เมียโชเฟอร์รถตู้ปัดสั่งฆ่าผัว แต่รับคบกิ๊กหนุ่มตั้งแต่ยังบวชเป็นพระ

เมียโชเฟอร์รถตู้ปัดสั่งฆ่าผัว แต่รับคบกิ๊กหนุ่มตั้งแต่ยังบวชเป็นพระ

เมียโชเฟอร์รถตู้ปัดสั่งฆ่าผัว แต่รับคบกิ๊กหนุ่มตั้งแต่ยังบวชเป็นพระ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้าหลังตำรวจจับกุม นายบรรลือ อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่า นายศุภกร อายุ 45 ปี โชเฟอร์รถตู้ ก่อนขยายผลจับกุมนางสาววาทิตา หรือ พัฒน์ อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ล่าสุด ช่วงเย็นวันนี้ ( 26 ก.พ.) ชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ คุมตัวนางสาววาทิตาเดินทางมาถึง สภ.แม่ปิง ก่อนจะนำตัวเข้าไปสอบสวนทันทีโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ภายในห้อง โดยนางสาววาทิตามีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ยอมคำถามกับผู้สื่อข่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุสั้น ๆ ว่านางสาววาทิตาให้การภาคเสธ คือ รับสารภาพว่าคบหากับนายบรรลือจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้สั่งหรือมีส่วนในการฆ่าสามีตัวเอง โดยคาดว่าตำรวจจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสอบสวน

ขณะที่ พ.ต.ท.ธนัญชัย ศิริวรรณา รอง ผกก.สส.สภ.แม่ปิง เปิดเผยถึงแนวทางการสืบสวนจนทำมาสู่การจับกุมนางสาววาทิตาว่าหลังจับกุมนายบรรลือ ชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่านางสาววาทิตาและนายบรรลือมีความสัมพันธ์กันมาก่อนเมื่อสิบกว่าปีก่อน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป โดยนายบันลือได้ไปบวชเรียนที่จังหวัดอุดรธานี

ต่อมานางสาววาทิตามีปัญหากับสามี และ ได้ไปเจอนายบรรลืออีกครั้งทางเฟซบุ๊ก จนกลับมาพูดคุยคบหากันอีกครั้งในช่วง 1 – 2 ปี ก่อน ซึ่งระหว่างนั้นนายบันลือยังบวชเป็นพระอยู่ ระหว่างนั้นได้นัดพบเจอกันหลายครั้ง

กระทั่งล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นายบรรลือได้ลาสิกขาบทและมาหานางวาทิตาอีกครั้ง จนร่วมกันวางแผนฆ่านายศุภกรเพื่อไปมีชีวิตใหม่ร่วมกัน โดยนางวาทิตาเป็นคนชี้เป้าและให้เงินค่าใช้จ่าย ขณะที่นายบรรลือได้ไปดักรอผู้ตายก่อนลงมือถึง 2 วัน 

พ.ต.ท.ธนัญชัย กล่าวว่า หลักฐานที่ได้มาและพยานยืนยันพบเห็นผู้ต้องหาทั้งสองคนที่อำเภอเชียงของ จ.เชียงราย ประกอบกับหลักฐานการโอนเงิน และภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานที่ทำให้ศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับทั้งสองในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook