คุมตัวหนุ่มคาร์แคร์ ทำแผนค้ากระสุนปืนสงคราม ยึดร่วม 15,000 นัด

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน และ สภ.เมืองเชียงราย นำตัว นายพงษ์พัฒน์  อายุ 29  ปี อยู่บ้านเลขที่  205 หมู่ 7 ต.โชคชัย อ.ดอยหลวง จ.เชียงราย เจ้าของร้านเบลล์คาร์แคร์ ผู้ต้องหาคดีมีกระสุนปืนสงครามไว้ในครอบครอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

โดยเริ่มจุดแรกเป็นจุดที่มารับกระสุนจาก บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย โดยทางทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้จัดการบริษัทขนส่งเอกชน ถึงวิธีการขั้นตอนการรับและส่งพัสดุของผู้ใช้บริการ รวมไปถึงขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ภายในอาคารที่รับส่งพัสดุ เพื่อประกอบสำนวนคดี  หลังจากนั้นจึงนำใส่รถเก๋งไปเก็บไว้ที่คาร์แคร์ ซึ่งเป็นจุดสองที่นายพงษ์พัฒน์ นำของกลางมาซุกซ่อนไว้จำนวนหนึ่งก่อนจะถูกจับกุม

ทั้งนี้ นายพงษ์พัฒน์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน จับกุมตัวได้บนถนนสายท่าข้าวเปลือก-ร่องบง บริเวณหน้าวัดโค้งงาม หมู่ 7 ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีเทา ทะเบียน 4475  เชียงราย ผ่านมาตรวจพบลูกกระสุนขนาด 5.56  มิลลิเมตร  ที่ใช้กับปืนขนาดเอ็ม 16 รวม จำนวน 10,020 นัด  และขยายผลมาตรวจค้นที่ร้านเบลล์คาร์แคร์ ตั้งอยู่ถนนพ่อขุน เขตเทศบาลนครเชียงราย ได้กระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 5,000 นัด

พล.ต.ท. พูลทรัพย์  กล่าวว่า นายพงษ์พัฒน์ เป็นคนชอบยิงปืน และอยู่ในวงการนี้ เมื่อมีคนส่งมาฝากไว้ จึงได้นำไปติดต่อขายที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่สามารถขายได้เพราะไม่มีผู้รับซื้อและผู้ต้องหาก็ไม่มีประวัติการค้าอาวุธ เพียงแต่เป็นคนชอบยิงปืน  เมื่อมีผู้นำกระสุนปืนมาฝากไว้ จึงได้ทำไปโดยไม่รู้ว่า เป็นการผิดกฎหมายร้ายแรง ส่วนต้นทางถูกส่งมาจาก จ.สระบุรี ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปทำการตรวจค้นบ้านจับกุมผู้ส่ง และได้ตัวมาแล้ว พร้อมได้กระสุนเพิ่มจำนวนหนึ่ง ทางนั้นก็ได้ดำเนินคดีกันไป

พล.ต.ท.พูลทรัพย์กล่าวด้วยว่า  ส่วนกรณีผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่า กระสุนปืนเป็นของ ผญบ. คนหนึ่งใน ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย นั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปทำการตรวจค้นที่บ้าน แต่ยังไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อนำตัวมาสอบ ผญบ.คนดังกล่าวยังไม่ยอมรับ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการเชื่อมต่อให้ได้มากที่สุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายงานแจ้งว่า ลูกกระสุนปืนกว่า 15,000 นัดนี้ นายพงษ์พัฒน์ ได้ไปเจรจากับผู้ที่ต้องการซื้อกระสุนปืนแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มผู้จัดหาอาวุธปืนและกระสุนปืนให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา  โดยเมื่อได้ข้อยุติในเรื่องราคาซื้อขายแล้ว นายพงษ์พัฒน์จึงได้ขับรถตระเวนหาจุดที่จะส่งมอบกระสุนปืนให้กับลูกค้า ตามแนวชายแดนระหว่างแม่สายกับเชียงแสน จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุม