สินค้าคาแรกเตอร์ไทย

ถึงจะเว้นวรรคทิ้งระยะห่างจากภาคแรกเกือบสามปี แต่ ก้านกล้วย 2 หนังแอนิเมชันสัญชาติไทย ฝีมือการสร้างสรรค์ของบริษัท กันตนากรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ก็สามารถเรียกคนดูโดยเฉพาะกลุ่มเด็กได้ซึ่งช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างปิดเทอมใหญ่

 

ซึ่งธรรมชาติของธุรกิจภาพยนตร์นั้น ถ้าภาคแรกทำเงิน ก็ค่อนข้างเชื่อขนมกินได้ว่าภาคต่อหรือภาคสอง ภาคสาม ที่จะตามมาก็จะได้รับการตอบรับจากตลาดด้วยดีไม่แพ้ภาคแรก และ ก้านกล้วย 2 ก็อยู่ในข่ายนี้ด้วยเช่นกัน

 

นอกจากหนังแล้ว ยังมีสินค้าเมอร์ชานไดส์ สินค้าที่เกี่ยวกับหนังออกมาทำตลาดในจังหวะเดียวกับที่หนังเข้าโปรแกรม อันเป็นการทำตลาดแบบเดียวกับค่ายหนังดิสนีย์ของฮอลลีวูด ซึ่งแต่ละสินค้าก็มีการทำกิจกรรมโปรโมตไปร่วมกับหนัง ทำให้ก้านกล้วย 2 เป็นที่กล่าวขวัญในวงกว้าง

 

เฉพาะอย่างยิ่งตุ๊กตาช้าง ก้านกล้วย และ ชบาแก้ว ได้เข้าสู่ใจของคนไทยแล้วเมื่อเกือบ3 ปีก่อน

 

สำหรับสินค้าที่เล่นกลยุทธ์มูฟวี่ มาร์เก็ตติ้ง ก็มี เครื่องดื่มไวตามิ้ลค์ แชมป์ ก็ให้ลูกค้าเอาชิ้นส่วนมาแลกบัตรดูหนัง ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ เอไอเอส ก็ออกบัตรโทรศัพท์ชนิดเติมเงิน วันทูคอล ลายก้านกล้วย ธนาคารกรุงเทพ ออกสมุดบัญชีลายก้านกล้วย ฟาสต์ฟู้ด แมคโดนัลด์ หรือกระติกน้ำร้อน-หม้อหุงข้าว ตรามิซูบารุ

 

นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเมอร์ชานไดส์ สนใจซื้อลิขสิทธิ์การผลิตสินค้าหลากชนิดหลายแบบตั้งแต่สินค้ามาตรฐานเช่น เสื้อผ้า แก้วน้ำ ตุ๊กตา เครื่องเขียน และอื่นๆอีกมากมาย

 

สะท้อนให้เห็นว่าวันนี้คาแรกเตอร์ไทยๆ ก็ได้รับความสนใจจากตลาดลูกค้าคนไทยด้วยกันเองไม่แพ้ของฝรั่ง ถ้าหากออกแบบได้โดนใจ สำหรับเรื่องนี้คุณสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจภาพยนตร์ บริษัท กันตนากรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดจะสร้างคาแรกเตอร์ไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จึงได้สร้างหนังแอนิเมชันเรื่อง ก้านกล้วยขึ้น เมื่อหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากคนดู รวมทั้งสินค้าเมอร์ชานไดส์ก็ขายได้

 

แต่ด้วยความที่เป็นหนังภาคแรก นักการตลาดที่ดูแลสินค้าหรือบริการยังไม่เห็นเรตติ้งของหนัง จึงยังไม่อยากโดดเข้าใส่ มีเพียงไม่กี่รายที่ใจกล้า ยอมเสี่ยงกับคาแรกเตอร์ไทย อย่างก้านกล้วย

 

ดังนั้นช่วงที่ ก้านกล้วย ภาคแรกเข้าฉาย มีสินค้าเมอร์ชานไดส์ไม่หลากหลายเท่าในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกเสื้อผ้า ตุ๊กตา แก้วน้ำ และเครื่องเขียน

 

หลังจากตลาดให้การตอบรับ ดังนั้นเมื่อหนังออกจากโรงภาพยนตร์ไปแล้ว ทางกันตนาก็เดินหน้าทำการตลาดสร้างแบรนด์คาแรกเตอร์ไทยนี้อย่างต่อเนื่อง โดยทำเป็นโฮมวิดีโอ และเกม

 

ซึ่งทำให้ลูกค้าได้สัมผัสสินค้ากับก้านกล้วยต่อเนื่อง เมื่อสร้างภาค 2 ขึ้นก็ทำให้ขายลิขสิทธิ์เมอร์ชานไดส์ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความหลากหลายของสินค้าก็เพิ่มมากขึ้น มีเครื่องดื่มน้ำผลไม้ สมุดเงินฝากธนาคาร ฯลฯ ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับว่ายังไม่กล้าเทียบชั้นเจ้าตลาด อย่างค่ายดิสนีย์

 

แต่กระนั้นก็เชื่อได้ว่าหลังหนังก้านกล้วย 2 ผ่านไป กันตนาฯก็มีสินค้าหรือคาแรกเตอร์เพิ่มมาอีก 2 ตัวที่จะอยู่ในความสนใจของเด็กๆ นั่นคือ ต้นอ้อ กอแก้ว ช้างแฝดลูกของก้านกล้วยและชบาแก้ว

 

และหากว่าในอนาคต ก้านกล้วย พัฒนาไปทำแอนิเมชันซีรีส์ฉายทางฟรีทีวีเมื่อไร ยิ่งทำให้เป็นการตอกย้ำแบรนด์นี้อย่างต่อเนื่อง สร้างความสนใจให้กลุ่มเป้าหมายเด็กได้แบบรุ่นสู่รุ่นกันเลยทีเดียว เหมือนกับที่เจ้าตลาดดิสนีย์ทำมาแล้วนั่นเอง