เตือนคนรักโดรน! หนุ่มโพสต์เล่าเรื่องหวิดนอนคุก ปรับ "3 แสน" เพราะไม่ขออนุญาตบิน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เล่าประสบการณ์ส่วนตัว เกี่ยวกับการถูกดำเนินคดี เพราะบินโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาต มาเตือนใจคนที่ชอบบินโดรนเหมือนตัวเองให้ระมัดระวัง และศึกษากฎหมายเก่าแก่เกี่ยวกับการบินให้ดี ก่อนต้องเผชิญประสบการณ์คล้ายๆ กับตน

หนุ่มคนนี้เล่าว่า ที่ผ่านมาได้บินโดรนเพื่อถ่ายบรรยากาศสวยๆ ในกรุงเทพมหานคร จากมุมมองบนฟ้ามาโดยตลอด เมื่อเดือนเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ก็มีโทรศัพท์จากสำนักงานการบินพลเรือนโทรเข้ามาว่า ตนบินโดรนโดยไม่ได้รับอนุญาต และให้เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงที่สำนักงาน ซึ่งตนค่อนข้างตกใจ แต่ก็ได้เข้าไปชี้แจงโดยละเอียด พร้อมทั้งสัญญาว่าจะนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเตือนคนอื่นๆ และคิดว่าเรื่องจะจบลงเพียงเท่านั้น

โขกค่าปรับเกือบ 3 แสน จึงเลือกสู้คดี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านมาถึงเดือน ก.พ. ปีนี้ มีจดหมายและโทรศัพท์มาหาตนว่าให้เข้าไปที่สำนักงานดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อรับฟังโทษปรับของตน เหตุนี้ทำให้ผู้โพสต์ถามปลายสายเกี่ยวกับค่าปรับ แต่คำตอบที่ได้รับทำให้ตนตกใจมาก เพราะค่าปรับสูงถึง 290,000 บาท ซึ่งลดราคาแล้วจาก 320,000 บาท

แม้ตนยอมรับว่า ตนทำผิดกฎหมายจริง แต่ค่าปรับที่สูงขนาดนั้น ทำให้ตนรับไม่ได้ และตัดสินใจไม่ไปในตอนแรก แต่ตอนหลังคิดว่าไม่อยากหนีปัญหา จึงติดต่อเข้าไปอีกครั้งเพื่อเข้าพบคณะกรรมการตัดสินโทษของตน ซึ่งในวันที่นัดพบกัน ตนได้ขอลดค่าปรับ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ทั้งยังโดนขู่อีกว่าอาจจะต้องติดคุกเลยก็ได้ แต่ด้วยความที่มั่นใจว่าไม่ได้บินโดรนเพื่อบุกรุกสถานที่ของใคร หรือเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงติดสินใจไม่เซ็นชื่อชำระค่าปรับ และเลือกสู้คดี

"ผมเชื่อมั่นตัวเองว่า ไม่มีเจตนาบินโดรนเพื่อบุกรุกสถานที่ ไม่มีเจตนาก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย หรือ ล่วงละเมิดความมั่นคงของชาติแต่อย่างใด คือทุกอย่างพูด คุย อธิบายไปหมดแล้ว แต่ทำไรไม่ได้เลย" ผู้โพสต์ระบุ

ศาลสั่งปรับรวม 55,000 บาท ลั่นลาขาดบินโดรน

เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจจาก สน.ราษฏร์บูรณะติดต่อมาให้ไปพบในเดือน ส.ค. เพื่อทำสำนวนส่งศาล ซึ่งหลังจากนั้น ศาลได้ตัดสินให้ตนมีความผิด โดยมีโทษปรับ 5,000 บาท และจำคุก แต่รอลงอาญา 1 ปี เหตุนี้ทำให้ตนออกไปตามหาอีกว่าสำนักงานการบินพลเรือนฟ้องตนที่สถานีตำรวจใดอีกบ้าง พบว่า มีที่ สน.บุปผาราม สน.ปทุมวัน และล่าสุดที่ สน.พญาไท 

อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีถึงขั้นตอนของอัยการ อัยการก็รวมคดีที่เหลืออยู่ ส่งฟ้องทีเดียว ซึ่งตนจ่ายค่าปรับไปทั้งหมด 55,000 บาท และระบุว่า คงจะไม่นำโดรนมาบินอีกแล้วเพราะเข็ด ส่วนสาเหตุที่โพสต์ก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่ชอบบินโดรนและโพสต์คลิปลงโซเชียลมีเดีย ว่าเจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูอยู่ ทั้งยังเตือนคนอื่นๆ ว่าอย่าทำผิดกฎหมาย เพราะอาจโดนอย่างที่ตนเจอมา

"สรุปแล้วจบสิ้นนกระบวนความ ผมเสียค่าปรับจากเรื่องราวนี้ทั้งหมด 55,000บาท แล้วคงลาขาดจากการบินโดรนแน่นอน ที่เล่ามาก็เพื่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ ใครจะแอบบิน ใครจะโพสลงสื่อต่าง ๆ ในเฟซบุ๊ก ในยูทูป ในไอจี ก็ควรระวังไว้ครับ ให้ระลึกว่าเสมอเลยว่า ค่าปรับมันสูงมาก ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จากสนง.การบินพลเรือนยังคงจับตาดูอยู่และทำงานอย่างต่อเนื่องซุ่มดูอยุ่ตามเฟซบุ๊คต่างๆ จากที่เคยถามมาแม้ว่าขอใบอนุญาติมาแล้ว แต่จะทำการขึ้นบินก็ยังคงต้องโทรไปแจ้งขออนุญาติทำการขึ้นบินอยู่ดีครับ"