เสื้อแดงแบเงื่อนไขแลกเลิกชุมนุม ให้จัดประชุมปรองดองแห่งชาติทุกฝ่าย บีบจนยุบสภาหรือ มาร์คลาออก
เสื้อแดงประกาศเป้าบีบ ยุบสภา
มวลชนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุมขับไล่รัฐบาลโดยรอบทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงเช้าวันที่ 27 มีนาคม วันที่สองของการชุมนุม มีผู้เข้าร่วมค่อนข้างบางตา และค่อยๆ คึกคักขึ้นในช่วงสาย ทั้งนี้ เวลา 08.10 น. ตำรวจปราบจลาจลเตรียมสับเปลี่ยนกำลังแต่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ขัดขวาง ไม่ให้ชุดใหม่เข้าไปในทำเนียบ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นเงื่อนไขว่า ตำรวจที่ประจำการอยู่ภายในทำเนียบ ต้องเดินเท้าออกมาเท่ากับจำนวนตำรวจที่จะเข้าสับเปลี่ยนกำลังแทน ตำรวจยอมรับเงื่อนไข จึงสับเปลี่ยนกำลังกันได้
ต่อมานายณัฐวุฒิแถลงว่า แกนนำหารือกันได้ข้อสรุปว่าในวันนี้กลุ่มเสื้อแดงจะรักษาพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาล ป้องกันไม่ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเดินทางเข้าทำเนียบ เราได้ยกระดับมาเป็นการขับไล่รัฐบาล ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีและ ครม.ยังดื้อดึงที่จะเดินทางเข้ามาในทำเนียบรัฐบาล เราก็พร้อมไปดักเพื่อขับไล่ทุกประตูเข้า-ออก นายณัฐวุฒิกล่าว พร้อมกับยืนยันว่าเป้าหมายการชุมนุมครั้งนี้ คือต้องการให้ยุบสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสื้อสีน้ำเงิน ที่มีข้อความว่าปกป้องสถาบันนั้น เป็นเสื้อของกระทรวงมหาดไทยที่สั่งทำขึ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เข้าร่วมงานปกป้องสถาบันในแต่ละจังหวัดที่นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่
ตร.คุยเอาอยู่หากบุกบ้าน เปรม
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ได้เรียกประชุมศูนย์ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ (วอร์รูม) การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ตึก 44 ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 07.00 น. เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกับ พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบช. ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ก่อนที่ พล.ต.ท.วรพงษ์จะเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อเรียกประชุม ผบก.น.1-9 ต่อ โดยเดินเท้าฝ่ากลุ่มคนเสื้อแดงจากตึก 44 ไปยังถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม แล้วขึ้นรถที่จอดรอรับอยู่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งตลอดเส้นทางไม่มีเสียงโห่ฮาจากกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.วิชัยเจรจากับนายณัฐวุฒิ เพื่อขอเปิดเส้นทางไว้ก่อนแล้ว
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ตำรวจมีประสบ การณ์ในการรับมือแผนดาวกระจายตั้งแต่สมัยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) แล้ว ดังนั้น คงทราบดีว่าผู้ชุมนุมจะดาวกระจายไปที่ไหนอย่างไรและสามารถเตรียมการรับมือได้หมด โดยเฉพาะกรณีมีข่าวว่าอาจมีการดาวกระจายไปปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานอมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งได้เตรียมการไว้หมด แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด อย่างเมื่อคืนวันที่ 26 มีนาคม ก็มีการตั้งจุดตรวจทั่วพื้นที่ กทม.
อภิสิทธิ์ ชี้ไม่มีอะไรน่าห่วง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้ทราบระหว่างหารือในช่วงเช้าว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ส่วนการปิดล้อมทำเนียบไม่ให้เข้าทำงานนั้น ขอตรวจสอบก่อนว่ามีปัญหาและอุปสรรคอะไรหรือไม่ โดยในช่วงนี้ตนไม่มีกำหนดที่จะเข้าไปปฏิบัติงานภายในทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ารัฐบาลไม่สามารถเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้จะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกเหมือนการปิดล้อมทำเนียบครั้งที่แล้วหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้ยังไม่มีปัญหาอะไร นายสุเทพก็บอกไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า แกนนำกลุ่ม นปช.จะเคลื่อนกำลังไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะต้องดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งในคราวที่ นปช.ไปที่บ้านสี่เสาฯเมื่อปี 2549 ก็มีการดำเนินคดีไปแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการปลุกระดมแบ่งแยกชนชั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สังคมไทยไม่มีชนชั้น มีแต่พี่น้องประชาชนที่ยากดีมีจนก็สนับสนุนทั้งสองฝ่าย ฉะนั้นปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องชนชั้นแน่นอน แต่เป็นเรื่องของมุมมองที่อาจจะแตกต่างกันเกี่ยวกับปัญหาการเมือง เพราะการรับข้อมูลกันคนละชุด ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าไม่เป็นธรรม รัฐบาลจึงพยายามแก้ไข
พร้อมคุยหาทางออกข้อเรียกร้อง
ส่วนเรื่องที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเตรียมแฉ ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ใครพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบ และสังคมต้องตรวจสอบได้ ถ้ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีองคมนตรีก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะเกี่ยวโยงไปถึงสถาบันหรือไม่ก็ต้องดูข้อเท็จจริง ซึ่งไม่สามารถไปพูดโดยรวมได้ เพราะความเหมาะสมกับกฎหมายเป็นคนละเรื่อง แต่สังคมก็คงมีวิจารณญาณ
ทั้งหมดต้องเป็นการใช้สิทธิที่อยู่ในกรอบกฎหมาย แต่อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการกันไป สำหรับรัฐบาลมีหน้าที่ทำงาน ซึ่งช่วงนี้ก็ต้องไม่ให้งานของรัฐบาลสะดุด ผมได้กำชับทุกคนที่ปฏิบัติงานต้องทำงานตามปกติ ข้าราชการมีหน้าที่ทำงาน ไม่มีเสียงานเสียการ ประชาชนก็มีปัญหา เราต้องเดินหน้าทำงานให้มากที่สุด การออกหรือไม่ออกจากตำแหน่งของผมเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งมีระบบของมันอยู่แล้ว แต่ขณะนี้ทุกอย่างกำลังเดินหน้า นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า การจะตัดสินใจออกจากตำแหน่งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ในการรักษาบรรยากาศและรักษากฎหมายไปพร้อมๆ กัน ในที่สุดการเคลื่อนไหวอะไรต้องอยู่ภายใต้กระแสสังคม ซึ่งตนยินดีที่พูดคุยตลอดเวลา และให้ความสนใจและพยายามหาทางออกให้ในข้อเรียกร้องต่างๆ
พัลลภกล่าวหาสุรยุทธ์ร่วมโค่นแม้ว
พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดบ้านพักโชคชัย 4 ซอยลาดพร้าว 51 ให้สัมภาษณ์กล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี อยู่เบื้องหลังการโค่นล้ม พ.ต.ท. ทักษิณ โดยกล่าวกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินพาดพิง พล.อ.สุรยุทธ์ในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องจริง แต่ว่าเขาไม่เคยเชิญผมเข้าร่วมประชุม แต่เจ้าของบ้านที่สุขุมวิทเชิญผมและประชุมร่วมกัน ซึ่งประชุมกัน 3-4 ครั้ง มีการพูดคุยว่าจะให้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณล้มอย่างไร โดยมี 2 แนวทาง คือ ด้านรัฐธรรมนูญ หรือด้านกฎหมาย ถ้าแนวทางแรกไม่สำเร็จก็จะทำรัฐประหาร
ที่ประชุม พล.อ.สุรยุทธ์เป็นคนเสนอเองว่าการทำงานครั้งนี้ เราทำเพื่อประเทศชาติ ทุกคนต้องไม่หวังตำแหน่งลาภยศใดๆ แต่หลังจากปฏิวัติ พล.อ.สุรยุทธ์ก็ไปเป็นนายกฯ ทำให้พวกเราผิดหวังมาก พูดง่ายๆ พล.อ.สุรยุทธ์ เสียสัจจะ ผมอยากฝากไปถึง พล.อ.สุรยุทธ์ ว่าเพื่อรักษาสถาบันอันมีเกียรติแห่งนี้ ท่านควรจะลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี เพราะองคมนตรีต้องไม่ยุ่งกับการเมือง แต่ท่านเป็นคนที่เข้ามายุ่งกับการเมือง พล.อ.พัลลภกล่าว
เสื้อแดงท้าใช้พ.ร.ก.สลายชุมนุม
สำหรับการชุมนุมช่วงบ่ายจนถึงเย็น กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ ทยอยเข้าสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบ ขณะที่บนเวที แกนนำ นปช.สลับกันขึ้นปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและองคมนตรี พร้อมประกาศเชิญชวนให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าร่วมรับฟัง พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินผ่านวิดีโอลิงก์แฉผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ และบุคคลในกองทัพที่มีส่วนเชื่อมโยงล้มล้างประชาธิปไตยในเวลา 20.00 น.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังร่วมกันแถลงด้วยว่า ทราบข่าวมาว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ใช้บ้านพักของผู้บัญชาการทหารบก เป็นวอร์รูมประเมินสถานการณ์การชุมนุม อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลจะสลายการชุมนุมหรือประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินก็เชิญตามสบาย แต่จะต้องตอบคำถามกับประชาชนให้ได้ด้วยว่ามีการปฏิบัติสองมาตรฐานระหว่างกลุ่ม นปช.และกลุ่มพันธมิตรหรือไม่
เป้าหมายการชุมนุมชัดเจนแล้วว่าจะชุมนุมยืดเยื้อจนกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะลาออก หรือประกาศยุบสภา จะไม่ใช่การชุมนุมแค่ 3 วันหรือ 7 วัน อย่างที่ผ่านมาแน่นอน เพราะครั้งที่แล้วกลุ่ม นปช. ยุติการชุมนุมเพราะประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียนซัมมิท นายจตุพรกล่าว
