ขาเหล้า-ขี้เมาเฮมติไม่ห้าม

ขายช่วงสงกรานต์ มาตรการห้ามขายเหล้าสงกรานต์วืด ขาเหล้า-ขี้เมาเฮสาดน้ำเมาเข้าปากกันได้สนุกสุดเหวี่ยงเสธ.หนั่นนำทีมถกเครียดก่อนจะมีการลงมติ สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยห้ามจำหน่ายสุรา ระบุกระทบการท่องเที่ยวโดยตรง เตรียมใช้วิธีรณรงค์ตั้งด่านเพิ่มแก้ปัญหา ยันไม่มีใครได้รับผลประโยชน์แน่นอน เปรยปีนี้ให้ผ่านไปก่อน ยกเว้นวันสำคัญทางศาสนาห้ามขายเด็ดขาด

เกี่ยวกับการออกมาตรการห้ามจำหน่ายสุราช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งภาครัฐ ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เนื่องจากมีทั้งเสียงสนับสนุน และเสียงคัดค้าน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเกี่ยวกับความชัดเจนในเรื่องนี้ ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา วันที่ 30 มี.ค. พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เพื่อหารือถึงมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่ม แอล กอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยการหารือ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ระหว่างประชุม ตัวแทนเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ได้มาวางดอกไม้จันทน์แสดงความอาลัยที่มาตรการดังกล่าวไม่ได้รับการผลักดัน นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข แถลงว่า ที่ประชุมมีความเห็นค่อนข้างมากเกี่ยวกับผลกระทบกับมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ท้ายที่สุดงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการฯ ลงมติเห็นว่า ไม่ควรห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอล กอฮอล์ในช่วงดังกล่าว คือให้จำหน่ายได้ใน 2 ช่วงเวลาตามปกติเหมือนเดิม คือช่วงเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. แต่จะไปรณรงค์เรื่องการตั้งด่านตามหมู่บ้านเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีประมาณ 7,000-8,000 จุด ก็จะขยายเป็น 3-4 หมื่นจุด นอกจากนี้จะกำหนดสถานที่ห้ามดื่ม เช่น ท้ายรถกระบะ หรือท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ที่มีการขับขี่บนท้องถนน

ด้าน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สรุปสงกรานต์ ปีนี้ยังขายได้ตามปกติ ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนวันที่ 13 เม.ย. ยังไม่ได้ห้ามขาย แต่จะใช้วิธี การรณรงค์ไปก่อน โดยจะเชิญผู้ว่าฯ และผู้ที่ เกี่ยวข้องมาขอความร่วมมือการตั้งด่านให้มากขึ้น โดยมาตรการทั้งหมดคณะกรรมการฯ จะเสนอให้นายกฯลงนามในประกาศสำนักนายกฯ ต่อไป ทั้งนี้หากใช้การรณรงค์แล้วอุบัติเหตุไม่ลดลงคงต้องใช้มาตรการอื่นต่อไป เมื่อถามว่า เหตุผลที่ไม่ห้ามเพราะกระทบเรื่องการท่องเที่ยวใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นเรื่องหลัก ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ไปโรดโชว์มาแล้ว เป็นห่วงว่าจะกระทบเนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์คาดว่ามีประมาณ 8 หมื่นคน ดังนั้นเหตุผลหลักคือเรื่องท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ ควรไปเน้นเรื่องการตั้งด่านกวดขันมากกว่า ส่วนเรื่องโพลระบุว่าหากไม่้ามแสดงว่าต้องมีผลประโยชน์นั้น ประเด็นนี้ไม่มีใครมีผลประโยชน์แน่นอน

ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบห้ามจำหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา 4 วัน คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ส่วนสงกรานต์จะใช้วิธีการรณรงค์ไปก่อน อย่างไรก็ตามข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ท้ายที่สุดอำนาจอยู่ที่นายกฯ เพราะนายกฯ อาจจะไม่เห็นด้วย เนื่องจากสำนักนายกฯ ก็เคยถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในเรื่องนี้เช่นกันว่านายกฯ มีสิทธิไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการนโยบายฯ ได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าได้

มีรายงานข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายฯได้ขอมติที่ประชุมว่าเห็นด้วยกับการ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย มีเพียงนายมานิต และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม เท่านั้นที่เห็นว่าควรห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ในวันที่ 13 เม.ย. ส่วนปลั ดสำนักนายกฯ งดออกเสียง.