“ยิ่งยง” ควงเมียเปิดใจมรสุมชีวิต หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี

“ยิ่งยง” ควงเมียเปิดใจมรสุมชีวิต หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นข่าวใหญ่โตมาก เมื่อนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "ยิ่งยง ยอดบัวงาม" ถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี จากคดีธุรกิจฉ้อโกงประชาชน แต่ทางด้านนักร้องลูกทุ่งก็ได้ใช้เงินประกันตัวออกมา ตอนนี้กำลังอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ล่าสุดในรายการ คุยแซ่บ Show ทางช่อง ONE31 เชิญ ยิ่งยง ยอดบัวงาม พร้อมภรรยา ทิพย์ มลฑาทิพย์ จูงมือมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...

“เรื่องของเรื่องคือทางโรงงานเจ้าของปุ๋ยมานำเสนอให้เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราก็รับปากไป แล้วเขาก็มาบอกว่า ถ้าเป็นพรีเซ็นเตอร์มันได้น้อย เดี๋ยวทางบริษัทจะให้เราเป็นหุ้นส่วน 10% โดยไม่ต้องลงเงิน ใช้แต่ชื่อเสียง ทางเราก็มีหน้าที่เป็นพีอาร์ให้กับบริษัท ร้องเพลง แต่มันมีอีกบริษัทหนึ่งที่มีหน้าที่รับฝากขายปุ๋ย คือเขาซื้อปุ๋ยจากบริษัทของเราไป เพื่อไปขายให้กับเกษตรกร ได้กู้ ได้ใช้ปุ๋ยในราคาที่ถูก"

"พอเขาซื้อปุ๋ยเราไป บริษัทนั้นก็ครบสัญญาปีหนึ่ง มีคืนเงินบ้าง ไม่คืนบ้าง เขาก็ทำธุรกิจของเขาไป เอาเงินไปให้เกษตรกรกู้ แล้วเขาก็ไม่ได้คืนเงินขายฝากทางนี้ เขาก็มาฟ้อง จริงๆ แล้วเรื่องนี้มันมีมาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว มาฟ้องโดยการที่ว่าซื้อปุ๋ยมาจากของเรา แต่จริงๆ แล้วสัญญาขายฝากไม่เกี่ยวกับทางเราเลย"

"ที่เราโดนลากเอี่ยวไปกับคดี เพราะเขาถือว่าเรามีชื่อเสียง ซื้อปุ๋ยมาเพราะเรา เราเป็นพรีเซ็นเตอร์ พอเขาเสียหาย เขาก็ต้องฟ้องเรา เพราะเราเป็นคนที่ทำให้เขาเชื่อถือมาซื้อปุ๋ยของเรา แต่จริงๆ แล้วมาขายฝากบริษัทนั้น ก็มีสัญญาถูกต้องทุกอย่าง ถามว่ารู้ไหมว่าอีกบริษัทเขามีการรับขายฝาก เราก็รู้นะ แต่เราบอกไปแล้วว่าเราไม่ยุ่งนะ แต่เราขายปุ๋ยจริงๆ”

“ตอนที่เราไปขึ้นศาลกัน ตอนนั้นเราไม่คิดไง เราคิดแค่ว่าไม่ต้องกลัว เราไม่ผิด เพราะเราอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย แล้วที่เขาฟ้องนั่นคือบริษัทที่รับฝากขายปุ๋ย เป็นสัญญาขายฝากของอีกบริษัทหนึ่ง แต่มุมมองของศาลเขามองว่าเป็นการเชื่อมโยงกัน จริงๆ แล้วบริษัทของเราไม่ผิดเลย อาจจะผิดตรงนี้ พรบ.ขายปุ๋ยไม่ให้ขายตรง น่าจะผิดตรงนั้น วันที่ศาลตัดสินผมก็ยืนนิ่งสงบเลย ไม่ได้คิดอะไรนะ เราไม่ได้คิดว่าเรื่องจะใหญ่”

แต่มันตัดสินว่า 20 ปี ไม่รอลงอาญามันหนักมาก?
“หนักมากครับ แต่ในใจเราไม่ได้คิดอะไรเลย แต่คิดแค่ว่าเราจะไปยังไงต่อ”

ถ้าเรายื่นอุทธรณ์ แต่ไม่เป็นดังที่ใจเราคิด เราจะทำยังไง?
“ศาลคงไม่ยืนเหมือนเดิมในความคิดเรา เพราะตอนนี้ทางบริษัทออกมารับผิดชอบ ตอนนี้จ่ายไปแล้ว 2 ส่วน แล้วสิ้นมีนาคมนี้จะจ่ายอีกส่วนตามที่ตกลงกันไว้”

ทำไมเราไม่ได้ผิด แต่เราต้องจ่าย?
พี่ทิพย์: “คือตามที่เราคิดคือ เงินเดือนที่เราได้รับคือ 3 หมื่น แล้วพี่ยิ่งยงได้ 5 หมื่น กับคอนเสิร์ตที่เราไปทัวร์ประมาณ 2 ปี ก็ให้เขาไปเถอะ เพราะพี่มีความคิดว่า เงินตรงนั้นมันไม่ใช่ พี่มีความรู้สึกอย่างนั้น อีกอย่างทางผู้เสียหายเขาก็ต่อสู้มาโดยตลอด พี่มีความสุขที่เขาได้เงินคืน เราอยากให้เขาได้เงินคืน เพราะเราคุยกับผู้เสียหายตลอดว่า พี่ฟ้องเถอะ เพราะเราจ่ายเองไม่ไหว อีกอย่างบริษัทเราไม่ผิด แต่ยังไงเขาก็ยืนยันว่าเขาจะเอาพี่ยิ่งยง เพราะเป็นคนที่ทำให้เขาเชื่อถือ แต่เราไม่คิดว่าพี่ยิ่งยงจะโดนฟ้องด้วย เพราะเขาอยู่ในบริษัทขายปุ๋ย ไม่ได้อยู่ในบริษัทรับขายฝาก"

"จำนวนผู้เสียหายที่ฟ้องไปประมาณ 11 ล้าน แต่เราต่อรองกัน เขาก็เห็นใจ ตอนนี้เหลืออยู่ที่ 8 ล้านกว่า พี่ไม่ได้กลัวนะว่าจะไม่รอด พี่มั่นใจ เราบอกพี่ยงไว้เสมอว่า ยงเราไม่ได้ผิด เรามีจิตที่ดี พี่คิดว่าทุกอย่างต้องผ่านไปได้ ตอนนี้เราได้จ่ายเงินผู้เสียหายแล้ว เขาก็จะไปอุทธรณ์ให้ด้วย วันที่ไปตกลงเราก็คุยกันดีนะ ดีใจที่เขาได้เงินคืน โชคดีที่ทางทนายและผู้เสียหายเขาน่ารัก เราคุยกันตลอด”

ยิ่งยง: “เราก็ดีใจที่ผู้เสียหายได้เงินคืน ส่วนเรื่องคดีความก็อยู่ในขบวนการของศาล”

คนที่มาซุบซิบนินทา ทำลายความรู้สึกของเราบ้างไหม?
“ก็มีบ้างครับ เพียงแต่ว่าเราห้ามคนคิดไม่ได้ แต่ดีที่ทุกคนให้กำลังใจหมด เรายอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น ก็มีผลต่องานบ้างครับ ทั้งพรีเซ็นเตอร์และคอนเสิร์ต แต่คนไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย มีแต่บอกให้สู้ๆ นะ”

พอเกิดเรื่องราวแบบนี้มา มันเกิดผลกระทบกับครอบครัวไหม?
“สำหรับความรู้สึกของพี่เอง พี่ยอมรับทุกสิ่งอย่างที่มันเกิดขึ้น แต่เรื่องของคนรอบข้างเราก็ห้ามความคิดไม่ได้ เราก็น้อมรับ อย่างลูกสาวก็ไปโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ก็มีคนไปโพสต์ด่าลูกเราว่า ใช้เงินเกินตัว ไปเอาเงินมาจากไหน แต่จริงๆ แล้วเงินนั้นมันไม่ถึงล้าน แต่ถ้าเป็นปีมันถึงล้านแน่ ผมไม่ได้สปอยด์ลูกเลย และมันไม่ใช่ความจริงที่ผมต้องให้เงินลูกเดือนละเป็นล้าน แต่จริงๆ เราให้เงินลูกแค่ค่าเรียนเท่านั้น ส่วนค่ากินเขาทำงานเสิร์ฟ”

แบ่งค่าใช้จ่ายให้ลูกยังไง?
“ลูกสาวคนโตพี่ทิพย์เขาก็ดูแล ให้เงินเดือน เพราะเขาก็พิการตั้งแต่มีลูก ส่วนลูกชายเขาก็ไปร้องเพลงหาเงินเอง ถ้ามีปัญหาอะไรเขาก็มาหาเรา ส่วนลูกสาวน้องโย่เขาก็หาเองของเขา”

ล่าสุดถูกเม้าท์ว่าจะบวชหนีคุก?
“ไม่ใช่ การบวชมันหนีไม่ได้เลย แต่เราบวชเพื่อความสบายใจมากกว่า ยอมรับว่าก็มีความเครียดกับข่าวที่เกิดขึ้นเหมือนกันครับ คนที่คอมเม้นท์ว่าเราอาจจะแค่ทำเพื่อถูกใจตัวเอง แต่ลืมความถูกต้อง แต่ก็ไม่เป็นไร เราน้อมรับ น่าจะบวชประมาณ 7 เมษายน บวชไปจนได้วันสึก น่าจะประมาณ 20 กว่าวัน”

พี่ยิ่งยงทำพี่ทิพย์เสียน้ำตามาเยอะมากจริงไหม?
พี่ทิพย์: “จริงค่ะ เป็นเรื่องหนี้สิน ก่อนหน้านั้นที่ผ่านมาประมาณ 20 ปี พี่ยงเขาเป็นหนี้เยอะ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเขาเป็นหนี้เยอะ มีหนี้เข้ามาทีละก้อนๆ หนี้ล่าสุดประมาณ 5.5 ล้าน ซึ่งมันมากสำหรับเรามากๆ ตอนนั้นได้กันใหม่ๆ”

ยิ่งยง: “ตอนนั้นเราไปกู้ซื้อตึก แล้วขาดส่ง ซึ่งทางธนาคารก็ยื่นคำเตือนมาว่าต้องจ่าย ทางตึกเองก็ขายทอดตลาดไปแล้ว ผมจ่ายดอกไปประมาณ 2 ล้าน ทางธนาคารก็ฟ้องล้มละลาย ผมก็ไปกรมบังคับคดีไปล้มละลาย ทางผู้จัดการก็ให้โอกาส เพราะถ้าเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศมันไปไม่ได้ หรือทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้ เลยประนอมหนี้ ยอดจริงๆ 4 ล้าน ขายไปแล้ว 2.8 ล้าน ก็เหลือจริงๆ 1.2 ล้าน ธนาคารก็ประนอมหนี้ให้เหลือ 2 ล้าน ซึ่งทางพี่ทิพย์เองก็เป็นคนดำเนินเรื่องให้ ไม่งั้นเราก็ต้องจ่ายเอง”

รู้สึกยังไงที่พี่ทิพย์อยู่เคียงข้าง ไม่เคยทิ้งเราเลย?
ยิ่งยง: “เขาทิ้งไม่ได้หรอก เขารักพี่”

พี่ทิพย์: “พี่ยิ่งยงเขาเป็นคนดี เขาเป็นคนซื่อ อย่างเงินในคดีนั้นที่เราตกลงทำกับบริษัทปุ๋ย เราตัดสินในทำเพื่อสร้างครอบครัว แต่พอมันผิดพลาดก็ไม่เป็นไร เราให้กำลังใจกัน สู้ๆ คนเราอาจจะเป็นวิบากกรรม เราเสียน้ำตาให้เขาบ่อยนะเรื่องหนี้ เรื่องเงิน เรื่องลูก”

รู้สึกยังไงบ้างที่เขาไม่ทิ้งเรา?
“ก็ดีใจครับ แต่เรายินดีอยู่แล้วรักเขาอยู่แล้ว ขอบคุณมากครับ จะบอกว่าที่ผ่านมาทุกอย่าง เราไม่มีเจตนาที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่ทำไม่ว่าจะเป็นหนี้สินทุกอย่าง เรามีการทำวงไปกู้เงินนอกระบบมาเพื่อช่วยวง เขารู้ดีว่าเราเอาเงินมาจ่ายค่านั่นนี่ คนเรามันจมไม่ลง พยายามจะดันตัวเองให้มันอยู่ให้ได้ แต่ในที่สุดในโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ยั่งยืนจริงๆ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่เราต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้รู้แล้วว่าอะไรที่มันไปต่อไม่ได้ ก็อย่าไปดันทุรังทำมัน ก็บอกเขาว่า สิ่งต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นก็ไม่ได้เจตนาให้มันเกิด แต่ก็ขอบคุณเขาด้วยที่ยังรักกันอยู่”

มีอะไรอยากฝากบอกแฟนคลับไหม?
“ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ทุกท่านที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำผิดตลอดเวลา บางครั้งการผิดอาจจะผิดด้วยการที่ไม่ได้เจตนาเลยก็มี ผมเชื่อว่าสักวันแฟนๆ อาจจะเข้าใจในเจตนาของผม อะไรที่เกิดขึ้นถ้าเรามีสติ เราตั้งรับกับมัน ผมเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้”

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ “ยิ่งยง” ควงเมียเปิดใจมรสุมชีวิต หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook