''เนวิน''ร่ำไห้ยันไม่ทรยศ

''เนวิน''ร่ำไห้ยันไม่ทรยศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วอนให้แม้วยุติการเคลื่อนไหวหวั่นแตกแยก!

เนวินหลั่งน้ำตาวอนแม้วยุติการเคลื่อนไหว และก้าวล่างพระราชอัธยาศัย ลั่นรับไม่ได้หักหลังน้าหมักถามรัฐไทยใหม่คืออะไร ยันไม่เคยได้ผลประโยชน์จาก นายใหญ่ และไม่ได้ทรยศแค่ความเห็นต่างกันทางการเมืองเท่านั้น บ่นน้อยใจถูกไล่ล่าหลังตีจาก ขณะที่ เหลิม โต้ เนวิน พูดไม่จริงพูดไม่หมด ยัน แม้วไม่เคยทรยศ หมัก แจงที่ไม่หนุนเป็นนายกฯ อีกรอบเพราะเกรงมีปัญหาเรื่องคดีชิมไปบ่นไป แฉกลับ เนวิน ได้รับประโยชน์จาก แม้ว-อ้อ เพียบ แม้แต่ ปู่ชัย ก็ประเคนตำแหน่งประธานสภาให้ทั้งที่ลูกพรรคขัดขวาง ด้านตำรวจระดมกำลังเต็มพิกัดรับมือประชุมสุดยอดอาเซียน แย้มเตรียมทางหนีทีไล่ไว้พร้อมแล้วหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน ต้องแถลงกลัวบ้านเมืองพัง

เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่โรงแรมสยามซิตี นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ส.ส.พรรค อาทิ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ฯลฯ เปิดแถลงข่าวโดยนายเนวิน กล่าวว่า ตนมีประเด็นที่จะชี้แจง 3 เรื่องคือ 1.สถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน 2.ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และ 3.ประเด็นส่วนตัวระหว่างตนกับนายกฯทักษิณ ที่ตัดสินใจออกมาชี้แจงเพราะเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่มีความแตกแยก และการเตรียมการชุมนุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 เม.ย.

นายเนวินกล่าวต่อว่า พวกเรามีความเห็นว่าจำเป็นต้องออกมาเตือน ให้ระวังต้องตกเป็นเครื่องมือและเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่ได้มีการวางแผนไว้ ถ้าเกิดเหตุการณ์นำไปสู่ความ รุนแรงประเทศไทยจะได้รับความสูญเสียที่ไม่อาจประเมินค่าได้ นั่นคือเหตุผลหลักสำคัญที่ตัดสินใจแถลงข่าว เชื่อมีการวางแผนเผาเมือง

แกนนำพรรคภูมิใจไทยกล่าวต่อว่า ตลอด 12 วันที่มีการชุมนุมมีแต่กล่าวถึงสงครามประชาชน การปฏิวัติประชาชน แผ่นดินจะลุกเป็นไฟ จะยึดศาลากลางจังหวัด จนนำมาสู่สิ่ง ที่เราเป็นห่วงและเชื่อได้ว่า ผู้นำการชุมนุมบางคนได้เตรียมการบางอย่างเพื่อจะก่อให้เกิดสถานการณ์สงครามกลางเมือง ที่จะนำไปสู่การเผาบ้านเผาเมืองทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค

ผมจึงกราบเรียนไปยังประชาชนทุกท่านที่จะเข้าร่วมในการชุมนุมว่า ขอให้พิจารณาให้ดีว่าเป้าหมายของการชุมนุมในครั้งนี้มีเป้าหมายเพียงแค่ขับไล่รัฐบาลเท่านั้น หรือมีเป้าหมายที่ไกล กว่านั้น ผมและเพื่อน ๆ มีเหตุผลที่เชื่อว่าแกนนำการชุมนุมมีเจตนามากกว่าการขับไล่รัฐบาล นายเนวินกล่าว ถามรัฐไทยใหม่คืออะไร

นายเนวินกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 52 แกนนำชุมนุมคนหนึ่งได้ประกาศไว้เมื่อวันเปิดสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่นว่า จะเป็นการสร้างรัฐไทยใหม่ด้วยมือคนเสื้อแดง โดยมีดีสเตชั่นเป็นเครื่องมือขยายฐานมวลชน ตนตั้งคำถามไปยังคนเสื้อแดงว่า ทำไมต้องสร้างรัฐไทยใหม่ ในเมื่อเรามีประเทศไทยที่มีการปกครองเป็นระบอบประชา ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่แล้ว ต้องตอบคำถามตนให้ได้ว่าที่ประกาศว่าจะสร้างรัฐไทยใหม่มีเจตนารมณ์อย่างไร

นายเนวินกล่าวต่อว่า การชุมนุมครั้งนี้ถ้าเป็นการเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อคนส่วนใหญ่ ตนจะร่วมสนับสนุนด้วย แต่ตนและเพื่อน ๆ เห็นว่าการเรียกร้องครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว ตนไม่เห็นด้วย แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่ตนเคยทำงานให้อย่างชนิดที่สื่อมวลชนเคยบอกว่า ตนทำงานให้แบบยอมตายถวายชีวิต ลั่นรักชาติมากกว่ารัก แม้ว

ถ้าคนคนนั้นรักตัวเอง เห็นแก่ความอยู่รอดของตัวเองมากกว่าประชาชน และความอยู่รอดของประเทศชาติ ผมก็ไม่เอาด้วย เพราะ พวกเราไม่ใช่ทาสที่จะทำให้ทุกเรื่องโดยไม่คำนึงถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศชาติและส่วนรวม เหนือสิ่งอื่นใดผมและเพื่อน ๆ ยืนยันว่าเรารักประเทศไทยมากกว่ารักท่านนายกฯทักษิณ ผมและเพื่อนจึงต้องออกมาแสดงความเห็นที่คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการปลุกระดมมวลชนเพื่อประโยชน์ของคนคนเดียว นายเนวินกล่าว

นายเนวินกล่าวต่อว่า ตนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การออกมาแสดงความคิดเห็นด้วยการก้าวล่วงในพระราชอำนาจและพระราชอัธยาศัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของแกนนำ ร่วมกับขบวนการนี้การโฟนอิน วิดีโอลิงก์ สื่อสารกับประชาชนที่เข้าร่วมการชุมนุมเป้าหมายคือ การขับไล่องคมนตรี เป็นเรื่องล่อแหลมที่กระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างยิ่ง เพราะองคมนตรีแต่ละท่านมาจากการโปรดเกล้าฯตามพระราชอัธยาศัย เล่นงานองคมนตรีทำไม

คุณมาบอกว่าคนที่พระองค์ท่านโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นคนเลวคนไม่ดี คุณมีเป้าหมายอะไร ในเมื่อองคมนตรีเหล่านั้นพระองค์ท่านทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย แล้วเป็นไปตามพระราชอัธยาศัยของพระองค์นายเนวินกล่าวและว่า ประเด็นสุดท้ายเป็นเรื่องส่วนตัว ตนกับเพื่อน ๆ ถูกกล่าวหาว่าหักหลังทรยศ ต้องการผลตอบแทน ตนเป็น ส.ส.บุรีรัมย์มาตั้งแต่ปี 31 ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้เล่นการเมือง คนอย่างตนไม่มีความจำเป็นต้องพึ่งพากระแสของ พ.ต.ท. ทักษิณในการรับเลือกตั้ง พวกตนได้รับเลือกตั้งมาด้วยตนเอง ก่อนมีพรรคไทยรักไทยด้วยซ้ำ

นายเนวินกล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนได้จาก อดีตนายกฯทักษิณมีอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.ได้รับแนวคิดและแนวทางการทำงานที่เป็นประโยชน์ 2.เมื่อได้มาอยู่ร่วมกันยังเป็น รมช.เกษตรฯเหมือนเดิม แต่ได้รับมอบภารกิจมากมาย ทั้งภารกิจที่ไม่มีคนยอมทำ และภารกิจที่ไม่มีคนกล้าทำ จนเกิดการยึดอำนาจในวันที่ 19 ก.ย. 49 และ 3.ตนตกเป็นจำเลยในคดีความ 2 คดีคือคดีหวยบนดินและคดีกล้ายาง รับไม่ได้หักหลัง หมัก

การที่บอกว่าผมได้อะไรมากมายจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เช่น คุณพ่อผมได้รับเลือกเป็นประธานรัฐสภา ต้องเรียนว่าการจะเป็นประธานรัฐสภาต้องเป็นมติของพรรคเห็นชอบ เป็นมติเดียวที่ให้นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี กรณีผมและอดีตนายกฯทักษิณ ไม่ใช่การหักหลัง แต่เป็นเรื่องของคนที่คิดต่างกันในทางการเมือง เมื่อเราเห็นต่างกันต้องเดินตามทางที่เราเชื่อ ที่เห็นว่าเป็นผลดีกับประเทศชาติ นายเนวินกล่าว

นายเนวินกล่าวอีกว่า กรณีของตนอย่ามาพูดว่าหักหลัง ทรยศ เนรคุณ ถ้าจะบอกว่าหักหลังต้องดูกรณีของนายสมัคร การไม่ยอมโหวตให้นายสมัครกลับไปเป็นนายกฯ ในวันที่ 12 ก.ย. 51 ถือว่ากรณีนี้เป็นกรณีของการหักหลังทางการเมือง ชีวิตท่านสมัครหลังพ้นตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. ท่านประกาศวางมือทางการเมือง ท่านนายกฯทักษิณและคนหลาย ๆ คนในพรรค ไทยรักไทย ยกขบวนไปขอร้องท่านให้มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ลั่นไม่ใช่ทาสถูกไล่ล่า

ตลอดเวลาที่ผ่านมาในเส้นทางการเมืองอยากพูดคำหนึ่งว่า คนเป็นพนักงานเป็นลูกจ้างทำงานบริษัท หากอยู่ไม่ได้อึดอัดใจเมื่อลาออกก็จบ นายจ้างไม่พอใจลูเลิกจ้างก็จบ พวกผมเคยอยู่มากันหลายพรรคเมื่อเห็นไม่ตรงกันย้ายพรรคก็จบ แต่กรณีพวกผมเมื่อเห็นต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณพวกผมถูกไล่ล่าตามล้าง จึงอยากฝากบอกไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณว่า พวกผมเป็นคนเป็นมนุษย์ไม่ใช่ทาส กี่คนแล้วที่เห็น ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ พอแยกออกไปแล้วถูกไล่ล่า นายเนวินกล่าว

นายเนวิน กล่าวต่อว่า ตนอยากถือโอกาสนี้ขอนายกฯ ทักษิณ 2 เรื่อง คือเรื่องแรกตนกราบขอให้ท่านสั่งคนของท่านหยุดก้าวล่วงพระราชอัธยาศัยของพระเจ้าอยู่หัว เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าท่านจงรักภักดี เรื่องที่ 2 หากท่านรักพี่น้องคนไทยและประเทศจริงอย่างที่พูด ขอให้หยุดการสนับสนุน หยุดการเคลื่อนไหว หยุดการทำให้บ้านเมืองแตกแยกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายเนวินได้มีน้ำตาคลอขณะที่นายบุญจงได้หลั่งน้ำตาออกมาพร้อมนำผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดด้วย (อ่านรายละเอียดหน้า 3) เหลิม โต้ เนวิน พูดไม่จริง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน ส.ส.กล่าวถึง การแถลงเปิดใจของนายเนวินว่า เท่าที่ฟังการ แถลง นายเนวินพยายามปะติดปะต่อภาพเอาเอง สำคัญตัวเองผิดว่าทำให้พรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนได้รับชัยชนะเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง ประชาชนเลือกเพราะศรัทธานโยบายและพ.ต.ท.ทักษิณ นายเนวิน ไม่เคยขึ้นเวทีปราศรัย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า นายเนวินพูดไม่ตรงกับความจริง กรณีการรับตำแหน่งประธานรัฐสภาของนายชัย ชิดชอบ หลังจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาพ้นตำแหน่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์เชิญตนไปหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า มี ส.ส.อีสาน 15-17 คนอยู่ก่อนแล้ว อาทิ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ส.ส.ขอนแก่น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส. นนทบุรี ทุกคนเห็นตรงกันไม่ต้องการให้นายชัยเป็นประธานสภา แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขอร้องทุกคน โดยใช้คำว่า เนวินรักผม เคารพผม ตายแทนผมได้ ผมขอเถอะ ทุกคนก็ตกลง ยัน แม้ว จงรักภักดี

ที่นายเนวินออกมาพูดวันนี้คิดว่าคงเฮิร์ท เสียเครดิตเพราะไปรับปากรัฐบาลว่าจะจัดการเสื้อแดงได้ แต่ผลออกมาไม่ใช่ เพราะคนมาชุมนุมด้วยจิตวิญญาณ นายเนวินพูดไม่ตรงที่บอกว่าไม่เคยได้รับอะไรจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ความจริงนาย เนวินได้จากทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงหลายอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะพูด เว้นแต่ว่าจะถูก ขอร้องให้ออกมาพูด ผมเป็น รมว.มหาดไทยมา ผมรู้ดีว่าใครเข้ามาแทรกแซงอย่างไร นายเนวิน รู้หรือไม่ว่าเจ้านายเก่าคุณเป็นอดีตนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้รับพระราชทานกระบี่จากพระหัตถ์ สมรสพระราชทาน เครื่องราชฯ ชั้นจุลจอมเกล้าฯ วิเศษ เนวินเอาอะไรมาพูดว่าไม่จงรักภักดี ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่า นายเนวินแถลงข่าวทั้งน้ำตาจะมีผลอะไรหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นาย เนวินร้องไห้บ่อยอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีผลอะไร การแถลงข่าวของนายเนวินมีน้ำหนักหรือไม่วันที่ 8 เม.ย.รู้กัน เมื่อถามว่า มีใครอยู่เบื้องหลังการแถลงข่าวครั้งนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครอยู่เบื้องหลัง แต่ยืนยันได้ว่าคนอยู่เบื้องหลังใช้คนผิด แจงไม่หนุน หมัก เพราะติดคดี

เนวินเอ๋ยที่เคยร้องเพลงว่าขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก วันนี้ต้องเปลี่ยนใหม่เพราะเอ็งไปหลายคนเขาสบายใจ ไม่ใช่ขาดเอ็งแล้วเขาจะรู้สึก ถ้าจะพูดเรื่องนี้ทำไมไม่ออกมาพูดตั้งแต่ย้ายขั้วไป ทำไมถึงออกมาพูดวันนี้ อย่างนี้แสดงให้เห็นว่าการแถลงข่าวมีอะไรซ่อนเร้นอยู่ ร.ต.อ. เฉลิมกล่าว

ส่วนที่นายเนวินบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณหักหลังนายสมัครนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เหตุผลที่พรรคร่วมไม่สนับสนุนนายสมัครเป็นนายกฯรอบ 2 เพราะศาลกำลังจะมีคำพิพากษาในคดีชิมไปบ่นไป ยืนยันว่าสิ่งที่นายเนวินพูดไม่เป็นความจริง แต่อยากถามว่านาย เนวินเอาสมองส่วนไหนที่คิดว่าตัวเองมีบารมีมากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เผย เนวิน แอบพบ ป๋า

รายงานข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า ก่อนที่นายเนวินจะออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 เม.ย.ที ่ผ่านมา นายเนวินได้เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะชุมนุมใหญ่ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ซึ่งหลังจากนายเนวินได้รับฟังคำชี้แนะจากพล.อ.เปรม จึงออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา

ด้านแหล่งข่าวใกล้ชิดพล.อ.เปรมเปิดเผยว่า ในวันที่ 8 เม.ย. พล.อ.เปรมจะปักหลักอยู่ภายในบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ตามปกติ โดยไม่ได้มีกำหนดเดินทางไปต่างจังหวัดแต่อย่างใด ประชุมสุดยอดอาเซียนพร้อม

สำหรับการเตรียมพร้อมการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่โรงแรมรอยัลคริฟ บีช พัทยา จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยแล้ว โดยให้ความสนใจและสอบถามถึงกำหนดการแต่ละขั้นตอนพิธีการต่าง ๆ ของการประชุม รวมทั้งเอกสารที่ต้องใช้ และพอใจกับความคืบหน้าในการจัดเตรียม

ด้านพล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมว่า ได้มีการสนธิกำลังตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร รวมจำนวน 5,000 นายดูแลพื้นที่ในบริเวณโรงแรมและใกล้เคียงโดยรอบ และได้จัดเตรียมสถานที่ให้ผู้ชุมนุมที่จะมาชูป้ายหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมือง แต่จะไม่ปล่อยให้เข้ามาขว้างปาใด ๆ หรือกระทำการที่ละเมิดกฎหมาย แต่ถ้าสถานการณ์คับขันจริง ๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้หลายด้าน คืนวัตถุโบราณเอาใจเขมร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานที่การประชุม ครม.ได้ใช้อาคารพัทยาเอ็กซิบิชั่นแอนด์คอมมิวนิเคชั่นฮอลล์ เป็นสถานที่ประชุม มีการติดตั้งเครื่องตรวจสแกนวัตถุระเบิดบุคคลเข้าออกภายในอาคารอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารมายืนประจำการทางเข้าออกเพื่อดูแลความปลอดภัย โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณห้องประชุม ครม.อย่างไรก็ตามมีรายงานแจ้งว่า ในการประชุมดังกล่าว ครม.มีมติจะ ส่งคืนวัตถุโบราณซึ่งเป็นศิลปะขอมคืนให้แก่ประเทศกัมพูชาจำนวน 7 ชิ้น โดยจะมอบอย่างเป็นทางการให้กับนายฮุนเซน 1 ชิ้น ส่วนอีก 6 ชิ้นจะคืนให้ช่วงที่นายกฯ เดินทางไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

นายวัชระ กรรณิการณ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งนายยุทธิชัย เกษตรเจริญ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. นอกจากนี้ยังแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาชุดใหม่ มีนายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ เป็นประธานกรรมการ ส่วนคณะกรรมการ ประกอบด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร นายสมหาย ปาริจฉัตต์ นายสมนึก พิมลเสถียร นางสิริพร บุญญานันต์ นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ และนายอมรวิชช์ นาครทรรพ พาณิชย์ปรับย้าย 3 ตำแหน่ง

รองโฆษกฯกล่าวต่อว่า ที่ประชุมอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายธฤต จรุงวัฒน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราช ทูตไทยประจำกรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ 2.นางสาววิมล คิดชอบ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสารนิเทศ 3.นางนงนุช เพ็ชรรัตน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย 4.นายปิยวัชร นิยมฤกษ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ 5.นายธนะ ดวงรัตน์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ และ 6.นายวีรพันธุ์ วัชราทิตย์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส

นายวัชระกล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบแต่งตั้งนายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เป็นเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ และแต่งตั้งนางอภิรดี ตันตราภรณ์ เป็นรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร เป็นอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศ และนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค เป็นอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ 2 ยุทธศาสตร์ประเทศไทย

วันเดียวกันที่สถาบันพระปกเกล้า นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการสภาสถาบันฯ ถึงการปฏิรูปการเมืองว่า คงต้องรอท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลก่อน อย่างไรก็ตามสิ่งที่สถาบันฯจะดำเนินการคือ การวิจัยยุทธศาสตร์ประเทศไทย เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง โดยการวิจัยจะทำใน 2 ยุทธศาสตร์ คือ 1.การจัดสรรทรัพยากร และความมั่งคั่งของประเทศ และ 2.ศึกษาปรับระบบการบริหาร ระบบเศรษฐกิจ สังคม

นายบวรศักดิ์กล่าวต่อว่า การปฏิรูปประเทศไทยจะเป็นการศึกษาทางวิชาการ ถ้าจะให้เกิดขึ้นได้จริงฝ่ายการเมืองต้องเห็นด้วยและนำไปปฏิบัติ แต่หากไม่เห็นด้วยภาคประชาสังคมก็ต้องมีการขับเคลื่อนเพื่อให้ฝ่ายการเมืองนำไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา พท.ทำบุญสงกรานต์ล่วงหน้า

ทางด้านพรรคเพื่อไทย ได้จัดพิธีทำบุญเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ มีแกนนำสำคัญ อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยา นายพายัพ ชินวัตร ประธาน ส.ส.ภาคอีสาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย แต่บรรยากาศก็ค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจาก ส.ส.เข้าร่วมบางตา

นายพงศ์เทพในฐานะโฆษกส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศเตรียมเชิญเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ประจำประเทศไทยมาชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานะ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ฟังแล้วรู้สึกเป็นห่วงประเทศมาก สิ่งที่ประเทศควรดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือการสร้างรายได้ผ่านทางสำนักงานทางการทูตที่ตั้งอยู่ทั่วโลก และ พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่มีความจำเป็นต้องชี้แจงกับนานาประเทศ เพราะต่างชาติเข้าใจว่าวันนี้ประเทศไทยและความยุติธรรมเป็นอย่างไร บุญจง งานเข้า พท.ร้อง ป.ป.ช.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่าในวันที่ 10 เม.ย.จะเข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ซึ่งอาจเข้าข่ายจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ โดยนายบุญจงน่าจะยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนและผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดโชคชัยรวมทวี 1990 โดยให้คนขับรถและคนใกล้ชิดรวมถึงญาติของนางกาญจนา วงศ์ไตรรัตน์ ภรรยาของนายบุญจงเป็นผู้ถือหุ้นแทน โดยใช้บ้านพี่สาวนายบุญจงเป็นที่ทำการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจนถึงปัจจุบัน

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่า ได้ยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณในการยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเมื่อพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว 1 ปี ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินฯ ว่ามีทรัพย์สินรวม 614,393,759.90 บาท ไม่มีหนี้สิน ต่อมาได้มีสื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวกับทรัพย์สินในต่างประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณ ที่ทำให้เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีเครื่องบินส่วนตัว ราคา 1,500 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ ทำให้เข้าใจได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง กังขา อักขราทร เอี่ยวปฏิวัติ

อีกด้านหนึ่งที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ กรรมการกองทุนเพื่อรณรงค์ต่อต้านการค้าทาสร่วมสมัย องค์การสหประชาชาติ ในฐานะผู้สมัครเข้ารับคัดเลือกเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้แถลงข่าวประกาศถอนตัวจากการลงสมัครเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากเห็นว่านายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มีความมัวหมอง เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูก พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.รมน.ระบุว่า มีส่วนในการวางแผนก่อการปฏิวัติรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 และวางแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สั่นคลอนความรู้สึกเชื่อมั่นต่อสถาบันตุลาการเป็นอย่างยิ่ง ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งในจำนวนผู้สมัคร 133 คน ไม่สามารถจะยอมรับบุคคลที่สังคมตั้งข้อกังขาถึงความบริสุทธิ์ยุติธรรม และการกระทำที่ผิดหลักมนุษยชนมาเป็นกรรมการสรรหาฯ ได.้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook