อินโดนีเซียเขื่อนแตกดับกว่าครึ่งร้อย

เกิดเหตุเขื่อนแตกใกล้กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซียเมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ เนื่องมาจากฝนตกหนัก ทำให้มีน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 50 ราย

นายดานัง ซูซานโต เจ้าหน้าที่ศูนย์วิกฤติของกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เหตุการณ์เขื่อนแตกเมื่อคืนวันพฤหัสบดี นอกจากทำให้มีคนจมน้ำตายไม่น้อยกว่า 52 ศพแล้ว ยังมีคนหายอีกหลายสิบราย เพราะช่วงเวลาที่เขื่อนแตก ผู้คนกำลังนอนหลับอย่างสบาย โดยไม่รู้ว่า ภัยกำลังมาถึง ทำให้พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะหลีกหนีกำแพงน้ำที่ถาโถมเข้าใส่บ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำได้ทัน ซึ่งชาวบ้านเปยบเป็นคลื่นยักษ์สึนามิ

ทั้งนี้ บ้านเรือนและอาคารที่สร้างด้วยคอนกรีต ถูกกระแสน้ำพัดจนพังทลาย ทำให้ผู้รอดชีวิตจำนวนมากในเมืองซิเรอุนดิว ชานกรุงจาการ์ตา ต้องติดอยู่บนหลังคาเพื่อรอการช่วย เหลือ ซึ่งนายซูซานโต ประเมินว่า บ้านเรือนราว 500 หลังไม่ถูกทำลายก็จมบาดาล หลังจากเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เขื่อนดินที่ริมทะเล สาบซิตู กินตุง แตกไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และในบางพื้นที่ระดับน้ำสูง 6 เมตร

ด้าน นายรัสตัม ปากายา หัวหน้าศูนย์วิกฤติฯ บอกว่า ทางการได้เร่งอพยพประชาชน และประมาณครึ่งหนึ่งยังติดค้างอยู่บนหลังคา ขณะที่ห้องโถงของมหาวิทยาลัยใกล้เคียงได้แปรสภาพกลายเป็นที่เก็บศพู้เสียชีวิตชั่วคราว ส่วนนายกูฟรอน นักเรียนวัย 17 ปี กล่าวว่า เขาหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ลุงตายและญาติอีก 3 คนสูญหาย

โทรทัศน์ท้องถิ่นในอินโดนีเซียแพร่ภาพศพลอยเกลื่อนถนนที่จมน้ำ ซึ่งนายไมนู ชาวบ้านรายหนึ่งเปรียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นสึนามิขนาดย่อมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดียูซุฟ คัลลา และนายอาบูริซัลบุครี รมว.สวัสดิการสงเคราะห์ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว เพื่อตรวจตราปฏิบัติการกู้ภัยและเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัย.