กรรมการวัดเข่าทรุด ไขกุญแจโบสถ์ให้ชาวบ้านแก้บน เปิดประตูเจอไฟกำลังไหม้

กรรมการวัดเข่าทรุด ไขกุญแจโบสถ์ให้ชาวบ้านแก้บน เปิดประตูเจอไฟกำลังไหม้

กรรมการวัดเข่าทรุด ไขกุญแจโบสถ์ให้ชาวบ้านแก้บน เปิดประตูเจอไฟกำลังไหม้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. (20 ม.ค.62) พ.ต.ท.พยอม ตาลแก้ว รอง ผกก.(สอบสวน) พนักงานสอบสวน สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ที่ภายในโบสถ์ของวัดโสภา หมู่ที่ 2 บ้านกระดี่แดง ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี จึงรีบรุดไปสอบสวนที่เกิดเหตุทันที

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลถอนสมอ จำนวน 2 คัน กำลังฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายในโบสถ์ มีชาวบ้านต่างจับกลุ่มยืนคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  บางคนร้องไห้ด้วยความเสียใจ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในโบสถ์พบว่า ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายทั้งหมดมีโต๊ะไม้มะค่าโมง 4 ตัว ตัวละ 3 เมตร โต๊ะหมู่บูชาชั้น 9 ไม้สัก พรมรองพื้น โคมไฟใหญ่ 15 โคม พัดลม 6 ตัว พื้นหินอ่อน ฐานพระกว้าง 5x4 เมตร ทุกอย่างถูกเพลิงเผาไหม้จนหมด  โดยเฉพาะภาพวาดจิตกรรมฝาผนังใหม่  มีการว่าจ้างช่างมาเขียนภาพพุทธประวัติ  โดยรอบผนังและเพดานในราคากว่า 3 ล้านบาท ที่ช่างพึ่งเขียนเสร็จไป ถูกเขม่าไฟจับจนมองไม่เห็นภาพเขียน ในส่วนองค์พระประธานไม่ได้รับความเสียหายมากนัก  มีเพียงเศษเขม่าไฟเกาะติดเป็นคราบดำเท่านั้น รวมค่าเสียหายเบื้องต้น 5,600,000 บาท

จากการสอบถาม นายอนันต์ แสวงเจริญ อายุ 72 ปี กรรมการวัด ผู้พบเห็นเหตุการณ์คนแรกเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงที่พระฉันเพลเสร็จพอดี และได้มีชาวบ้านมาขอแก้บนภายในโบสถ์ ตนจึงเดินถือกุญแจมาที่โบสถ์สังเกตว่าผนังโบสถ์ด้านนอกร้อนมาก เมื่อเปิดประตูโบสถ์ก็พบเปลวเพลิงและควันไฟกำลังไหม้อย่างรุนแรง  จนตนตกใจเข่าอ่อนล้มลง ก่อนจะรีบลุกมาแจ้งให้ชาวบ้านมาช่วยกันและประสานไปยังเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงมาช่วย 

จากการสอบถาม พระโชค ปานทอง พระลูกวัดที่ถือกุญแจโบสถ์ เล่าว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้มีชาวบ้านมาขอแก้บนภายในโบสถ์ พอแก้บนเสร็จแล้วก็เอากุญแจมาคืนที่กุฏิ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้เปิดโบสถ์อีกเลยจนถึงวันนี้ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรโดยเฉพาะจากจุดพัดลมเสียบปลั๊กค้างทิ้งไว้  จะเห็นพัดลมตรงมอเตอร์หลอมละลายที่พลาสติกจนหลุดจากผนัง  โดยจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook