พัทลุงน้ำท่วมหนัก ชาวบ้านล่องเรือเกี่ยวข้าว บางส่วนเนาเปื่อยเสียหาย

เกิดฝนตกในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ทำให้น้ำฝนที่ตกสะสมบริเวณเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่ที่ราบท่วมถนนซอยในหมู่บ้านและน้ำเอ่อท่วมพื้นที่สวนยางพารา สวนปาล์ม นาข้าวในที่ลุ่ม ชาวนาต้องพายเรือเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำ บางส่วนพบเน่าเปื่อยเสียหาย

19 พ.ย. 2561 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานข่าวกรณีที่เกิดฝนตกในพื้นที่จังหวัดพัทลุง โดยเฉพาะพื้นที่ริมเขาบรรทัดในอำเภอกงหรา และอำเภอศรีนครินทร์ ทำให้น้ำฝนที่ตกสะสมบริเวณเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่ที่ราบท่วมถนนซอยในหมู่บ้านและน้ำเอ่อท่วมพื้นที่สวนยางพารา สวนปาล์ม นาข้าวในที่ลุ่ม

ชาวนาต้องพายเรือเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำ บางส่วนพบเน่าเปื่อยเสียหาย และน้ำยังได้เอ่อท่วมถนนที่บ้านพลายทอง หมู่ที่ 10 ต.พญาขันธ์ อ.เมือง จ.พัทลุง ระดับน้ำสูง 10-20 ซม.

โดยสายน้ำจากสองอำเภอดังกล่าว ได้ไหลผ่านมายังพื้นที่ลุ่มน้ำนาท่อม ในตำบลโคกชะงาย อ.เมือง ลงมาตามลำคลองในพื้นที่ตำบลพญาขันต์ ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มรับน้ำจากฝั่งตะวันตกของจังหวัดก่อนไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา

แต่น้ำระบายได้อย่างช้าๆ เนื่องจากลำคลองตื้นเขินและมีวัชพืชปกคลุมยังไม่ได้รับการขุดลอก ประกอบกับมีการสร้างถนนเส้นทางเชื่อระหว่างหมู่บ้าน แต่มีการท่อระบายน้ำขนาดเล็กเอาไว้

ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจำนวนมากได้เอ่อล้นหลากท่วมพื้นที่การเกษตร สวนปาล์ม นาข้าว เส้นทางข้าวออกหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชนดังกล่าว

นางชิต เพราแก้ว อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 10 ต.พญาขัน อ.เมือง จ.พัทลุง เผยว่า ลงทุนทำนาปลูกข้าวปีละ 20 ไร่ และทำนาปีละ 2 ครั้ง แต่ปีนี้เมื่อทำนารอบ 2 ช้ากว่าปกติ เนื่องจากขาดน้ำในช่วงหน้าแล้ง

เมื่อข้าวในนาเริ่มสุกเก็บเกี่ยวไปได้ประมาณ 14 ไร่ ฝนก็ตกต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ทำให้น้ำท่วมนาข้าว ต้องพาเรือเกี่ยวข้าวที่จมอยู่ใต้น้ำ แต่ก็สามารถเก็บเกี่ยวขึ้นมาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

นาข้าวอีกประมาณ 6 ไร่ ต้องปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำเน่าเปื่อยเสียหาย เนื่องจากมีน้ำท่วมสูง ไม่สามารถพายเรือหรือเดินลุยน้ำเกี่ยวข้าวได้อีกแล้ว จำเป็นต้องปล่อยให้น้ำท่วมนาข้าวจมน้ำ ได้รับความเสียหายประมาณ 6 ไร่ มูลค่าประมาณ 35,000 บาท