เผชิญหน้า! เจ้าสาวอึ้งคำพูดเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง ไม่มั่นใจเป็นพ่อเด็ก-อ้างใส่ถุงยาง

เผชิญหน้า! เจ้าสาวอึ้งคำพูดเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง ไม่มั่นใจเป็นพ่อเด็ก-อ้างใส่ถุงยาง

เผชิญหน้า! เจ้าสาวอึ้งคำพูดเจ้าบ่าวหนีงานแต่ง ไม่มั่นใจเป็นพ่อเด็ก-อ้างใส่ถุงยาง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าสาวถูกเบี้ยวงานแต่ง ลั่นกลางรายการ "ไม่รับคำขอโทษจากบ้านนี้" ยันพร้อมตรวจ DNA และเอาเรื่องถึงที่สุด

กลายเป็นประเด็นร้อน "น้องมะนาว" เจ้าสาวถูกเบี้ยวงานแต่ง ต้องมานั่งเผชิญหน้ากับ อดีตเจ้าบ่าวและครอบครัวใน รายการโหนกระแส ฝ่ายเจ้าสาว เปิดเผยว่า ตนเองท้อง และฝ่ายเจ้าบ่าวรับปากกับตนว่าจะทำเพื่อลูก จึงเชื่อว่าอย่างไรเขาก็จะมา ตนเองไม่รู้มาก่อนว่าเขาอายุ 18 เพราะเขาโกหกว่าอายุ 23 ปี เงินค่าสินสอดทุกอย่างตนเองยอมหามาเอง 200,000 บาท ต่อให้ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่มีเงินสักบาทมาแต่ง ตนเองก็ยอมจ่ายเอง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่าใช้จ่ายงานแต่งที่เกิดขึ้น ตนต้องการให้ทางครอบครัวฝ่ายเจ้าบ่าวรับผิดชอบส่วนตรงนี้ทั้งหมด จำนวนเงิน 600,000 บาท เพราะฝ่ายเขาผิดสัญญาตามข้อตกลงที่ว่าจะมาขอ

นอกจากนี้ มะนาว ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้หญิงที่แชทมาบอกว่า ระวังจะเป็นหม้ายขันหมาก ก่อนที่จะมีงานแต่งนั้น ตนไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้เขาจะทำจริง อยากบอกว่าคุณชนะแล้ว เพราะตนเป็นหม้ายขันหมากจริงๆ

ทางด้านอดีตเจ้าบ่าว เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนเองไม่ยอมมางานแต่งเพราะเรื่องสินสอด แต่ตอนนี้ตนเองไม่ได้รักมะนาวแล้ว ใจมันบังคับกันไม่ได้ และที่ตอนแรกยอมจะแต่งงานและไปถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะคุยกันแล้วเรื่องค่าสินสอดว่าฝ่ายมะนาวจะออกเอง เนื่องจากที่บ้านตนไม่มี พอเกิดเรื่องขึ้นตอนนี้ ตนเองก็รู้สึกผิด 

ขณะที่ พ่อของเจ้าบ่าว เปิดเผยว่า เรื่องส่วนตัวตนไม่รู้ให้เขาคุยกันเอง รับรู้เพียงเรื่องจะให้ไปขอแต่งงาน ตอนแรกตนไม่รู้เลยว่ามะนาวท้อง และเมื่อถามลูกชายเขาก็บอกว่าเขาไม่มั่นใจว่าลูกในท้องเป็นของเขาหรือไม่ เพราะมีอะไรกันครั้งเดียวและใส่ถุงยางอนามัย เมื่อมีการถามย้ำกลางรายการฝ่ายชายก็บอกออกมาว่า "ผมไม่มั่นใจ" ซึ่งคำพูดที่ออกมาจากปากของเจ้าบ่าว ทำให้ฝ่ายหญิงถึงกับอึ้ง และยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตอนที่มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีการป้องกันด้วยการใส่ถุงยางอย่างที่ฝ่ายชายบอก

หลังจากนั้น น้องมะนาว จึงประกาศกลางรายการว่า ตนไม่รับคำขอโทษจากบ้านนี้ พร้อมที่จะตรวจดีเอ็นเอและพิสูจน์ทุกอย่าง รวมทั้งดำเนินคดีถึงที่สุด และจากนี้ก็จะไม่คุยอีกแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook