สุรินทร์เจอ "พายุฝน" ถล่มกลางดึก ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน

พายุฝนพัดถล่มกลางดึก บ้านเรือนชาวบ้านหลังคาเปิดกว่า 20 หลัง ลมพัดปลิวสังกะสีไปไกล เสาไฟฟ้าเอียงไฟดับ ข้าวของเสียหายกระจัดกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว

18 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพายุฝนรุนแรงพัดกระหน่ำถล่มบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ทำให้เกิดความเสียหาย หลังคาบ้านเปิดพังหลายหลังคาเรือน โดยเฉพาะที่หมู่บ้านตะตึงไถง หมู่ที่ 5 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์

พบว่าเกิดพายุฝนและลมกรรโชกอย่างรุนแรง ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหาย ข้าวของปลิวกระจัดกระจาย หลังคาบ้านเปิดปลิวว่อนหลายหลังคาเรือน และมีต้นไม้ใหญ่หักโค่นหลายจุด รวมถึงเสาไฟฟ้าเอียงได้รับความเสียหายทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 2 ชั่วโมง

สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก และต้องอาศัยบ้านของเพื่อนบ้านในการนอนพักชั่วคราวก่อนตลอดคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ของ อบต.นอกเมือง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายแล้ว

โดยพบบ้านเรือนเสียหายแล้วกว่า 20 หลังคาเรือน และจะได้มีการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายในเบื้องต้นต่อไป ทั้งนี้ก่อนที่จะเกิดพายุฝนรุนแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาอากาศในพื้นที่ร้อนอบอ้าวเป็นอย่างมาก และพบว่าในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เกิดฝนทิ้งช่วงมาแล้วกว่า 2 เดือน

คุณยายเพียร สามสี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 5 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ ผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาขณะที่ตนเองนอนหลับอยู่กับหลานๆ ได้ยินเสียงพายุฝน ฟ้าร้องดังสนั่น และเสียงลมพัดกระหน่ำเข้ามาจึงออกมาดูบริเวณหน้าบ้าน

เห็นหลังคาหน้าบ้านพังหักลงมา และสังกะสีตัวบ้านก็ปลิวหลุดออกไปหลายแผ่น รวมถึงเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟเอียงมาทางตัวบ้าน ทำให้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เพราะพักอยู่กับสามี คือ ตาสุด เจ็ดประโคน อายุ 62 ปี ที่สุขภาพไม่แข็งแรงและหลานๆ ที่ยังเล็ก

จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเข้ามาช่วยเหลือตรวจสอบความมั่นคงและแข็งแรงของเสาไฟฟ้า ซึ่งเป็นหม้อแปลงไฟบริเวณหน้าบ้านเพื่อความปลอดภัยของตนเองและลูกหลาน

ด้าน นางไพรวรรณ์ เข็มทอง และ นายเรืองศิลป์ เคราะห์ดี ชาวบ้านตะตึงไถง บ้านเลขที่ 252 หมู่ที่ 5 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ เปิดเผยด้วยอาการตื่นตระหนกว่า ช่วงที่ลมพายุฝนโหมพัดใส่ตัวบ้านอย่างหนักได้ยินเสียงบนหลังคาบ้านลั่นเสียงดัง

ก่อนที่สังกะสีบ้านจะหลุดปลิวลงมาหลายแผ่น พร้อมกับฝนที่สาดเข้ามาจนน้ำท่วม ตนและสามีจึงช่วยกันเลื่อนตู้เสื้อผ้าออก แต่ก็มองไม่เห็นเพราะว่าไฟฟ้าดับ ทำให้เกิดความหวาดกลัวจนตัวสั่น เพราะไม่เคยเกิดเหตุพายุฝนรุนแรงเช่นนี้มานานร่วม 10 ปี

นางสาวสุพรรณ มีแก้ว ผู้ใหญ่บ้านตะตึงไถง ม.5 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ตนและนายขวัญชัย ศิริชู สมาชิกองค์การบริหารตำบลนอกเมือง หมู่ 5 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย

ซึ่งเบื้องต้นมีบ้านของราษฎร์ได้รับความเดือดร้อนร่วม 20 หลังคาเรือน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป