"รถพ่วง 18 ล้อ" หลงเลนถนน พุ่งชนประสานงารถเก๋งดับคาที่ 2 ราย

"รถพ่วง 18 ล้อ" หลงเลนถนน พุ่งชนประสานงารถเก๋งดับคาที่ 2 ราย

"รถพ่วง 18 ล้อ" หลงเลนถนน พุ่งชนประสานงารถเก๋งดับคาที่ 2 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

17 พ.ย. 2561 เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.อ.วันชัย กฤชธนากร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถพ่วง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณถนนสิงห์บุรี-ชัยนาท สายเก่า หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สิงห์บุรี

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีแดง หมายเลขทะเบียน กง4066 สิงห์บุรี ชนประสานงากับรถพ่วงฮีโน่ สีฟ้า บรรทุกข้าว 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 81-6961 ชัยนาท ลูกพ่วงทะเบียน 81-6962 ชัยนาท กระจกด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์ ท่าข้าว ส.สุขสันต์พืชผล (ตู่)

สภาพรถด้านหน้ารถเก๋งพังยับเยินโดยตัวรถอัดติดไปถึงที่นั่งด้านหน้า ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อภายหลัง คนขับชื่อ นายวรชัย (นัต) อายุ 32 ปี ส่วนที่นั่งข้างคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ทราบชื่อ น.ส.ศศิวิมล (น้องปุ้ย) อายุ 31 ปี

โดยทั้งสองเป็นแฟนกัน สภาพศพถูกอัดก๊อบปี้ติดกับตัวรถ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องใช้เครื่องตัดถ่างจึงสามารถนำร่างออกมาใช้เวลาประมาณ 20 นาที

สอบสวนนายธวัชชัย อายุ 41 ปี ผู้ขับรถพ่วงคันเกิดเหตุ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างถนน อ้างว่า ตนขับรถบรรทุกข้าวมาจาก จ.ชัยนาท เพื่อที่จะไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างขยายถนนในช่องทางซ้าย มีการวางกรวยกั้นเพื่อบอกให้เลี่ยงช่องจราจรดังกล่าว ตนจึงเลี่ยงหลบเข้ามาในช่องเดินรถทางช่องขวา

เป็นจังหวะเดียวกันที่นายวรชัย ผู้ตาย ก็ได้ขับรถเก๋งมาในช่องเดินรถปกติของตนเอง จึงเป็นเหตุให้พุ่งชนประสานงากันอย่างจัง ลากรถเก๋งไปไกลกว่า 50 เมตร เป็นเหตุให้นายวรชัย และนางสาวศศิวิมลที่นั่งคู่มาด้านหน้าเสียชีวิตทันที

ด้าน นายธวัชชัย เล่าว่า ได้ขับรถส่วนตัวตามหลังรถพ่วงมา ตนไม่เห็นตอนรถชนกัน มารู้อีกทีตอนที่รถพ่วงจอดกลางถนนและตนแซงรถขึ้นมาจึงได้รู้ว่ามีเหตุรถชนกันแล้ว

สำหรับถนนที่กำลังก่อสร้างขยายถนนอยู่นั้นมีเพียงกรวยขวางกั้นจราจรไว้เพื่อบังคับให้เหลือถนนจาก 4 เลนเหลือเพียง 2 เลน มีป้ายบอกแต่ไม่มีสัญญาณไฟกะพริบหมุนฉุกเฉินเตือนให้รู้ว่าเป็นจุดเริ่มและสิ้นสุดการก่อสร้าง อาจทำให้รถที่วิ่งมาด้านซ้ายหลงเลนไม่ได้กลับมาเข้าสู่เลนปกติของตนเองเมื่อถึงจุดสิ้นสุดการก่อสร้าง จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัว นายธวัชชัย คนขับรถพ่วงไปสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตทางครอบครัวได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook