สดศรีลั่นกกต.ไม่ยอมโดนฟ้องฝ่ายเดียว กรณีเรืองไกร

สดศรีลั่นกกต.ไม่ยอมโดนฟ้องฝ่ายเดียว กรณีเรืองไกร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีศาลฎีกายกคำร้อง กกต. กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ว่า หากมีการฟ้องร้องกลับ คงให้ฟ้องร้องกกต.ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะขณะนี้ กกต.ทำเรื่องของบประมาณปี 2553 ไปยังรัฐบาล เพื่อตั้งหน่วยงานขึ้นมาทำหน้าที่แทนกกต.ในการขึ้นศาล

กกต.ต้องฟ้องกลับ ไม่เช่นนั้นจะมีกกต.ไว้ทำไม หากไม่เช่นนั้น ก็ไม่ควรมีกกต.ให้กลับไปอยู่กระทรวงมหาดไทยตามเดิมดีกว่า แต่ถ้าเห็นว่าการวินิจฉัยคดีหรือสำนวนต่างๆ ไม่เป็นที่ต้องการของนักการเมือง พรรคการเมืองหรือรัฐบาลก็ต้องแก้กฎหมายเสีย โดยแก้รัฐธรรมนูญปัจจุบัน เพื่อเอาอำนาจการพิจารณาสืบสวนสอบสวนทั้งหมดไปให้ศาล กกต.จะยินดีจัดการเลือกตั้งเท่านั้น เคยเสนอเมื่อครั้งที่เป็นส.ส.ร. ก็บอกให้เรื่องร้องเรียนไปอยู่ที่ศาลทั้งหมด ด้วยการให้มีศาลเลือกตั้ง แต่ก็ไม่ผ่านมติของที่ประชุมกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นางสดศรี กล่าว

นางสดศรี กล่าวถึงกรณีที่ประธานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องกลับมาให้กกต.ตรวจสอบ กรณีนายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี ขาดคุณสมบัติการเป็นส.ว.เพราะพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถึง 5 ปีว่า ขณะนี้ผลการสอบของอนุกรรมการเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ได้ภายในสัปดาห์นี้ กรณีนี้เป็นการทบทวนมติกกต.ตามที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องมายังกกต. ซึ่งกกต.ก็ทบทวนให้แล้ว หากกกต.มีมติยืนตามเดิม แล้วหากนายสุรเดชจะฟ้องร้องต่อศาล เพื่อเล่นงานกกต. ก็ฟ้องได้ กกต.คงเตรียมเป็นนักโทษและเป็นจำเลยอยู่แล้ว

ถ้าประธานวุฒิสภาจะไม่ส่งคำร้องตามที่กกต.ได้มติยืนตามนั้น ก็เป็นเรื่องของประธานวุฒิสภา เพราะถ้าจะทบทวนอีกก็เป็นสิทธิของประธานวุฒิสภา และกกต.มีหน้าที่ส่งเรื่องไปวุฒิสภาเท่านั้น ส่วนวุฒิสภาจะเก็บเรื่องไม่ส่งศาลก็เป็นสิทธิและอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภา นางสดศรี กล่าว

เมื่อถามว่า หากประธานวุฒิสภามองว่า การส่งเรื่องของกกต.กรณีนี้เป็นการขัดต่อกฎหมายหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า คงต้องไปดูตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา ถ้าทุกคนไม่ทำก็ถูกดำเนินการฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ กกต.เพียงทำเรื่องส่งให้วุฒิสภาเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook