ไทด์ เอกพันธ์ ขอยุติการช่วยเหลือ กิตติ ดัสกร ลั่น คิตตี้ หยุดสร้างเรื่องให้คนอื่น

ไทด์ เอกพันธ์ ขอยุติการช่วยเหลือ กิตติ ดัสกร ลั่น คิตตี้ หยุดสร้างเรื่องให้คนอื่น

ไทด์ เอกพันธ์ ขอยุติการช่วยเหลือ กิตติ ดัสกร ลั่น คิตตี้ หยุดสร้างเรื่องให้คนอื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นข่าวดังเมื่อปีก่อนเมื่อ กรณี “ปื๊ด กิตติ ดัสกร” อดีตดาวร้ายน้องชายของ “ดามพ์ ดัสกร” ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ เบาหวาน และความดัน ซ้ำยังถูกทอดทิ้งให้อยู่ในบ้านคนเดียว ก่อนที่ “ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” จะยื่นมือให้ความช่วยเหลือและขอให้เลิกยุ่งกับ “คิตตี้” หรือ “แพท” ภรรยาสาว เพราะชอบสร้างความเดือดร้อน

แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็กลับมาคืนดีกัน จน “ไทด์ เอกพันธ์” ประกาศยุติการช่วยเหลือ และเปิดใจแบบหมดเปลือกกับรายการ เจาะประเด็น ทาง ช่อง 8 โดยมี “ต่วย ภคพงศ์ อุดมกัลยารักษ์" เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ถึงกรณีที่ตนเองยุติการให้การช่วยเหลือ

ไปช่วยเหลือคุณปี๊ด กิตติ ได้อย่างไร ?
ไทด์  "คุณอมตะเป็นนักแสดงรุ่นน้อง ซึ่งคนจะคุ้นหน้าเขาในละคร จักรๆ วงศ์ๆ แล้วคุณอมตะก็เป็นรุ่นน้องของ พี่กิตติ ดัสกร เพราะเป็นคนใต้ด้วยกัน มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ยินข่าวว่าพี่กิตติป่วย แล้วกลับมาอยู่บ้านหลังที่เป็นประเด็น คุณอมตะก็เข้าไปดู เห็นสภาพแล้วก็ตกใจว่าทำไม กิตติ ดัสกร ดาวร้ายอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ถึงมีสภาพเป็นแบบนี้ เขาก็เลยโทรหาผมบอกว่า สภาพแย่มากเลยถ้าพี่ไม่ช่วยก็ไม่รู้จะทำอย่างไร"

"ผมก็เลยให้ถ่ายรูปส่งมาให้ผมดู คือเป็นกองขยะเลยครับ เสื้อที่แกใส่เนี่ย ผมไปหาจากอีกห้องหนึ่งมาให้ใส่เลยนะ เพราะแกใส่แค่แพมเพิสตัวเดียว ซึ่งคิตตี้ก็อยู่ แต่อยู่อีกห้องหนึ่ง แล้วในห้องนั้น มีทั้งแพมเพิสที่เขาใช้แล้ว มีทั้ง อุจจาระ ปัจสาวะ กองเกลื่อนเต็มไปหมด ทิ้งไปตรงนั้นเลยเป็นกองขยะ"

"ผมก็เลยบอกคุณอมตะว่าโอเคเดี๋ยวผมไปช่วย วันรุ่งขึ้นผมก็เตรียมน้องๆ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูไปช่วยจัดการ ก่อนที่จะไปจัดการบ้านหลังนี้ก็บอกแกว่าผมจะมาช่วยพี่นะ แต่มันมีอุปสรรคเพราะบ้านหลังนี้มันมีขยะเยอะมาก คือถ้าพี่ป่วยแล้วพี่จะมานอนในสภาพแบบนี้เดี๋ยวสักวันพี่จะต้องติดเชื้อโรค และมีโรคแทรกซ้อนแน่ๆ พี่กิตติก็บอกว่าตามสบายเลย คิดตี้ก็โอเค เพราะไม่ใช่บ้านของเขา"

"เขาบอกว่าเป็นบ้านของคนที่รู้จักคนหนึ่ง แล้วมาขออยู่อาศัย คิดเดือนละ 5,000 บาท ตอนแรกก็จ่ายไป 2 - 3 เดือน แล้วเจ้าของที่เคยดูแลก็หายสาบสูญไปหลายปีไม่มาเขาก็เลยยึดครองบ้านหลังนี้ เสื้อผ้าก็กองเต็มไปหมด ลูกๆ ก็อยู่ด้วยในบ้านหลังนี้ ตามข่าวบอกว่า 4 แต่ที่ผมเจอมี 3 คน ผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน เขาบอกว่ามีอีกคนอยู่หัวหินเป็นคนโตสุด"

ตอนนั้น คิตตี้ บอกว่าไม่ใช่ภรรยาแต่เป็นลูก แล้วมีการเอาเงินออกจากบัญชีไปถึง 80,000 บาท เรื่องเป็นมาอย่างไร ?
ไทด์  "ตอนนั้นผมก็ถามพี่ปื๊ดนะว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เขาก็บอกผมนะว่าเป็นภรรยาเขา แต่ขอร้องผมว่าอย่าบอกว่านี่เป็นภรรยาเขา เพราะว่าคิตตี้บอกว่าให้เป็นลูกสาว ไม่อย่างนั้นคนที่ให้ความช่วยเหลือจะไม่ให้ความช่วยเหลือ และมีผลกระทบตามมา เลยให้บอกว่าเป็นลูกสาวมาดูแลพ่อ ซึ่งผมก็ไม่ได้บอกใครว่าเป็นภรรยา แต่เรื่องเงินในบัญชีผมไม่ทราบว่าเขามีอยู่เท่าไหร่ แต่พี่ปื๊ดมาบอกผมว่ามีบัญชีอยู่หนึ่งบัญชี แต่อยู่กับแพทก็คือคิตตี้ภรรยาเขาเนี่ยนะครับ"

"ผมก็ถามต่อว่าบัญชีที่เปิดเพื่อให้คนอื่นเข้ามาช่วยเหลือยังอยู่ไหม เขาบอกว่ายังอยู่ครบ ผมก็เลยขอเช็คหน่อยเขาว่ามีประมาณ 200,000 กว่าบาท ผมก็ถามย้ำอีกรอบนะครับว่ายังอยู่ครบไหม เขาก็บอกว่ายังอยู่ ก็มีคิตตี้มาเบิกค่าใช้จ่ายรายวันต่างๆ บ้าง กดทีละ 200 บ้าง 500 บ้าง"

"ซึ่งผมก็ถามเรื่องเงินกับคิตตี้อีกรอบว่าขอเช็คเงินได้ไหม เพราะต้องรู้ยอดจำนวนเงินที่คนให้ความช่วยเหลือ ซึ่งตอนนั้นไปออกรายการรายการหนึ่ง เขาก็บอกว่าอยู่ครบเดี๋ยวจบรายการแล้วลงไปดูเลย"

"จากนั้นพอจบรายการปุ๊บ ลงไปข้างล่างก็ขอบัตรเอทีเอ็มเขาดู ผมก็ไม่รู้ว่าเขาไปหักบัตรเอทีเอ็มตอนไหน หักเพื่อไม่ให้มันใช้งานได้ เขาบอกว่าเอาไว้ในกระเป๋าแล้วนั่งทับในรายการแล้วบัตรมันหัก ผมก็โอเคไม่เป็นไร ก็เลยรายงานพี่ปื๊ดบอกว่าบัตรมันใช้ไม่ได้แล้วนะ ให้โทรถามที่ธนาคารเลย เพราะเราก็อยากจะทราบว่าเหลือเงินเท่าไหร่ เขาบอกว่าเงินก้อนนี้ไม่ใช่ของพี่ปื๊ด เป็นของผู้ชายที่มาหลงรักเขาโอนให้ ที่จับได้เพราะว่าโทรหาธนาคาร ธนาคารบอกว่ามีถอนออกจากธนาคารติดต่อกัน 4 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท รวมเป็น 80,000 บาท ถ้าหนูเอาเงินพี่ไปใช้ พี่แจ้งตำรวจจับหนูได้เลย เขาขอโทษว่าเองเงินไปใช้หนี้ก็เลยเคลียร์กันได้"

เหมือนบอกกับพี่ปื๊ดว่าถ้าอยากให้ช่วยเหลือต้องเลิกยุ่งกับคิตตี้ ?
ไทด์  "ผมถามพี่ดามพ์ว่าข่าวมันออกมาแบบนี้ว่าพี่ไม่มาเยี่ยมน้องชายเลย มันเพราะอะไรอยากทราบเหตุผล เขาบอกว่าน้องชายเราแท้ๆ เขาอยากมาเยี่ยมมาก แต่ติดที่ว่าภรรยาคนนี้เขาไม่อยากมาเจอ ถ้าเกิดว่าคิตตี้ไม่อยู่เขาจะมาเยี่ยมน้องชายเขา แต่คิตตี้มาบอกพี่ปื๊ดว่านอนอยู่โรงพยาบาลในห้องอนาถาพี่ดามพ์ก็เลยไม่อยากมาดู คือมันคนละเรื่องกันเลย ทีนี้ก็เลยตัดสินใจว่า ถ้าพี่ปื๊ดยังอยากได้รับความช่วยเหลือต้องเลิกยุ่งกับภรรยาคนนี้ ถ้าพี่ยังเอาภรรยาคนนี้อยู่ จะไม่มีคนให้การช่วยเหลือ แล้วพี่ปื๊ดก็รับปากผมนะครับตอนนั้น"

เกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้นได้ติดต่อกันไหม ?
"เมื่อสองอาทิตย์พี่ปี๊ด เขาโทรมาหาผม ซึ่งตอนแรกผมไม่ทราบเรื่องเลยว่าเขากลับไปอยู่กับคิตตี้ ไม่มีใครบอกข่าวผมเลย เพราะล่าสุดผมเอาเขาไปส่งให้พี่สาวเขาดูแล แล้วมีเงินก้อนหนึ่งให้ไว้เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้คนที่มาดูแล และหลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน ผมก็ไม่ได้เจอพี่ปี๊ดอีกเลย ซึ่งเราก็สบายใจว่าได้อยู่กับพี่สาว เราก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเราก็ได้คุยกัน ถามไถ่เขาปกติว่าสบายดีไหม"

"แล้วมันมีเรื่องที่ทำให้ผมปรี๊ดแตก เพราะพี่แกพูดออกมาประโยคหนึ่งว่า พี่กลับมาอยู่กับแพท (คิ้ตตี้) แล้วนะ ซึ่งผมไม่รู้เรื่องเลย เขาบอกว่าอยากจะอยู่กับลูกพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว ผมก็โอเคถือว่ามันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าคิตตี้เขากลับตัวกลับใจไม่สร้างความเดือดร้อนให้พี่ผมก็โอเค แล้วเขาก็พูดมาประโยคหนึ่งว่า ฝากบอกอมตะด้วยว่าจะแจ้งจับ อย่ามาล้ำเส้น อย่ามาก้าวก่ายกับแพท (คิตตี้) ไม่ชอบ ผมก็ถามว่ามีอะไรกันหรอ อมตะบอกกับพี่สาวพี่ปื๊ดว่าถ้าคิตตี้มาขอเงินอย่าให้ เพราะต้องเก็บไว้ดูแลพี่ปื๊ด คือคิตตี้มาขอตลอดเวลา"

เพราะสาเหตุอะไรที่เราประกาศเลยว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพี่ปื๊ดอีก ?
ไทด์  "เดี๋ยวเขาจะแจ้งความจับอมตะข้อหาขโมยของ ซึ่งมันเป็นสร้อยสแตนเลสเส้นหนึ่งไม่กี่ร้อยแล้วมันมีหลายเส้นที่หายไป ผมบอกว่าถ้าจะแจ้งความจับอมตะก็ต้องแจ้งจับผมด้วยเพราะผมอยู่ด้วย"

รายการได้โฟนอินหา "คุณกิตติ" เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่า ได้กลับไปหา คิตตี้ จริงไหม และเจ้าตัวจะแจ้งความจับ "อมตะ" จริงหรือเปล่า ?
(ปี๊ด) กิตติ  "ทรัพย์สินมันหายไปเยอะแยะ มันไม่ได้อะไรนักหนาหรอกเพราะผมยังไม่ได้แจ้งความ ตอนนี้คิตตี้อยู่กับแม่เขาที่หัวหิน ลูกก็กลับไปอยู่ด้วย เรื่องบ้านเอื้ออาทรที่จะซื้อตอนนี้ไม่ได้ซื้อแล้ว แต่ตอนแรกไม่มีที่อยู่เลยจะซื้อ ตอนนี้พี่ชายให้บ้านอยู่แล้ว เงินบริจาคยังอยู่ครบถ้วน เช็คได้เลย"

ไทด์  "ผมอยากถามความในใจ ทำไมพี่ต้องแจ้งความจับอมตะ"

(ปี๊ด) กิตติ  "ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนั้นคือมันติดปัญหาที่อมตะไง จะเบิกเงินจะอะไรไม่ได้เลย เกิดความรำคาญ"

ไทด์  "อมตะเป็นห่วงพี่มากนะเพราะคิตตี้มาเอาเงินไปเยอะมาก ก็เลยกลัวว่าเงินมันจะหมดไม่มีรักษาพี่นะ เขาไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก แต่เงินที่เบิกไปมันต้องมีเหตุผลว่าเอาไปทำอะไร"

(ปี๊ด) กิตติ  "มีเรื่องที่คิตตี้มาบอกว่าอมตะลวนลาม ลูบหัวบ้าง ลูบหลังบ้าง ไม่ชอบเลย ลูกๆ ก็เห็นแล้วก็มาบอกเรา"

ไทด์  "พี่เป็นผู้ใหญ่ พี่ต้องมีวิจารณญาณในการที่จะฟังความจากภรรยาพี่ เรื่องโดนตัวเนี่ยผมกล้าเอาเกียรติของผมเป็นประกันเลยว่าอมตะไม่มีนิสัยแบบนั้นแน่นอน เขาเกลียดคิตตี้ยิ่งกว่าอะไร อาบน้ำบ้างไหม กลิ่นนี่โชยเลย เจอทีไรมีแต่ตักเตือนกันตลอด เวลาผมไปหาเขาก็หมกตัวอยู่ในห้องไม่ออกมาเจอผม"

กิตติ  "ผมอยากกลับไปอยู่กับลูกกับครอบครัว เพราะว่าเวลาลูกเราไปงานโรงเรียนไม่มีพ่อมีแม่ไปเราก็รู้สึกสงสารลูกอะนะ อยู่กินกันมานาน มันก็ตัดไม่ได้"

ไทด์  "ถ้าพี่กลับไปอยู่กับคิตตี้เพราะอยากอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัวผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่พี่ต้องเตือนภรรยาพี่ว่าอย่าสร้างความเดือนร้อน อย่าพูดอะไรใส่ร้ายให้คนที่ช่วยเหลือพี่มาตลอด แต่ถ้าพี่อยากให้ผมช่วยเหลืออะไรเมื่อไหร่พี่บอกผม ผมตามไปช่วยเหลือพี่หมดแหละ สุขภาพพี่โอเคนะ"

(ปี๊ด) กิตติ  "สุขภาพโอเคขึ้นเยอะ แต่แม้ว่าคนอื่นจะตัดขาดเราก็ยังยืนว่าจะกลับไปอยู่กับคิตตี้อยู่ดี คนมันอยู่กินกันมานาน ถ้าหายดีมีคนให้ไปเล่นหนังเล่นละคร ก็จะไปอยู่ครับ"

ได้คุยกับคุณกิตติแล้วเป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกสบายใจขึ้นไหม ?
ไทด์  "ถ้าเขาจะกลับไปอยู่กับคิตตี้พร้อมหน้าพร้อมตา ผมไม่ได้ห้าม แต่อยากให้พี่ห้ามปรามภรรยาของพี่ว่าอย่าไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน อย่าไปใส่ร้ายคนอื่นในทางที่ไม่ดี เขาชอบใส่ร้ายคนอื่น ก่อนหน้านี้เขาก็เคยร้องห่มร้องไห้มาทีหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนนิสัยไหม ผมคิดว่าถ้าพี่ปื๊ดยังเข้าไปอยู่ในวังวนของคิตตี้เนี่ย ไม่รู้ว่าจะอยู่นานแค่ไหน สุดท้ายยังไงก็ต้องวังวนเดิม ถ้าเงินบริจาคหมด ผมคิดว่าแบบนี้นะ ถ้าพี่เขาไม่ได้กลับมาผมก็คิดว่าน่าจะกลับไปอยู่ในสภาพที่ผมเจอเขาครั้งแรกนั่นแหละครับ แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ต้องช่วยเหลือเขาอยู่ดีครับ"

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ ไทด์ เอกพันธ์ ขอยุติการช่วยเหลือ กิตติ ดัสกร ลั่น คิตตี้ หยุดสร้างเรื่องให้คนอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook