ร.ร.ดังกทม.พร้อมขยายจำนวนนร.ต่อห้องเพิ่มเป็น50คน กพฐ.เล็งร.ร.คู่พัฒนานำร่องเรียนฟรี 100%

ร.ร.ดังกทม.พร้อมขยายจำนวนนร.ต่อห้องเพิ่มเป็น50คน กพฐ.เล็งร.ร.คู่พัฒนานำร่องเรียนฟรี 100%

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
โรงเรียนดัง กทม.รับลูก สพฐ.ขยายจำนวนรับนักเรียนต่อห้องเพิ่มเป็น 50 คน เลขาธิการ กพฐ.แจงให้ กทม.คัด ร.ร.คู่พัฒนานำร่องเรียนฟรี 100% เตรียมประชุมหางบฯอุดหนุน ชี้หากได้ผลดี เตรียมคัดโรงเรียนในจังหวัดที่มี ร.ร.ยอดนิยมเพียงแห่งเดียวร่วมโครงการ

คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 เมษายน ถึงความคืบหน้าการรับนักเรียนชั้น ม.1 ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปีการศึกษา 2552 ว่า ขณะนี้ทราบข้อมูลว่าสำนักงานเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (สพท.กทม.) เขต 1, 2 และ 3 ยังมีโรงเรียนที่รองรับนักเรียนที่พลาดโอกาสจากการสอบคัดเลือก และการจับสลาก โดยมีจำนวนรับเพิ่ม ดังนี้ 1.สพท.กทม.เขต 1 โรงเรียนดังจะรับนักเรียนเพิ่มเป็น 50 คนต่อห้อง นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนทั่วไปที่รองรับนักเรียนได้อีกมาก เช่น โรงเรียนมัธยมวัดธาตุทอง โรงเรียนนนทรีวิทยา โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โรงเรียนพุทธจักรวิทยา โรงเรียนวัดน้อยนพคุณ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ โรงเรียนวัดราชาธิวาส

2.สพท.กทม.เขต 2 โรงเรียนดังจะเพิ่มการรับนักเรียนเป็น 50 คนต่อห้อง และยังมีโรงเรียนทั่วไปที่รองรับนักเรียนได้อีก เช่น โรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญ โรงเรียนดอนเมืองจาตุรนจินดา โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า โรงเรียนลาดปลาเค้าพิทยาคม และ 3.สพท.กทม.เขต 3 โรงเรียนดังจะเพิ่มการรับนักเรียนเป็น 50 คนต่อห้อง และยังมีโรงเรียนทั่วไปรองรับนักเรียนได้อีกมาก เช่น โรงเรียนทวีธาภิเษก โรงเรียนทวีวัฒนา โรงเรียนมัธยมวัดดาวคนอง โรงเรียนวัดน้อยใน โรงเรียนวัดบวรมงคล โรงเรียนวัดประดู่ในทรงธรรม เป็นต้น

คุณหญิงกษมากล่าวว่า สำหรับการดำเนินโครงการโรงเรียนนำร่องจัดการศึกษาฟรี 100% ในปีการศึกษา 2552 นั้น จะดำเนินการใน สพท.กทม.ทั้ง 3 เขต เขตละ 1 โรง โดยให้คัดเลือกโรงเรียนคู่พัฒนามานำร่อง ซึ่ง สพฐ.จะช่วยดูแลโรงเรียนในเรื่องของข้าราชการครู คอมพิวเตอร์ วิทยากรพิเศษในวิชาที่เห็นว่าเหมาะสม เช่น การสอนวิชาชีพ สอนภาษาพิเศษ และค่าสาธารณูปโภค โดยในวันที่ 3 เมษายนนี้ จะประชุมหารือเพื่อพิจารณาว่าจะต้องใช้งบประมาณไปสนับสนุนโรงเรียนนำร่องเท่าใด หากใช้งบประมาณไม่มาก ก็อาจจะนำร่องโรงเรียนในต่างจังหวัดที่มีโรงเรียนยอดนิยมเพียงแห่งเดียว

เรื่องนี้เป็นความพยามที่จะให้เด็กมาเรียนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย เชื่อว่าจะทำให้ดึงดูดเด็กมาเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ได้มากขึ้น ส่วนจะฟรีทั้งหมดหรือไม่นั้น ต้องมาดูก่อน แต่โดยจุดประสงค์ของโครงการนี้ เด็กสามารถหิ้วกระเป๋าแล้วมาเรียนหนังสือได้เลย อย่างไรก็ตาม ยังมีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่หนักใจอยู่ เพราะ สพฐ.ไม่สามารถหาเงินมาช่วยได้ในส่วนของเงินประกันชีวิตประมาณ 100-150 บาทต่อคนต่อปี ค่าตรวจสุขภาพพิเศษ หากไม่ฟรีก็อาจจะมีเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ซึ่งนักเรียนจะต้องจ่ายเอง แต่ก็ไม่มาก ทั้งนี้ ได้สั่งการไปยัง สพท.กทม.ทั้ง 3 เขตว่าโรงเรียนที่จะนำร่องในโครงการนี้ ให้ชะลอการเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งการระดมทรัพยากรจากนักเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่จะเข้าเรียนใหม่ คุณหญิงกษมากล่าว

ด้านนายกมล ศิริบรรณ ผอ.สพท.นครราชสีมา เขต 1 กล่าวว่า เน้นย้ำเรื่องการรับนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ในพื้นที่รับผิดชอบ โดย ร.ร.ราชสีมาวิทยาลัย ร.ร.สุรนารีวิทยา และ ร.ร.บุญวัฒนา มีเด็กที่ผิดหวังไม่สามารถเข้าเรียนชั้น ม.1 กว่า 3,000 คน ต้องหาที่ให้ได้เรียน จากนโยบายของคุณหญิงกษมาที่ได้กำชับเป็นพิเศษในเรื่องการเรียกเก็บเงินกินเปล่า หรือแป๊ะเจี้ยะ ซึ่งยังมีสถานศึกษาบางแห่งปฏิบัติอยู่เป็นประจำ โดยอ้างเป็นการสมยอมของผู้ปกครอง และเงินที่เรียกเก็บก็นำไปพัฒนาสื่อการเรียนการสอน มิใช่นำเข้ากระเป๋าคณะผู้บริหาร

การดำเนินการอะไรจะต้องผ่านในรูปแบบคณะกรรมการ ห้ามมิให้คณะผู้บริหารดำเนินการเพียงลำพัง เพราะจะเป็นข้อร้องเรียนภายหลัง และยอมรับว่าในแต่ละปีมีตั๋วฝากจำนวนมาก ทั้งจากผู้มีอุปการคุณ นักการเมือง หัวหน้าส่วนราชการ และสื่อมวลชน โดยส่วนใหญ่จะแจ้งความประสงค์ต้องการเข้าศึกษาต่อ หลังจากเด็กพลาดจากการสอบ และจับสลาก นายกมลกล่าว และว่า ขณะนี้ได้จัดชุดเฝ้าระวังในการตรวจสอบสถานศึกษาชื่อดังยอดฮิต โดยเฉพาะที่เคยมีปัญหาร้องเรียนเป็นประจำ และเปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียน สามารถโทรศัพท์ได้ที่ 08-1872-5572 ตอบข้อสงสัยได้ทุกเรื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook