สุรยุทธ์ โต้ แม้ว ปัดเอี่ยวรัฐประหาร! แจงพบตุลาการฟังความเห็น

พล.อ.สุรยุทธ์ แถลงโต้"ทักษิณ" ปฏิเสธไม่ได้มีเอี่ยวรัฐประหาร แจงไม่อยู่ในฐานะวางแผน พบตุลาการรับฟังความคิดเห็น ถ้าจะทำคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพดีกว่า อัดกลับหลายสิ่งที่พูดไม่อยู่บนความจริง ข้อมูคลาดเคลื่อน ไม่คิดฟ้องร้อง อยากให้ทุกคนได้รับรู้ความจริง

"สุรยุทธ์"แถลงโต้"แม้ว" พบปะแค่หวังฟังความเห็นตุลาการ

ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ว่า ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะวางแผนการทำรัฐประหาร ถ้าจำไม่ผิด การพบปะครั้งนั้น ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2549 โดยที่นายปีย์ มาลากุล ณ อยุธยา เชิญไปพบ ก็ไม่ได้มีการเตรียมการมากมาย เพราะในช่วงนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งทั่วไป

"ผมอยากเรียนว่า ในฐานะที่ผมเองต้องติดตามข่าว ก็จำเป็นต้องพบปะพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง หากท่านติดตามสถานการณ์ จะเห็นว่าขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่อาจจะเรียกว่า เป็นเรื่องของตุลาการในการเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ในวันนั้นผมก็มีความตั้งใจเพียงฟังข้อคิดเห้น จากฝ่ายตุลาการระดับสูงเท่านั้น" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตุลาการที่ผมรู้จักเพียงท่านเดียว คือ นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุดเท่านั้น ถือเป็นโอกาสได้ฟังความคิดเห็น การพูดคุยก็มีการเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ไม่ได้มีการกระทำใดๆ หากมีการพูดเรื่องการทำรัฐประหารกับผู้พิพากษาหรือตุลาการ คงไม่สมเหตุผลเลย ถ้าพูดกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ คงเป็นเหตุผลกว่า นอกจากนี้ ตนรู้จักนายปีย์มานานพอสมควร นายปีย์ก็อยู่ในฐานะที่เป็นสื่อ จึงยืนยันได้ว่า หากอยากได้ข้อมูล ก็สามารถสอบถามจากนายปรีย์ได้

"ผมขอเรียนว่าได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอน ทั้งการเคลื่อนย้ายกำลังในการฝึกบริเวณชายแดน ก็เป็นการดำเนินการ ที่กองทัพบกได้ทำเรื่องอนุมัติจาก พล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในขณะนั้น และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน ปี 2545 เราได้คำสั่งอนุมัติหลักการในการดำเนินการฝึกได้ แต่เป็นคำสั่งในชั้นความลับ จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้"

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากนั้น เมื่อรัฐบาลเห็นว่า ไม่มีความเหมาะสม ก็ได้ถอนกำลังกลับประมาณวันที่ 20 พฤษภาคมปีเดียวกัน การที่มีคำพูดที่อ้างว่า มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น ตนคิดว่าไม่เกี่ยวกับกำลังฝ่ายไทย บริเวณชายแดนมีกำลังของคนกลุ่มน้อยอยู่ด้วย กองทัพบกไม่เกี่ยวข้อง ผลการสอบสวนก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ไม่ใช่เรื่องที่กองทัพดำเนินการ

"ผมขอเรียนว่า หลายสิ่งที่ออกมาพูดไม่ได้อยู่บนความเป็นจริง อยู่บนข้อมูลคลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความคิดที่กระทบกับผมเอง" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าตนไปพบ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โทรศัพท์มาขอให้ไปช่วยพูดด้วย เพราะโอกาสที่กกต.ทั้งหมด จะถูกฟ้องศาลมีมากและโอกาสที่จะพลาดมีสูง ก็ได้พูดคุยกัน จนกระทั่งพล.อ.จารุภัทร ได้มาขอบคุณตน ถ้าไม่ฟัง ก็คงถูกศาลตัดสินลงโทษไปแล้ว ที่ตนให้ข้อคิดเห็นไป ก็ขึ้นกับ พล.อ.จารุภัทร เพราะตนเป็นผู้ที่ให้ข้อคิดเห็นเท่านั้นไม่ใช่คนที่จะไปสั่งใครทำสิ่งใดได้

"ตนเคารพในความคิดเห็นคนอื่น แต่ขณะเดียวกัน ข้อคิดเห็นของตน ข้อมูลที่เรียนสื่อมวลชน เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ตนเสนอข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งเพื่อตรวจสอบการตัดสินใจ ควรจะเชื่อในสิ่งที่ตนพูด หรือเชื่อในข่าวที่ออกมา" พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนจะไม่ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ เพียงแต่ต้องการให้ทุกท่านได้ทราบความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยข้อสรุปที่ได้หารือในวันนั้น ตนไม่ได้โมโห เพราะเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ประสบปัญหาอะไร เพียงแต่ต้องการให้ประชาชนรับทราบ อย่าฟังเพียงด้านเดียว แล้วพิจารณาว่าสิ่งใดมีเหตุผลมากน้อยเพียงใด

"เนวิน"เมินวิจารณ์"แม้ว" ภูมิใจไทยจวกท่าทีสับสน

นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าววันนี้ (28 มี.ค.) ถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยผ่านวิดิโอลิงค์ถึงผู้ชุมนุมเสื้อแดงว่า ต้องมองถึงท่าทีของพ.ต.ท.ทักษิณที่ดูจะมีความสับสน โดยมีการพูดเหมือนประกาศสงคราม แต่ตอนจบกลับมีลักษณะเหมือนการฮั้ว คือขอเจรจา อย่างไรก็ตาม ดูจากท่าทางพ.ต.ท.ทักษิณเอง ก็ไม่ได้ลำบากอะไร ดังนั้นการที่เรียกร้องให้คนออกมาชุมนุมต่อสู้เพื่อตัวท่านเองนั้น ประชาชนต้องพิจารณาว่า เป้าหมายที่แท้จริงของพ.ต.ท.ทักษิณ คือต้องการต่อรองเพื่อผล ประโยชน์ของตัวเองเป็นหลัก เพราะเหตุใดจึงมีการชุมนุมในช่วงเวลาที่พิจารณาคดียึดทรัพย์ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำเพื่อต่อรองในเรื่องนี้ หรือเหตุใดมีการกำหนดห้วงเวลาพ.ร.บ.ปรองดองถึงวันที่ 5 พ.ค.

นายศุภชัย กล่าวว่า สำหรับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะนายเนวินไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ

โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในพรรคมีการพูดคุยกรณีที่มีการพาดพิงถึงนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ระบุว่านำนักฮั้วมาเป็นหัวหน้าพรรค โดยเข้าใจว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่พอใจกรณีที่สั่งให้นายชวัตน์ทำบางอย่าง แต่นายชวรัตน์ไม่ทำ ซึ่งนายชวรัตน์ไม่ถือสา แต่ระบุว่าไม่ควรพูดถึงเรื่องนี้ เพราะเวลานี้นายชวรัตน์ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว อยากจะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าพูดพาดพิงให้เสียหาย

นายศุภชัย กล่าวว่า การกล่าวใส่ร้ายบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งองคมนตรี ซึ่งทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท อาจมีผลระคายเคืองเบื้องสูงแน่นอน เป็นการพูดเกินสมควร และไม่น่าสบายใจ

"พล.อ.วัฒนชัย"ยัน"สุรยุทธ์"ไม่แค้น"แม้ว" เด้งพ้นผบ.ทบ.

พล.อ.วัฒนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.1 ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์เจ็บแค้นเพราะถูกปรับย้ายออกจากตำแหน่งผบ.ทบ. จึงวางแผนปฏิวัติว่า สถานการณ์19 ก.ย.49 กับเหตุการณ์เมื่อสมัยปี 2545 เป็นคนละเรื่องกัน และการปฏิวัติก็ไม่ใช่ทำกันง่ายๆ

เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ว่าพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นผู้วางแผนการปฏิวัติ พล.อ.วัฒนชัย กล่าวว่า ถ้าพล.อ. สุรยุทธ์จะทำ คงทำตั้งแต่สมัยที่เป็น ผบ.ทบ. อย่างไรก็ตาม พล.อ.สุรยุทธ์อาจอยากให้ปัญหาจบ จึงคุยกับใครหลายๆ กลุ่ม สถานการณ์ตอนนั้น การปฏิวัติเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการคลี่คลายสถานการณ์เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ แต่เรื่องจบไปแล้วตั้งปีกว่า ดังนั้น การพูดว่ามาแก้แค้น ถือเป็นคนละเรื่องกัน อย่างนี้เขาเรียกว่า "ตีวัวกระทบคราด"

เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องการสื่อถึงใคร พล.อ.วัฒนชัย กล่าวว่า รู้กันอยู่ ตั้งแต่สมัยพ.ต.ท.ทักษิณเป็นรัฐบาลปีแรก เห็นได้ชัดว่า มีความกระหยิ่มยิ้มย่องและผยอง ซึ่งความต้องการความเป็นใหญ่ของคนมีความทะเยอทะยาน การเป็นใหญ่ในระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยยังเล็กไป จะต้องให้ใหญ่กว่านั้น พ.ต.ท.ทักษิณต้องการคุมอำนาจเป็นผู้นำตลอดกาล และที่ผ่านมาก็ได้ทำการรวบรวมแกนนำที่มีมวลชนทั้งนั้น

พล.อ.วัฒนชัย กล่าวถึงกรณี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) ออกมาเปิดเผยว่า พล.อ.สุรยุทธ์อยู่เบื้องหลังการปฏิวัติ จะทำให้เกิดสงครามระหว่าง รุ่นจปร.หรือไม่ ว่า ต่างคนต่างทำงาน พวกใครพวกมัน แต่ทุกคนรักบ้านเมือง

เมื่อถามว่า ท้ายที่สุด คนที่รักทักษิณกับคนที่ไม่เอาทักษิณ ใครจะเป็นผู้ชนะ พล.อ.วัฒนชัย กล่าวว่า แพ้ทั้งคู่ เป็นเรื่องธรรมดาที่คนทะเลาะกันต้องให้มีเลือดตกอย่างออกก่อนจึงจะพูดกันได้ เพราะถ้าไม่เจ็บคงไม่มีเรื่องพูดกัน

"สมเจตน์"จวก"ทักษิณ"โฟนอิน ถือเป็นการบำบัดทางจิต

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เคยฟัง แต่มองว่าการโฟนอินเป็นการสร้างพื้นที่ข่าวและสร้างประเด็นให้ประชาชนติดตามอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการบำบัดทางจิตประเภทหนึ่ง และเป็นการสร้างงานให้กลุ่มบุคคล เพราะเมื่อพ.ต.ท.ทักษิณอยากพูดเมื่อไร พวกนี้จะจัดเวทีให้พูด ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลของพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ระบุว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี มีส่วนการปฏิวัติรัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย.49 นั้น ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ จึงไม่สามารถยืนยันได้

ปชป. ชี้"แม้ว"พาดพิงสถาบันทำลายความเชื่อถือปชช.

นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กล่าวพาดพิงถึงบุคคลสำคัญของสถาบันองคมนตรี สถาบันศาลยุติธรรม และสถาบันตุลาการ ว่า เป็นการกล่าวในทำนองที่สร้างความแตกแยกให้กับบ้านเมือง ทำลายความน่าเชื่อถือของประชาชน ที่มีต่อสถาบันที่สำคัญของประเทศ ปลุกระดมให้ประชาชนสร้างความรุนแรง กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่ตนเองเชื่อว่า ประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณในการรับฟัง รวมถึงแยกแยะได้ว่า เรื่องใดเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง

"บุญยอด"นำ"กระจก-น้ำยาบ้วนปาก"มาฝาก"แม้ว"ผ่านสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกระจกและน้ำยาบ้วนปาก มามอบให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณนำกระจกไปส่องดูตัวเองว่า ในช่วง 5 - 6 ปีที่ผ่านมา เคยทำสิ่งใดเพื่อสังคมไทยบ้าง และการพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านเวทีเสื้อแดง เป็นการพูดไร้สาระ ขณะเดียวกัน ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เป็นมาตรฐานในการกระทำผิด เพราะพ.ต.ท.ทักษิณถือเป็นนักโทษหนีคดี

นายบุญยอด กล่าวต่อว่า เชื่อว่าหลังจากนี้ การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากทราบข่าวว่า มีการขนย้ายวัตถุระเบิดของคนในกรมป่าไม้เพื่อนำมาสร้างสถานการณ์การชุมนุม

เผย"เนวิน"รับไม่ได้พาดพิง"ป๋าเปรม" จวกทำรุนแรงเกินไป

นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ภายหลังจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน รวมทั้งนายเนวิน ชิดชอบ ที่ติดตามสถานการณ์ ถึงกับออกปากว่ารับไม่ได้และคิดว่าการกระทำของพ.ต.ท.ทักษิณแรงเกินไป เพราะไม่ควรนำผู้ใหญ่และสถาบันองคมนตรีมาเกี่ยวข้อง นายเนวินเองยังบอกกับส.ส.ในกลุ่มว่า รับไม่ได้ที่เป็นอย่างนี้ และคงไม่ไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน

นายปัญญา กล่าวต่อว่า การออกมาพูดถึงองคมนตรีครั้งนี้ ถือเป็นการทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ซึ่งอาจเป็นผลเสียกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจกลับประเทศไม่ได้และอาจทำให้สังคมเกิดความแตกแยกมากกว่านี้ โดยเชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีผลต่อการชุมนมของเสื้อแดงที่คนจะมาร่วมชุมนุมน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะเห็นชัดว่า เป้าหมายพฤติกรรมพ.ต.ท.ทักษิณต้องการทำลายบ้านเมืองทุกวิถีทาง แม้กระทั่งดึงสถาบันองคมนตรีมาเล่นการเมืองในเวทีของม็อบ