเปรียบเสมือนการกราบไหว้สิ่งแทนองค์พระพุทธเจ้า อันจะนำมาซึ่งความสุขความเจริญแก่ผู้ที่บูชาด้วยจิตศรัทธา

     ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่คณะบุญของแลคตาซอยได้มากราบไหว้บูชาพระธาตุถึง 9 องค์ เบิกฤกษ์มงคลด้วยการบวงสรวงพระธาตุเชิงชุม ปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร สร้างครอบรอยพระบาทพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ โดยคำว่า “เชิง” หมายถึง เทวดา ส่วน “ชุม” คือ การชุมนุม ดังนั้น พระธาตุเชิงชุม จึงเป็นแหล่งชุมนุมของเทวดา ซึ่งผู้ที่ไม่ทราบว่าตนเองเกิดวันใด สามารถมาไหว้พระธาตุเชิงชุมได้ เนื่องจากเชื่อว่ามีเทวดาประจำวันทั้งเจ็ดมาชุมนุมกันอยู่ ณ พระธาตุแห่งนี้แล้ว

    ด้านความหมายของทิศในการไหว้พระธาตุ สื่อถึงความเชื่อที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่ผู้คนจะกราบไหว้ประธาตุโดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่พระอาทิตย์ขึ้น จึงหมายถึงการเริ่มต้นสู่ความสว่างไสวของชีวิต เสริมให้ชีวิตมีทางออกที่ดี หากหันหน้าไปทางทิศเหนือ หมายถึง การมีอำนาจบารมีอยู่เหนือผู้อื่น หากหันหน้าไปทางทิศใต้ หมายถึง การเสริมบารมีส่งผลให้มีบริวารที่ดี เกื้อหนุนให้การงานก้าวหน้า และหากหันหน้าไปทางทิศตะวันตก หมายถึง การขอพรให้สิ่งชั่วร้ายหมดไปจากชีวิต ทิศนี้จึงเป็นทิศในเรื่องของการสะเดาะเคราะห์นั่นเอง

     ส่วนตำนานการบูชาพระธาตุประจำวันเกิดนั้น หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย เป็นผู้ริเริ่มขึ้น ต่อมาช่วงปี 2546 อ.คฑา ชินบัญชร พร้อมด้วยปราชญ์ท้องถิ่นจังหวัดนครพนม ได้มารับคำปรึกษาจากหลวงปู่เกี่ยวกับการกำหนดพระธาตุประจำวันเกิด ซึ่งจังหวัดนครพนมเป็นจังหวัดที่ประดิษฐานพระธาตุพนมอันเป็นองค์พระธาตุหลัก และมีพระธาตุบริวารล้อมรอบ โดยใช้ตำราตรวจดูเทพนพเคราะห์ประจำวันและทิศ จนสามารถกำหนดพระธาตุประจำวันเกิดได้ทั้ง 7 วัน 8 พระธาตุ ดังนี้

 

     พระธาตุพนม สำหรับผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ พระธาตุเก่าแก่มากที่สุดในแดนอีสาน และเป็นพระธาตุแห่งเดียวที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุ หรือ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอีสาน รวมไปถึงพี่น้องชาวลาว โดยเชื่อกันว่าผู้ที่นมัสการพระธาตุพนมจะได้รับอานิสงส์มีบุญบารมี และมีคนให้ความเคารพนับถือ

     พระธาตุเรณู สำหรับผู้ที่เกิดวันจันทร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดธาตุเรณู อำเภอเรณูนคร องค์พระธาตุมีลักษณะจำลองมาจากพระธาตุพนมองค์เดิม แต่มีขนาดเล็กกว่า ภายในบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูป และของมีค่าต่างๆ โดยเชื่อกันว่าผู้ที่ได้นมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์

     พระธาตุศรีคุณ สำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร ประดิษฐานอยู่ที่วัดธาตุศรีคุณ อำเภอนาแก ลักษณะคล้ายองค์พระธาตุพนม ภายในบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุของพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระสังกัจจายนะ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้นมัสการจะได้รับอานิสงส์ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ เสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็งขึ้น

     พระธาตุมหาชัย สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางวัน ประดิษฐานที่วัดธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตสารีริกธาตุของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระภิกษุสงฆ์รูปแรกในพระพุทธศาสนา เชื่อกันว่าผู้ที่ได้นมัสการจะได้รับอานิสงส์ประสบแต่ชัยชนะในชีวิตมีแต่ความรุ่งโรจน์

     พระธาตุมรุกขนคร สำหรับผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน เป็นพระธาตุบริวารของพระธาตุพนมองค์ที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาพระธาตุบริวารทั้งเจ็ดองค์ ประดิษฐานที่วัดมรุกขนคร อำเภอธาตุพนม ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุเกือบสามร้อยปีมาแล้ว

     พระธาตุประสิทธิ์ สำหรับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ประดิษฐาน อยู่ที่วัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตสารีริกธาตุรวม 7 องค์ พระพุทธรูปเก่าแก่ ดินจากสังเวชนียสถานในประเทศอินเดีย 4 แห่ง และ พระพุทธบาทจำลองที่อัญเชิญมาจากกรุงเทพฯ เชื่อว่าผู้ที่ได้นมัสการพระธาตุประสิทธิ์ จะก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการงาน ก้าวหน้าสมดังประสงค์

     พระธาตุท่าอุเทน สำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน ภายในบรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เชื่อกันว่าผู้ได้นมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ

     พระธาตุนคร สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ ประดิษฐาน อยู่ที่วัดมหาธาตุ อำเภอเมืองนครพนม ภายในบรรจุพระอรหันตสารีริกธาตุ องค์พระพุทธรูปทองคำ และของมีค่าต่างๆ จากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา เชื่อกันว่าผู้มาสักการะจะได้อานิสงส์ให้มีบุญบารมี และมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน

 

     ปิดท้ายด้วยการไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดป่าสุทธาวาส พร้อมกราบสักการะหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน ผู้เป็นแม่ทัพธรรมแห่งภาคอีสาน ถือเป็นการจบทริปที่สร้างความสุข อิ่มบุญอิ่มใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน สำหรับผู้สนใจร่วมทำบุญสร้างกุศลกับแลคตาซอยในครั้งต่อไป สามารถติดตามข้อมูลได้ทางเฟซบุ๊ก Lactasoy

 
[Advertorial]

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook