สหรัฐ "คว่ำบาตร" จีน หลังไม่พอใจ ซื้อมิสไซล์-เครื่องบินขับไล่ จากรัสเซีย

สหรัฐ "คว่ำบาตร" จีน หลังไม่พอใจ ซื้อมิสไซล์-เครื่องบินขับไล่ จากรัสเซีย

สหรัฐ "คว่ำบาตร" จีน หลังไม่พอใจ ซื้อมิสไซล์-เครื่องบินขับไล่ จากรัสเซีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐบาลสหรัฐประกาศการคว่ำบาตรกองทัพจีนเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากจีนซื้อเครื่องบินขับไล่รัสเซีย รุ่น ซูคอย ซู-35 เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว และขีปนาวุธ (มิสไซล์) แบบนำวิถีพื้นสู่อากาศ รุ่น เอส-400 จากรัสเซียเช่นกัน เมื่อเดือน ม.ค. ปีนี้

AFPเครื่องบินทิ้งระเบิดซูคอย ซู-35 ลงจอดที่ฐานทัพฮเมมิม จ.ลาตาเกีย ทางเหนือของซีเรีย เมื่อปี 2559

AFPระบบขีปนาวุธนำวิธีพื้นสู่อากาศพิสัยกลางและไกล รุ่น เอส-400 ของรัสเซีย เคลื่อนผ่านจัตุรัสแดง ใจกลางกรุงมอสโก ของรัสเซีย เพื่อซ้อมพิธีสวนสนามฉลองวันชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2560

การคว่ำบาตรครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ใช้กฎหมายต่อต้านศัตรูอเมริกาผ่านการคว่ำบาตร (แคตซา) ที่รัฐสภาสหรัฐเห็นชอบเมื่อปีที่แล้ว มาลงโทษบุคคลที่ 3 ที่ทำธุรกิจหรือทำข้อตกลงกับบริษัทหรือชาวรัสเซียที่ถูกขึ้นบัญชีดำ 

ส่วนหน่วยงานจีน ที่โดนคว่ำบาตรครั้งนี้ คือ กรมการพัฒนายุทโธปกรณ์ (อีดีดี) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพจีน และนายหลี่ ซ่างฝู ผู้อำนวยการของอีดีดี 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของสหรัฐ ยอมรับว่า รัฐบาลใช้ความเป็นไปได้จากการคว่ำบาตรโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายแคตซา เพื่อยับยั้งการโอนถ่ายอาวุธข้ามประเทศมาหลายเดือนแล้ว แต่จีนกลับฝ่าฝืนและซื้อซูคอยและมิสไซล์ เอส-400 ทำให้เราต้องใช้กฎหมายมาจัดการเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนดังกล่าว บอกว่า กฎหมายแคตซาไม่ได้มีเจตนามาใช้บ่อนทำลายความสามารถด้านการป้องกันตนเองของประเทศใดประเทศหนึ่ง

ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่คนนี้ก็ยอมรับอีกว่า การใช้กฎหมายนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณไปยังตุรกี ที่พักหลังระหองระแหงกับสหรัฐ แถมยังสั่งซื้อมิสไซล์ เอส-400 จากรัสเซียด้วย ว่าต้องการให้คิดทบทวนอีกครั้ง เกี่ยวกับการเข้าไปกระชับสัมพันธ์ด้านการทหารและข่าวกรองกับรัสเซีย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook