แกนนำเสื้อแดงชลบุรีหนีไปเกาะกงแล้ว

แกนนำเสื้อแดงชลบุรีหนีไปเกาะกงแล้ว

แกนนำเสื้อแดงชลบุรีหนีไปเกาะกงแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส.ส.ชลบุรี ปชป. เผยถูกทามทามกลุ่มเสื้อเหลืองเมืองพัทยาร่วมชุมนุม DSIพร้อมตรวจสอบกรณีรัฐบาลสลายการชุมนุมเสื้อแดง เลขาฯอาเซียนแนะไทยเร่งสร้างปรองดอง-สร้างเชื่อมั่นโดยเร็ว วิปวุฒิฯนัดถกกำหนดหัวข้ออภิปรายทั่วไปพรุ่งนี้ รมว.พาณิชย์ตรวจเช็คสต๊อกข้าวที่โรงสี จ.ศรีสะเกษ แต่ไร้เงาม็อบเสื้อแดงป่วน

นายศักดา นพสิทธิ์ ตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงหรือกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ตนถูกออกหมายจับ ในฐานะแกนนำในการล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยานั้น ครั้งแรกจะตัดสินใจมอบตัวหากยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน แต่พรรคพวกได้โทรศัพท์ออกมาเตือนว่า หากเข้ามอบตัวจะถูกจับตัวดำเนินคดีทันที จึงได้ตัดสินใจกับพวกที่ถูกออกหมายจับอีก 2 คน เดินทางไปเกาะกงทันที เพราะไม่มั่นใจในขบวนการยุติธรรม จึงต้องหลบหนีออกไปตั้งตัวเสียก่อน หากสถานการณ์ดีขึ้น จะกลับมามอบตัว

"ช่วงนี้อยู่สุขสบายดี ไม่มีปัญหาในเรื่องที่พักแต่อย่างใด และยังมีคนคอยดูแลอีกด้วย" นายศักดากล่าว

ด้านนายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับการทามทามให้ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อเหลืองเมืองพัทยาเหมือนกันแต่ได้ปฏิเสธไป เพราะว่าการชุมนุมในครั้งนี้ ทำเพื่อคนบางคนไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติ ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทยต้องคิดให้หนักเหมือนกัน ประกอบกับช่วงนี้เมืองพัทยาเสียหายอย่างหนัก และบอบช้ำจากการที่กลุ่มเสื้อแดง ล้มการประชุมสุดยอดอาเชียนที่พัทยา ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงอย่างมากมาย หากมีการชุมนุมกันอีกจะทำให้เมืองพัทยาเสียหายอย่างหนัก ทั้งที่กำลังจะเริ่มฟื้นตัว

นายประมวล กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้สีเสื้อใดมาชุมนุมกันที่เมืองพัทยาอีก หากพบว่ามีการทำผิดกฎหมายให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่รู้ว่าผู้ชุมนุมรู้สถานการณ์บ้านเมืองหรือไม่ว่าเป็นอย่างไร หรือจะทำให้เมืองพัทยาเสียหายไปมากกว่านี้

DSIพร้อมตรวจสอบกรณีรัฐบาลสลายการชุมนุมเสื้อแดง

นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย จะยื่นหนังสือร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบรัฐบาลในการสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ว่าหากมีการร้องเรียนให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบดีเอสไอก็พร้อมดำเนินการให้ โดยจะทำงานร่วมกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่มีขั้นตอนดำเนินการ ซึ่งต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนนำเสนอสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษ อย่างไรก็ตามข้อกฎหมายที่เห็นต่างกันในเรื่องการสลายการชุมนุม ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลจะเป็นฝ่ายชี้แจงได้

นายชาญเชาวน์ กล่าวยืนยันถึงกระแสข่าวโยกย้ายในดีเอสไอว่า ยังไม่มีคำสั่งโยกย้ายทั้งตำแหน่งอธิบดีหรือรองอธิบดี โดยกรณีของ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของทีพีไอที่ถูกตรวจสอบกรณีข้อมูลในสำนวนรั่วขณะนี้การตรวจสอบมีความคืบหน้ามาก แต่ยังไม่สรุปจึงไม่เกี่ยวข้องที่จะส่งผลให้มีการโยกย้ายในดีเอสไอ

นายชาญเชาวน์ กล่าวอีกว่า ในฐานะได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบว่า ข้อมูลในสำนวนเงินบริจาคทีพีไอรั่วหรือไม่ ได้มีหนังสือเชิญ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมอภิปรายจากพรรคเพื่อไทย มาให้ข้อมูล ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม ได้มีหนังสือยืนยันกลับมาว่า ข้อมูลที่ใช้ในการอภิปราย ไม่ได้รับข้อมูลจากดีเอสไอและยังไม่สะดวกที่จะมาให้รายละเอียดกับดีเอสไอ

ตร.ยังปิดถนนผ่านหน้ปชป.เพื่อรักษาความปลอดภัย

วันนี้ (19 เม.ย.) ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายมาคอยรักษาความปลอดภัยบริเวณพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง และมีการปิดถนนเศรษฐศิริช่วงที่ผ่านหน้าที่ทำการพรรค โดยให้รถที่สัญจรไปมาอ้อมเข้าไปใช้ในบ้านพักสวัสดิการทหารบกแทน อย่างไรก็ตามสถานการณ์เป็นไปตามปก

เลขาฯอาเซียนแนะไทยเร่งสร้างปรองดอง-สร้างเชื่อมั่นโดยเร็ว

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยต้องเลื่อนการจัดประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาออกไปนั้น ทำให้ไทยต้องเสียโอกาสหลายอย่าง โดยเฉพาะการร่วมกันแก้ไขปัญหาระบบเศรษฐกิจโลก เนื่องจากประเทศสมาชิกที่จะเข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่ม G20 จะเดินทางเข้าร่วมประชุมด้วย

ดังนั้น สิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งดำเนินการขณะนี้ คือ ต้องเร่งหาข้อสรุปเรื่องกำหนดวันจัดการประชุมใหม่ให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เสียโอกาสไปอีก และเห็นว่าการสร้างความปรองดองเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาเป็นสิ่งสำคัญที่ไทยต้องเร่งดำเนินการ เพราะในอดีตไม่เคยเลื่อนการประชุมสุดยอดอาเซียนเพราะสถานการณ์ทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม จะเชิญทูตอาเซียนและประเทศคู่เจรจาทั้ง 15 ประเทศมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดวันจัดประชุมใหม่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

วิปวุฒิฯนัดถกกำหนดหัวข้ออภิปรายทั่วไปพรุ่งนี้

นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานคณะกรรมการกิจการวุฒิสภา หรือ วิปวุฒิ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ วิปวุฒิสภา จะประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องรัฐบาลขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 175 เพื่อเปิดให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายสถานการณ์การเมือง ก่อนที่จะไปร่วมประชุมร่วม 3 ฝ่ายในวันที่ 22 เม.ย. แม้ก่อนหน้านี้วุฒิสภาได้ร่วมลงชื่อเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ไปแล้ว เมื่อรัฐบาลขอเปิดประชุมเอง วุฒิสภาจึงไม่มีปัญหา และเห็นว่า เป็นเรื่องดีที่จะนำความขัดแย้งเข้าสู่เวทีสภา

สำหรับการประชุมวิปวุฒินั้น จะสรุปท่าทีและข้อเสนอของวุฒิสภา รวมถึงกำหนดตัวบุคคลที่จะอภิปราย โดยในการหารือเบื้องต้นวุฒิสภาจะเสนอให้รัฐบาลดำเนินการใน 2 แนวทาง คือ การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้งในปัจจุบัน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่า เป็นต้นตอของปัญหาการเมืองในขณะนี้

"สิริวัฒน์"เสนอวุฒิสภาตัวกลางแก้รธน.ทำให้เสร็จใน3-4เดือน

นายสิริวัฒน์ ไกรสินธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช กรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา(วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีประเด็นปัญหาที่ต้องตกลงกัน 3-4 ประเด็นหลัก ได้แก่ องค์กรใดจะเป็นหลักในการดำเนินการและประสานงาน เพราะหากให้ฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านดำเนินการในสถานการณ์ขณะนี้ อาจไม่ได้รับการยอมรับที่มากพอ รวมไปถึงประเด็นเรื่องระยะเวลา ประเด็นเนื้อหามาตราต่าง ๆ ที่จะแก้ไข

ทั้งนี้ ในฐานะวิปวุฒิสภา ได้ประสานกับเพื่อนส.ว.หลายคน มีความเห็นตรงกันว่า ควรให้วุฒิสภาเป็นหลักในการประสานงานกับฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพราะวุฒิสภามีฐานะเป็นกลาง

ส่วนระยะเวลาควรทำให้เสร็จในเวลาที่รวดเร็ว 3-4 เดือน ต้องให้จบ เพราะหากช้าไปมีปัจจัยเสี่ยงรออยู่ข้างหน้า อาจทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ วิกฤตลุกลามต่อไปอีก

"เนื้อหาที่จะแก้ ควรรับฟังความเห็นจากประชาชนก่อน แล้วมาตกลงกันว่า จะแก้ประเด็นใดที่เห็นร่วมกัน ส่วนที่ตกลงกันไม่ได้ ให้นำไปสู่การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน"

ทั้งนี้ เขาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่จะตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาอีก เพราะมีการศึกษามามากพอแล้ว เพื่อให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทั้งสามฝ่ายไม่ควรสร้างเงื่อนไขให้เกิดความระแวง จนยากที่จะนำไปสู่ความร่วมมือร่วมกันได้

รมว.พาณิชย์ตรวจสต๊อกข้าวไร้เงาม็อบเสื้อแดงป่วน

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่โรงสีและโกดังกลางบริษัทศิริภัทรไรซ์ เลขที่ 164 ม.8 ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เดินทางมาตรวจเช็คสต๊อกข้าวที่โรงสีและโกดังกลาง บริษัทศิริภันทรซ์ โดยมี นางอุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์ณภัทร สุขวัฒนลาภ กรรมการผู้จัดการ ให้การต้อนรับ โดยปราศจากม็อบเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านแต่อย่างใด

นางพรทิวา กล่าวถึงผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่ผ่านมา ว่าในส่วนของการส่งออกนั้นไม่ได้รับผลกระทบ เพราะรัฐบาลแก้ปัญหาได้รวดเร็ว แต่ในระยะยาวถ้าหากมีปัญหาการชุมนุมยืดเยื้อจะต้องมีผลกระทบอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้มีนโยบายออกมา เพื่อที่จะหามาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ซึ่งขณะนี้การส่งออกของไทยไม่ดี ดังนั้น จึงต้องทำให้ดีที่สุด คือให้ลบน้อยที่สุดถึงไม่ลบเลย แต่ครั้งนี้โชคดีว่าการชุมนุมไม่มีการปิดสนามบินเหมือนครั้งที่แล้ว ผลกระทบจึงอาจมีไม่มากเท่าไหร่

นางพรทิวา กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการค้าขาย กระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาตรการไปแล้วล็อตแรก โดยมี 5 มาตรการหลัก ซึ่งก็ได้ผลดีระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่า เรื่องของการส่งออกเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลก คู่ค้าใหญ่ของไทยคือประเทศจีนกับญี่ปุ่น มีการนำเข้าส่งออกกับประเทศคู่ค้านี้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่อเมริกากระทบไทยแน่นอน

ซึ่งที่ผ่านมาทางกระทรวงพาณิชย์ได้ออก 5 มาตรการก็ได้ผลดี แต่ครึ่งปีนี้ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์บ้านรุนแรงขึ้นอีก ก็เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นมากแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของประเทศไทย แต่ก็ต้องขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ส่วนในไตรมาส 2 กระทรวงพาณิชย์จะใช้ยาแรงที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนกรณีเรื่องการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในขณะนี้นั้น นางพรทิวา กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบต่อการส่งออก ซึ่งตนก็เข้าใจว่ารัฐบาลคิดว่าเพื่อความสงบก็ต้องคงไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอกว่าคงไม่นาน เพราะจะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook