"ครูเคท" อาจารย์ข้ามเพศ แถลงการณ์ หลังศาลปกครองพิพากษาให้กลับไปสอน

สืบเนื่องจาก นายคทาวุธ ครั้งพิบูลย์ หรือ ครูเคท ซึ่งเป็นบุคคลที่ตกเป็นข่าวเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมาได้ถูกปฏิเสธไม่ให้เป็นอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งผู้ฟ้องเห็นว่ามหาวิทยาลัยใช้ดุลยพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศ โดยไม่ดูคุณสมบัติ จึงได้ยื่นคำร้องฟ้องต่อศาลปกครอง

ล่าสุด ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนคำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตามที่ครูเคท ยื่นคำร้องฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย ต่อศาลปกครอง ให้อนุมัติกลับเข้าเป็นอาจารย์ หลังศาลพิเคราะห์ว่า พฤติกรรมในการใช้โซเชียลมีเดียนั้น ไม่ได้เป็นการประพฤติที่ชั่วร้ายหรือส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่ในมหาวิทยาลัย และต้องเรียกผู้ฟ้องไปทำสัญญาภายใน 60 วัน หลังจากคดีถึงที่สุด

หลังมีคำพิพากษาออกมาครูเคทได้โพสต์ว่า อยากให้กรณีของตนสร้างบรรทัดฐานให้หน่วยงานรัฐและเอกชนทุกแห่งให้เคารพสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่เลือกเพศสภาพ เพราะความหลากหลายทางเพศเป็นสิทธิเบื้องต้นของมนุษย์

"แถลงการณ์ ของ เคท ครั้งพิบูลย์ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและภาคีเครือข่ายหลากหลายทางเพศ กรณี ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษา กะเทยฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปฏิเสธการจ้างงาน

เคท ครั้งพิบูลย์ ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและภาคีเครือข่ายหลากหลายทางเพศ ขอขอบคุณศาลปกครองที่มีคำวินิจฉัยให้เพิกถอนคำสั่งคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยที่ไม่จ้างให้เคท ครั้งพิบูลย์เป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ตำแหน่งอาจารย์ โดยวินิจฉัยว่า พฤติการการใช้สื่อสาธารณะ เป็นการเผยแพร่ข้อมูลเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เป็นเพื่อนและผู้ติดตาม ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะทั่วไป การสื่อสารของเคท ครั้งพิบูลย์เป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 4 เป็นการสื่อสารภายใต้ขอบเขตกฎหมายที่รับรองและคุ้มครองไม่ทำให้เสื่อมเสียมาตรฐานในวิชาชีพ และสถาบันการศึกษา

ในฐานะที่เป็นผู้เสียหายมีความเห็นว่า ศาลไม่ได้วินิจฉัยประเด็นเรื่องปฏิเสธไม่จ้างทำงานจากเพศสภาพมหาวิทยาลัยไม่ต่อสู้ประเด็นเพศสภาพโดยตรง แต่ยกพฤติกรรมเรื่องการใช้ถ้อยคำในสื่อสาธารณะ ว่าส่งผลกระทบต่อจรรยาบรรณของอาจารย์

#มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เตะลูกออกนอกสนามไม่เล่นประเด็นเรื่องเพศสภาพและอัตลักษณ์ทางเพศ เพราะมีรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศวางหลักการไว้ชัดเจนแล้ว #ศีลธรรมจริยธรรมจรรยาบรรณถูกยกมาเป็นข้ออ้างถูกโยนลูกเข้ามาเล่นในสนามแทนประเด็นเพศสภาพ

คำพิพากษาวันนี้แม้ประเด็นเพศสภาพถูกโยนออกนอกสนามไปแล้ว แต่ท่านผู้พิพากษามองเห็นประเด็นสำคัญ และพิจารณาข้อเท็จจริงที่เคทพูดและบ่นเมื่อถูกเลือกปฏิบัติในชีวิตว่าเป็นพฤติการที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจรรยาบรรณอาจารย์

หวังเป็นที่สุดแล้วว่าคำพิพากษาตัดสินของศาลปกครองในวันนี้ จะเป็นบรรทัดฐานในการกำหนดแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานภาครัฐทุกหน่วยงานรวมถึงภาคเอกชน ให้เคารพสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนทุกเพศสภาพ โดยไม่เลือกปฏิบัติด้วยเหตุวิถีทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศต่อไป

ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ติดตามการฟ้องมาอย่างต่อเนื่อง ขอขอบพระคุณพี่น้องผู้มีความหลากหลายทางเพศและองค์กรภาคประชาสังคม ภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศที่ได้ให้ความสนใจและเป็นกำลังใจมาให้ตลอดระยะการฟ้องคดี ขอขอบคุณนักศึกษา อาจารย์ สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ได้เปิดพื้นที่ให้บอกเล่าประสบการณ์และถ่ายทอดแนวคิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ร่วมกันในกรณีการฟ้องครั้งนี้ ขอขอบคุณทนายความและมูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศที่ได้ยืดหยัดเคียงและต่อสู้เพื่อขจัดอคติและการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งเพศ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสังคมไทยจะได้พัฒนาความคิดต่อการเคารพในความหลากหลายต่อเพศต่อไป

ทั้งนี้เพราะสิทธิความหลากหลายทางเพศ เป็นสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นหญิง ชาย กะเทยหรือคนข้ามเพศ และไม่ว่าจะเป็นคนรักต่างเพศ คนรักเพศเดียวกันหรือคนรักทั้งสองเพศ"