อายัดเรือแสงสมุทร คุมไต้ก๋งและลูกเรือ ดำเนินคดีจับฉลามวาฬขึ้นเรือประมง

คืบหน้ากรณีเรือประมงแสงสุมทร 2-3 ได้มีการจับและยกฉลามวาฬ ขึ้นบนเรือ และมีเรือดำน้ำของนักท่องเที่ยวถ่ายคลิปเอาไว้ได้ และอ้างว่า กดดันให้เรือประมงปล่อยฉลามวาฬตัวดังกล่าวที่คาดว่าจะท้องแก้จนแท้งลูกหลุดจมทะเลเมื่อเช้าวันที่ 18 พ.ค.61  จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง  และอธิบดีกรมประมงต้องบินด่วนมาสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประมง จ.ภูเก็ต แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง  เมื่อวันที่ 19 พ.ค.61 ที่ผ่านมา และในวันที่ 20 พ.ค.61 พนักงาน  สภ.ฉลอง ได้เรียกตัวไต้ก๋งเรือและลูกเรือประมงทั้ง 2 ลำรวม 17 คนรับทราบข้อกล่าวหาแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้  (21 พ.ค.61)  นายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้ทำการครึงพังงาเรือ หรือล็อคพวงมาลัยเรือพร้อมทาสีเรือแสงสมุทร 2  กับแสงสมุทร 3 เพื่อทำการอายึดหรือกักเรือไว้เป็นของกลาง ในระหว่างดำเนินคดี ในคดีจับฉลามวาฬขึ้นเรือก่อนปล่อยลงทะเลตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ประมง  ที่แพปลาแสงสมุทรนอก  ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งการอายัดหรือกักไว้จนกว่ากระบวนการทางกฏหมายจะเสร็จสิ้น

ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ประมง จ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง  ให้ดำเนินคดีกับผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือแสงสมุทร 2 และ แสงสมุทร 3 ในฐานความผิด ร่วมกันจับสัตว์น้ำชนิดเลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ตามที่รัฐมนตรีกำหนดหรือสัตว์น้ำดังกล่าวขึ้นเรือประมง เว้นแต่มีความจำเป็นเพื่อการช่วยชีวิตสัตว์น้ำนั้น และร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง  ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำและแจ้งข้อหากับผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือทั้ง 2 ลำ  รวมจำนวน 17 ราย  แต่เบื้องต้นผู้ต้องทั้งหมดให้การปฎิเสธว่า  ไม่ได้ตั้งใจจับหรือยกฉลามวาฬ ขึ้นบนเรือประมงแต่ฉลามวาฬติดขึ้นไปเอง และหลายหน่วยยังเร่งค้นหาฉลามวาฬตัวดังกล่าวอยู่  แต่ยังไม่พบ อีกทั้งได้มีข่าวว่า พบฉลามวาฬที่เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล  แต่ยังไม่มั่นใจว่าเป็นตัวเดียวกันหรือไม่