จนท.ยังไม่พบร่างครูสอนดำน้ำ-ศิษย์

สุดสลด!ครูสอนดำน้ำ-ลูก ศิษย์ที่ถูกทะเลอ่าวแสมสารคลั่งกลืนร่างหายไป อย่างไร้ชะตากรรม น่าจะจมน้ำเสียชีวิตแล้วขณะที่กองทัพเรือภาค 1 ปรับแผนออกค้นหาตัว ระดมกำลัง ใช้ ฮ. บินค้นหาบนผิวน้ำในระยะไกล แต่ใช้เวลานานกว่า 20 ชั่วโมง กลับไม่พบตัวแต่อย่างใด ด้านผู้ช่วยครูฝึกดำน้ำ มั่นใจหากทหารเรือใช้เครื่องบินออกตรวจสอบ คงจะพบตัวอย่างแน่นอน

จากกรณี น.อ.ศุภสิทธิ์ บูรณะโอสถ รองผู้อำนวยการ กองกิจการพลเรือน (รอง ผอ. กพร.ทรภ.1) และหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 (หน.ศปก.ทรภ.1) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก นายธีรยุทธ ติระรณกรกุล ผู้ช่วยครูฝึกสอนดำน้ำ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุขณะดำน้ำในทะเล ที่บริเวณอ่าวแสมสาร จ.ชลบุรี ทำให้ นายวิวัฒน์ ติระรณกรกุล อายุ 35 ปี ครูสอนดำน้ำ และ นายโพช สว่างวงศ์เสรี อายุ 25 ปี นักเรียนดำน้ำ ถูกคลื่นทะเลพัดสูญหายไป อย่างไรก็ตาม ทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ. ทรภ.1 ทร.) ได้ส่งเรือตรวจการณ์ และเรือยางชุดปฏิบัติการพิเศษ เร่งออกค้นหาอย่างเร่งด่วนแล้ว แต่ยังไม่พบตัวแต่อย่างใด ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 พ.ค. พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผบ.ทรภ.1 ทร. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานจากเรือตรวจการณ์ และชุดปฏิบัติการพิเศษว่า จากการออกค้นหานายวิวัฒน์ ครูสอนดำน้ำ และ นายโพช นักเรียนดำน้ำตามเกาะแก่งต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในการค้นหาแต่อย่างใด จึงได้สั่งการให้ พล.ร.ต.วรศักดิ์ จันหนู รอง ผบ.ทรภ.1 ปรับแผนบินตรวจการณ์ และออกลาดตระเวนในอ่าวไทย ใช้เฮลิคอปเตอร์แบบ ซูเปอร์ลิงค์ มาช่วยดำเนินการค้นหาระยะไกล พร้อมกับสั่งการให้ ร.อ.สุทธิพงศ์ หมวดเล็ก ผู้บังคับเรือ และข้าราชการประจำเรือ พาชุดปฏิบัติ การพิเศษ นำเรือยางเดินทางออกไปช่วยกันค้นหาอย่างต่อเนื่องอีกทางหนึ่ง แต่หลังจากการค้นหาผ่านไปกว่า 20 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบผู้สูญหายแต่อย่างใดเช่นกัน

พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่า ครูสอนดำน้ำ และลูกศิษย์ อาจจะจมน้ำเสียชีวิตแล้ว แต่อย่างไรก็ดี คงต้อง ออกลาดตระเวนตรวจสอบในระยะไกล และใกล้อย่างละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งคงต้องรอให้ศพลอยขึ้นมาบนผิวน้ำจึงจะมองเห็น เพราะกระแสน้ำเชี่ยวกรากมาก รวมทั้งยังไม่ทราบว่าครูและลูกศิษย์ถอดถังก๊าซและอุปกรณ์ที่หนักออกทันหรือ ไม่ เพราะถ้าหากถอดออกไม่ทัน จะทำให้มีน้ำหนัก ถ่วงลงไป และทำให้เกิดความล่าช้าไปอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นจึงจะต้องใช้เวลาในการติดตามค้นหากันต่อไป

ด้าน นายธีรยุทธ ผู้ช่วยครูฝึกดำน้ำ กล่าวว่า ช่วงคืนวันที่ 10 พ.ค. นักดำน้ำ ผู้ช่วยครูฝึก และผู้ติดตามราว 20 คน ได้เช่าเรือประมง และเรือนำเที่ยว 2 ลำ ออกตระเวนค้นหาผู้สูญหายแต่ก็ไม่พบตัว ทำให้มั่นใจว่าทั้ง 2 คน จมอยู่ใต้ทะเล จึงต้องขอความเมตตาจากกองทัพเรือ และตำรวจน้ำ หรือหน่วยงานในพื้นที่ระดมกำลังในการค้นหาต่อไป เพราะถ้าศพลอยขึ้นมาแล้วถูกพัดไปในระยะไกล จะทำให้การค้นหายากยิ่งขึ้น แต่เชื่อว่าถ้าหากทหารเรือใช้เครื่องบินออกตรวจสอบ คงจะพบตัวอย่างแน่นอน.