เขมรอ้างทหารไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา

เขมรอ้างทหารไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา

เขมรอ้างทหารไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กัมพูชายืนยันเหตุยิงปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเช้าวันนี้ อ้างเป็นเพราะทหารไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชา ด้าน ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยกหูเคลียร์สมเด็จฮุน เซน หลังเหตุการณ์ทหารไทยปะทะเดือดทหารกัมพูชา

รัฐบาลกัมพูชารายงานว่า เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารกัมพูชาและทหารไทยบริเวณชายแดนกัมพูชาในจุดที่ รียกว่า ลานอินทรี ห่างจาก เขาพระวิหาร ประมาณ 2 กิโลเมตรเมื่อเวลาประมาณ 7.15 น.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายไพ สีพัน โฆษกของรัฐบาลกัมพูชา อ้างว่าเกิดการปะทะกันเล็กน้อยหลังจากที่ทหารไทยหลายสิบนายล่วงล้ำเข้าไปในเขตแดนกัมพูชา อย่างไรก็ตาม พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกของไทย กล่าวกับสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทหารกัมพูชาราว 20 นายข้ามชายแดนมายังจุดที่ทหารไทยเหยียบถูกกับระเบิดจนบาดเจ็บสาหัสเมื่อวาน นี้ พร้อมยืนยันว่าจุดดังกล่าวอยู่ในเขตแดนของไทย

ทหารกัมพูชานายหนึ่งที่ประจำการในพื้นที่ เล่าว่า ทหารกัมพูชาได้ยิงเข้าใส่ทหารไทยประมาณ 60 นายที่ข้ามพรมแดนเข้าไปในฝั่งกัมพูชา ก่อนจะมีการยิงปะทะกันราว 10 นาที โดยทหารกัมพูชาได้รับคำสั่งให้ตื่นตัวและพร้อมรบตลอดเวลา และว่าหากทหารไทยข้ามพรมแดนเข้ามา ทหารกัมพูชาก็จะยิงขับไล่ทันทีโดยไม่มีการแจ้งเตือน

ผู้บัญชาการทหารในพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา กล่าวว่า เหตุปะทะกันคลี่คลายลงแล้ว แต่ยังต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนั้นยังแสดงเจตจำนงว่าต้องการเจรจากับทางไทยโดยตรงเพื่อหาทางคลี่ คลายปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

สถานการณ์บริเวณนี้ตึงเครียดขึ้น นับตั้งแต่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก้ ได้ประกาศเมื่อปีที่แล้ว ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกตามที่กัมพูชายื่นเสนอ แม้ฝ่ายไทยจะคัดค้านเพราะยังไม่ชัดเจนเรื่องกรรมสิทธิ์

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุปะทะระหว่างกองกำลังทหารกัมพูชา กับกองกำลังทหารไทยที่ปฏิบัติภารกิจอยู่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ว่า ตนไม่ได้คุยกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เพียงแต่ได้ประสานงานกันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายได้คุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เป็นความเข้าใจผิดของคนระดับล่างเป็นเรื่องธรรมดาของกำลังที่ใกล้กัน ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงใครยิงใครก่อน

เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาไม่ให้ทหารทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าใครยิงใครก่อน และทางกัมพูชาก็ไม่ได้ติดใจอะไร เป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยกันของทหารทั้งสองฝ่ายว่าใครอยู่ตรงไหนอย่างไร เพราะเป็นพื้นที่ป่า ทั้งนี้ไม่มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ และฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ได้พูดอะไร

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ได้เรียนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมทราบและได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับ สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีความเข้าใจกันเพราะไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดขึ้น ซึ่งเคยมีการพูดคุยกันในระดับนายกรัฐมนตรีและทหารไม่ได้มีเจตนาที่จะใช้ กำลัง เราจะอยู่ร่วมกันและจะใช้การเจรจา

ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็จะต้องหาหนทางไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะไม่มีเจตนา ดังนั้นการแก้ไขปัญหาจะต้องเกิดความเข้าใจและอยู่ในบรรยากาศที่ดี และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก

ต่อข้อถามที่ว่า ข่าวที่ออกไปคือฝ่ายทหารไทยเข้าไปบุกรุกพื้นที่จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจ หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดทั้งสิ้นต่างฝ่ายต่างวางกำลังกันอยู่ และจะมีความพยายามลดกำลังที่ไม่จำเป็นลงในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ในระดับล่างก็จะพูดคุยและหารือในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อีก

ต่อข้อถามที่ว่า ได้มีการถอนกำลังที่รุกล้ำเข้ามาออกไปแล้วหรือยัง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีการถอนกำลัง หรือมีกำลังล้ำเข้ามา ขณะนี้ก็อยู่ในที่ตั้งปกติของตน ตนไม่อยากให้เขียนข่าวเป็นประเด็น เพราะไม่มีใครถอนกำลังใดๆ ทั้งสิ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook