มาร์ค-เทพเทือกโต้ รบ.จุดยืนชัด ไม่สองมาตรฐาน-กีดกันเสื้อแดง

มาร์ค-เทพเทือกโต้ รบ.จุดยืนชัด ไม่สองมาตรฐาน-กีดกันเสื้อแดง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คมชัดลึก : พท.ตั้งกระทู้จวก มาร์ค 2 มาตรฐาน แฉสั่งทหาร 6 พันนายตรวจเข้มเสื้อแดงห้ามชุมนุมขัดรธน. ด้าน นายกฯปัดจุดยืนชัดไม่เคย 2 มาตรฐาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องการดำเนินการของรัฐบาล 2 มาตรฐานถามนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้บ้านเมืองวุ่นวาย แบ่งข้าง แบ่งสี แบ่งใจ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ดีต่อบ้านเมือง เพราะหากบ้านเมืองไหนมี 2 มาตรฐานไปไม่รอดแน่ อย่างกระบวนการยุติธรรม พรรคนั้นโดน พรรคนี้ไม่โดน หรือเรื่องงบประมาณก็เหมือนกัน หมู่บ้านนั้นได้งบประมาณ แต่หมู่บ้านนี้ไม่ได้ หรืออย่างกรณีกลุ่ม เสื้อแดง ก็มีคนสั่งห้ามไม่ให้ออกมาชุมนุม ทำไมไม่ให้เขาออก เขารักประชาธิปไตย สังคมเป็นแบบนี้บ้านเมืองจะวุ่นวาย ตอนนี้นักลงทุนต่างประเทศไม่กล้าเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เพราะมี 2 มาตรฐานเกิดขึ้น นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ข่าวว่ามีการสั่งให้ทหารมา 6,000 นายให้เข้ามาตรวจ ห้ามคน เสื้อแดง เข้ามาชุมนุม ทั้งที่เป็นแค่พนักงานผู้ช่วยเท่านั้น ไม่ทราบว่านายกฯสั่งหรือไม่ ซึ่งถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่าประชาชนสามารรถชุมนุมกันได้อย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ตำรวจ 1,000 กว่านาย ไปดูแลและอารักขากลุ่มพันธมิตรฯที่จังหวัดชัยภูมิ ตนไม่เคยเห็น แบบนี้เขาเรียกว่า 2 มาตรฐานหรือไม่ หรือแม้แต่การปาไข่มาตรฐานก็ไม่เหมือนกัน อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกปาไข่ที่ภาคเหนือยังไม่ว่าอะไร แต่นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯโดนครั้งเดียวสั่งดำเนินคดี ตนก็นั่งปลงสังเวช และประชาชนส่วนใหญ่ก็สงสัยว่า เหตุใดคนปิดสนามบินสุวรรณภูมิกลับไม่มีการดำเนินการอะไร จึงขอถามว่า นาย อภิสิทธิ์ มาเป็นนายกฯ 3 เดือนเคยดำเนินการ 2 มาตรฐานหรือไม่ แล้วจะจัดการอย่างไร นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ชี้แจงว่า ไม่มีเรื่อง 2 มาตรฐานแน่นอนในรัฐบาลนี้ ตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานจุดยืนชัด ว่าการเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญทำได้ และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลและควบคุมเท่านั้น ส่วนที่บอกว่ามีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาการณ์ให้กับบางกลุ่มหรือไม่นั้น คือบางกลุ่มประกาศชัดว่าไม่ยอมให้อีกกลุ่มหนึ่งมีการชุมนุม และจะไปล้อม ซึ่งก็เป็นการเสี่ยงว่าจะเกิดการปะทะ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป เพื่อดูแลไม่ให้เกิดการปะทะ ด้านนาย สุเทพ ชี้แจงว่า ยืนยันว่ารัฐบาลนี้มีมาตรฐานเดียวไม่เคยทำอะไร 2 มาตรฐานและรักษามาตรฐานนี้อย่างแข็งแรงต่อไป ที่บอกว่ากระบวนการยุติธรรม พรรคนั้นโดนพรรคนี้ไม่โดนนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อยู่ที่พรรคหนึ่งผิดอีกพรรคหนึ่งไม่ผิด เพราะไม่ได้ทำ ส่วนเรื่องปาไข่ลงโทษถึงจำคุก แต่นายชวนไม่เอาเรื่อง แต่ของตนดำเนินคดีทันทีนั้น ทั้งทีความจริงตนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทุกคดี โดยการชุมนุมต้องทำโดยสงบหากทำผิดต้องให้ตำรวจดำเนินคดี ส่วนกรณีเอาคนมาปาไข่และระเบิดปิงปองไปดำเนินคดีนั้น ก็ขอให้ไปพิสูจน์กันในศาล ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่เป็นไปอย่างที่บอกว่ามี 2 มาตรฐาน รองนายกฯชี้แจงต่อว่า ส่วนที่บอกทำอย่างนี้นักลงทุนหนีหมดไม่ใช่รัฐบาลนี้ แต่ท่านกำลังว่ารัฐบาลของท่านเอง ส่วนที่บอกนายกฯให้ออกมา 6 พันนายนั้นเรื่องนี้ไม่จริง นายกฯไม่ได้สั่งการให้ทหารออกมาแก้ไขปัญหาแต่อย่างไร แต่ทหารมาตามคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากเห็นว่าเกินกว่ากำลังก็จะขอทหารมาช่วย จำไม่ได้หรือว่าสมัยรัฐบาลท่านก็ได้ขอให้ทหารออกมา ส่วนที่บอกว่ามีคนไปสั่งการให้ไปดูแลพันธมิตรฯตนว่าท่านพูดไม่จริง ตนสั่งให้ไปดูแล เพื่อไม่ให้ปะทะกันฆ่ากัน ไม่ใช่นิ่งดูดายเหมือนบางยุคบางสมัย ส่วนที่บอกว่ายังอยู่เฉยแม้มีคนปิดสนามบินสุวรรณภูมินั้นไม่ใช่ คดีเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ไม่ได้ละเว้น ทั้งเสื้อเหลืองและ เสื้อแดง แต่จะช้าหรือเร็วอยู่ที่แต่ละกรณีทีเกิดขึ้น จึงไม่มีเรื่อง 2 มาตรฐานหรือเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด นายประสิทธิ์ ถามอีกว่า รัฐบาลชุดนี้ประชาสัมพันธ์เก่งแต่ว่าไม่ใช้สมอง นายกฯพูดอยู่คนเดียว ก็ขอให้ระวังพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะงูเห่ายังมี 2 ประเภท ก็ขอให้ระวังเพราะพวกตนโดนมาจนคอเหลืองแล้ว การเมืองไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร ตั้งรัฐบาลสลับไปสลับมา แต่วันนี้เลือกข้างชัดเจน ซึ่ง 2 มาตรฐานที่ทำทำให้บ้านเมืองนิ่งไม่ได้เลย จึงอยากถามว่าตอนนี้ท่านเลือกข้างเป็นพวกเดียวกับพันธมิตรฯหรือไม่ และการแก้ปัญหาเรื่องนี้ หากพวกตนคิดว่าสถาบันพระปกเกล้ามีปัญหา แล้วจะให้มาแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร นายกฯ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีมาตรฐานเดียวในการทำงานและยึดถือมาตลอด ไม่อยู่ข้างใครหรือทำตัวอยู่ข้างใครแต่ทำงานเพื่อประชาชนทุกคน ในส่วนปฏิรูปการเมืองและสมานฉันท์ ตนไม่ได้กำหนดว่าสถาบันพระปกเกล้าเป็นเจ้าภาพ แต่ตนได้หารือประธานวิปฝ่ายค้านบอกว่ามีหน่วยงานไหนที่จะดำเนินการเรื่องนี้ แล้วก็ได้เลือกสถาบันพระปกเกล้าตามที่ได้หารือกันในขณะที่มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯเป็นประธานในการประชุม ซึ่งข้อได้เปรียบคือสถาบันพระปกเกล้าอยู่ในส่วนนิติบัญญัติ หากใช้สถาบันอื่นอาจอยู่ในฝ่ายบริหาร แต่อย่างไรก็ตามตนพร้อมหารือ แม้วันนี้จะหารือไม่ได้ แต่หากแนวทางนี้เป็นไปไมได้ ตนก็พร้อมแสวงหาแนวทางต่อไป หากไม่เปิดใจกว้างก็ติดอยู่ตรงนี้ แล้วก็หาว่าถ่วงเวลากัน ทั้งหมดย้ำว่ารัฐบาลนี้มีมาตรฐานเดียว รักษากฎหมาย ซึ่งการกระทำทุกเรื่องต้องมีมาตรฐาน นาย สุเทพ ชี้แจงต่อว่าตนไม่ได้ทำให้บ้านเมืองแตกแยก วันนี้ประชาชนตั้งคำถามใครกันแน่ทำบ้านเมืองแตกแยก กระทบทุกสถาบัน ทำไมไม่ดูตัวเองกันบ้างและเราทำทุกอย่างให้คนไทยรู้ความจริงและทำให้เกิดความสงบสุข ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจบกระทู้ นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทยได้ลุกขึ้นประท้วงว่า นายกฯระบุว่าฝ่ายค้านใจแคบไม่เปิดใจกว้าง นายกฯคิดเองก็เลยใช้สถาบันพระปกเกล้าในการปฏิรูปการเมือง จึงขอให้นายฯถอนคำพูด อย่างไรก็ตามนายกฯได้ชี้แจงอีกครั้งว่า สุดท้ายแล้วสภาฯต้องเป็นผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาฯแม้จะให้สถาบันใดมาปฏิรูปการเมืองก็ไม่มีอำนาจ เพียงแต่ให้ศึกษาเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง งูเห่าพท.โหวตสวนห้อยดูด19เสียง ทักษิณโฟนอินสอนอภิสิทธิ์อัด2.5แสนล้านลงระบบแก้ศก. อภิสิทธิ์ยันมีอำนาจเต็มปรับครม.2วันชี้ชะตาวิฑูรย์-บุญจง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook