นศ.หอการค้าไทยพกมินิโน้ตไปเรียน

นศ.หอการค้าไทยพกมินิโน้ตไปเรียน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ม.หอการค้าไทย เผยโน้ตบุ๊กใหญ่ไปนักศึกษาไม่แบก จับมือเอชพีสร้างสเปกมินิโน้ตให้นักศึกษาปี 1 พกไปเรียน หวังปั้นมหาวิทยาลัยไฮบริดเต็มรูปแบบ

รศ.ดร.จีรเดช อู่สวัสดิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มหา วิทยาลัยหอการค้าไทยเริ่มพัฒนาระบบการเรียนการสอนแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการผสมผสานการเรียนแบบอีเลิร์นนิ่งและการเรียนในห้องเรียนเข้าด้วยกันตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยแจกโน้ตบุ๊กให้นักศึกษาปี 1 จำนวน 5,500 เครื่อง พบว่า ด้วยน้ำหนักของโน้ตบุ๊ก 2.4 กิโลกรัม ทำให้นักศึกษาไม่พกพามาเรียน ดังนั้นจึงร่วมกับบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี กำหนดสเปกของมินิโน้ตซึ่งมีน้ำหนักเพียง 1.19 กิโลกรัม เพื่อแจกให้นักศึกษาปี 1 ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีนักศึกษาใหม่ที่เข้ามาเรียน ม.หอการค้าไทยประมาณ 4,500 คน น้อยกว่าปีที่แล้วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี

สำหรับมินิโน้ตดังกล่าวชื่อรุ่น เอชพี มิิ 2140 โน้ตบุ๊ก พีซี หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว หน่วยประมวลผล อินเทล อะตอม เอ็น 270 หน่วยความจำ 160 กิกะไบต์ มาพร้อมระบบปกป้องข้อมูลในฮาร์ดไดร์ฟ ซึ่งมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนมาก ทั้งยังสร้างความดึงดูดใจด้วยการทำสกรีนฝาพับเป็นลวดลายต่าง ๆ

รศ.ดร.จีรเดช กล่าวต่อว่า การเรียนการสอนแบบไฮบริดสร้างพฤติกรรมแบบใหม่ให้กับนักศึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและเรียนได้ทุกที่ เบื้องต้นสามารถเรียนผ่านระบบไฮบริดได้แล้ว 50 วิชา และจะเพิ่มเป็น 70 วิชาในอีก 2 เดือน ตั้งเป้าอนาคตจะทำให้ครอบคลุมทั้งหมด 700 วิชา ซึ่ง ม.หอการค้าไทยใช้งบลงทุนด้านไอทีปีละ 100 ล้านบาท และมีแผนที่จะสร้างการเรียนการสอนผ่านระบบไฮบริดให้สมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดเพิ่มความไฮเทคในการเรียนด้วยอุปกรณ์ มาย ชอยซ์ (My Choice) ให้นักศึกษากดเลือกคำตอบได้ทันทีผ่านอุปกรณ์ดังกล่าว ระหว่างมีการถามตอบในห้องเรียน

นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ เอชพี กล่าวว่า สเปกมินิโน้ตของ ม.หอการค้าไทย ไม่มีวางจำหน่ายในตลาด เป็นการทำตามการสั่งซื้อ โดยปีนี้เอชพีอยู่ระหว่างหารือกับมหาวิทยาลัยรัฐและมหาวิทยาลัยเอกชน 4-5 แห่ง เพื่อนำโน้ตบุ๊กและมินิโน้ตเข้าไปใช้เสริมการเรียนการสอน โดยปีที่ผ่านมาตลาดคอมพิวเตอร์ในภาคการศึกษามีสัดส่วนอยู่ที่ 30% ของตลาดรวมคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ซึ่งเอชพีครองส่วนแบ่งตลาดภาคการศึกษาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 30-40% สำหรับโครงการนี้เอชพีจับมือกับ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งศูนย์บริการซ่อมบำรุงภายในมหาวิทยาลัย และให้แนะนำเรื่องการใช้งาน.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook