ไล่จับข้ามอำเภอ! ผู้ป่วยทางจิตซิ่งเก๋งหลบหนี หลังญาติโร่แจ้งชอบพกปืนหวั่นทำร้าย

ไล่จับข้ามอำเภอ! ผู้ป่วยทางจิตซิ่งเก๋งหลบหนี หลังญาติโร่แจ้งชอบพกปืนหวั่นทำร้าย

ไล่จับข้ามอำเภอ! ผู้ป่วยทางจิตซิ่งเก๋งหลบหนี หลังญาติโร่แจ้งชอบพกปืนหวั่นทำร้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจภูธรแสนสุขขับรถไล่ตามผู้ป่วยทางจิตที่ขับรถเก๋งหลบหนีข้ามอำเภอ ก่อนใช้เวลาเจรจากลางถนนนานเกือบครึ่งชั่วโมง หลังญาติแจ้งว่าชอบมาทำร้ายลูกทั้งสองคน และมักพกอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา เกรงคนอื่นจะถูกทำร้าย

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 20 พ.ย. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีผู้ป่วยทางจิตมาอาละวาดจะทำร้ายเด็ก ซึ่งเป็นลูก อายุประมาณ 15 และ 12 ปี ที่บริเวณร้านขายของฝาก ริมตลาดหนองมน จึงให้มาช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือเด็กทั้งสองคนด้วย จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจแสนสุขที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุให้ช่วยตรวจสอบ

เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ มาพบกับนายรังสฤษฎ์ อายุ 53 ปี มีอาการเหมือนคนคุ้มดีคุ้มร้ายเดินไปเดินมา พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่ร้าน นายรังสฤษฏ์จึงเดินข้ามถนนไปขึ้นรถเก๋งยี่ห้อ BMW สีขาวหมายเลขทะเบียน พพ 7773 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดหนองมนแล้วขับรถหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถตามไปเพราะเกรงว่าชายคนดังกล่าวจะก่อเหตุขึ้นอีก เนื่องจากทางญาติแจ้งให้ทราบว่านายรังสฤษฎ์มักจะพกอาวุธปืนติดตัวอยู่เป็นประจำ จึงต้องใช้ความระมัดระวังกันให้มากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถไล่ติดตามจากตลาดหนองมนไปจนถึงตลาดบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา ระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแสนสุขต้องประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจภูธรศรีราชา จุดไฟแดงบางพระให้เปิดสัญญาณจราจรไฟแดง เพื่อที่จะหยุดรถคันดังกล่าวเอาไว้

ซึ่งหลังจากที่รถติดไฟแดงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงไปเกลี้ยกล่อม แต่นายรังสฤษฎ์ก็ยังไม่ยอมลงจากรถพยายามจะขับรถหลบหนีไปต่อ แต่ไปไม่ได้เนื่องจากรถติดไฟแดงอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากใช้เวลาเจรจาผ่านไปนานเกือบครึ่งชั่วโมง นายรังสฤษฏ์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมลงจากรถ

ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พอรู้จักกับนายรังสฤษฏ์ได้เข้าไปเจรจาจนยินยอมลงจากรถแต่โดยดี แต่ก็ยังมีอาการก้าวร้าวตลอดเวลาพยายามใช้เท้าถีบตำรวจและด่าว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอดเวลา จึงต้องช่วยกันควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรแสนสุข เพื่อให้ระงับสติอารมณ์ก่อนในเบื้องต้นจากการตรวจสอบในรถก็ไม่พบอาวุธปืนตามที่ญาติได้แจ้งเอาไว้

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านญาติ และลูกชายนายรังสฤษฏ์ คือสองพี่น้องวัย 15 ปี กับ 12 ปี ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรีในช่วงเช้า เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยนำตัวนายรังสฤษฏ์ไปรักษาเพราะทั้งสองคนมีอาการหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่กล้านอนที่บ้านเพราะนายรังสฤษฏ์จะมาทุบประตูบ้านในช่วงเช้าตลอด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยควบคุมตัวเอาไว้และส่งไปรักษา เพราะนับวันยิ่งมีอาการหนักขึ้นทุกวัน เนื่องจากไม่ยอมกินยาตามที่หมอสั่ง และไม่ยอมไปหาหมอรักษาอย่างต่อเนื่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook