เปิดปมฆ่าฟันคอเด็ก ม.3 เหตุพ่นสีทับโลโก้โรงเรียน โชว์ลงเฟซบุ๊ก

เปิดปมฆ่าฟันคอเด็ก ม.3 เหตุพ่นสีทับโลโก้โรงเรียน โชว์ลงเฟซบุ๊ก

เปิดปมฆ่าฟันคอเด็ก ม.3 เหตุพ่นสีทับโลโก้โรงเรียน โชว์ลงเฟซบุ๊ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณี นักเรียน ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกฟันด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำคอจนเสียชีวิต และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย โดยใช้เวลานานกว่า  1 ชั่วโมง

ต่อมา พล.ต.อ.วิระชัย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากความขัดแย้งของนักเรียนสองโรงเรียน ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน รวมถึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างบุคคล ในที่สุดจึงกลายเป็นความขัดแย่งกันระหว่างสถาบัน เหตุเพราะว่านักเรียนสองโรงเรียนได้เกิดเขม่นกันและมีการท้าทายกันทางเฟซบุ๊ก และเลือกลงมือในช่วงวันสถาปนาของโรงเรียนผู้ตาย

เหตุที่เกิดขึ้นนั้นคนที่ลงมือก่อเหตุถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีการไตรตรองไว้ก่อน คือนำอาวุธมีดก่อนขี่รถออกมาก่อเหตุจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพราะฉะนั้นเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ซึ่งเชื่อว่ามีการวางแผนเอาไว้ก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีการนัดแนะมาประลองกันก่อน

ซึ่งขณะนี้เรารู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้วแต่ยังไม่สามารถขออนุมัติหมายจับได้ เนื่องจากยังไม่มีการสอบผู้บาดเจ็บและพยานในที่เกิดเหตุเนื่องจากยังเป็นเยาวชนอยู่ต้องสอบต่อหน้าอัยการหรือนักสังคมสงเคราะห์

หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ได้เดินทางไปจำลองเหตุการณ์ยังจุดที่เกิดเหตุ เพื่อหาประจักพยานเพิ่มเติม ที่บริเวณบนถนนหนามแดง-บางพลี ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

จุดที่เกิดเหตุจุดแรกเป็นจุดที่ผู้ตายถูกฟันและลงไปนอนเสียชีวิต ที่บริเวณปากซอยหนามแดง-บางพลี 21 (ซอยบุญประชา) ถนนหลังวัดหนามแดง หมู่ 3 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธ มีดฟันเข้าที่ลำคอของนายรชต อายุ 15 ปี ผู้ตาย

จุดที่ 2 เป็นจุดที่ผู้ตายตกจากรถ ซึ่งมีคนอยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 6 คน และจุดที่ 3 เป็นจุดที่เพื่อนของผู้ตายอีก 2 คนได้ขับรถนำหน้าไปก่อน 1 คัน และพบกับกลุ่มคู่อริที่ดักอยู่กลางถนน หลังจากนั้นทางกลุ่มผู้เสียหายจึงได้พยายามขับรถหลบหนี

แต่หลบหนีไม่ทัน เนื่องจากว่ามีรถสวนทางมาเป็นเหตุให้ประสบอุบัติเหตุและล้มลงที่พื้น คู่อริจึงวิ่งเข้ามารุมทำร้าย และใช้อาวุธมีดฟันเข้าที่ศีรษะแขนและขาของผู้เสียหายทั้ง 2 คนจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ ประมาณ 1 กิโลเมตร

ส่วนจุดสุดท้ายเป็นจุดที่เป็นฉนวนเหตุคือตอหม้อใต้สะพานทางด่วนกาญจนาบนถนนเส้นเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มของผู้ตายไปใช้สีไปพ่นสัญลักษณ์ของโรงเรียนที่ผู้ตายเรียนอยู่ ซึ่งเป็นเขตของบางแก้วซึ่งเป็นพื้นที่กลุ่มนักเรียนผู้ก่อเหตุเรียนอยู่ ทำให้นักเรียนเจ้าถิ่นไม่พอใจจึงได้กลับมาใช้สีพ่นทับโลโก้โรงเรียนที่ผู้ตายเรียนอยู่และมีการถ่ายรูปขึ้นบนเฟซบุ๊ก คล้ายเป็นการหยาม

ทำให้เกิดการท้าทายกันมาจนมาเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งการเดินทางมาจำลองเหตุการณ์ในเวลาใกล้เคียงที่เกิดเหตุจริง ทำให้ได้พบพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มอีก 2 คนที่เห็นเหตุการณ์ และนำชี้สถานเกิดเหตุในแต่ละจุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถือว่าเป็นพยานปากสำคัญ

จากการสอบถามกับผู้เห็นเหตุการณ์ ในบริเวณที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านให้การเบื้องต้นว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนได้ยินเสียงรถชนกัน ก่อนที่จะเหตุกลุ่มวัยรุ่นกำลังทะเลาะกัน เมื่อมองไปที่ถนนก็พบว่ามีวัยรุ่นนอนอยู่ จำนวน 1 คน และถูกรุมทำร้าย ก่อนที่จะพากันวิ่งหนีหายไป ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น เพราะในเวลานั้นค่อนข้างจะมืดพอสมควร

สำหรับคดีดังกล่าว จะต้องแยกเป็น 2 คดี คือคดีแรกคนร้ายฟันคอผู้เสียหาย และคดีที่สอง คือ ดักทำร้าย โดยใช้อาวุธมีดฟันทำร้าย ซึ่งตอนนี้ตำรวจได้รู้ตัวผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งหมดแล้ว มีไม่ต่ำกว่า 2 คน

จึงอยากจะฝากถึงผู้ปกครอง หรือญาติ ที่พาผู้กระทำผิดหลบหนีนั้น ยังไงก็ต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย หนีไม่พ้น ขอให้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดมามอบตัวก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุม

 โดยหลังจากนี้จะต้องเชิญผู้บริหารทั้ง 2 โรงเรียนมาประชุมหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดจากตัวบุคคลร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมซ้ำอีกในอนาคต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook